ถ้าเป็นพระ ต่อให้มีฤทธิจริง ฆรวาสแบบเราก็ไม่มีทางได้เห็น เพราะพระแสดงฤทธิต่อฆราวาสต้องโทษอาบัติ
ทำได้แค่เพียงอ้อมๆ อ้อมไดเแค่ไหนผมไม่ค่อยทราบ กับเรื่องเล่าสมัยเป็นเณร เล่าได้
ถ้าอยากเห็นจริงๆ จะต้องบวชและเป็นลูกศิษย์ท่านให้ได้ ซึ่งการจะหาพระที่มีอภิญญา 6 ก็ว่ายากแล้ว
กว่าจะได้เป็นลูกศิษย์ ก็ยากขึ้นไปอีก และกว่าท่านจะแสดงฤทธิเพื่อสอนธรรมก็ยากไปอีก
เรานั่งไถเฟสติ๊กตอกอ่านกระทู้ อยู่แต่ในสังคมเมืองเข้าป่าก็แค่อุทยาน ยังไงก็หาไม่พบ ให้ตายยังไงก็ไม่พบ

การที่เราประพฤติปติบัติให้รู้ด้วยใจตนเอง จริงง่ายกว่าการตามหาพระที่มีฤทธิ(อภิญญาสมาบัติ)

ไม่มีหรอกครับของแบบนี้

ไม่จำเป็นต้องดูหรอกครับ ถ้าไปเจอหน้าท่านแล้วอยู่ดีๆท่านทักมาตรงๆ เช่น วันนี้ไปกินข้าวร้าน.... ก่อนมาเจอท่าน หรือ 1 เดือนที่แล้วไปเที่ยว ตปท. มา ประเทศอะไร ไปทำอะไรมาบ้าง โดยที่เราไม่เคยเจอพระรูปนั้นมาก่อนเลย ถ้าโดนทักแบบนี้แล้วตรงก็แสดงว่าพระรูปนั้นมีญาณของจริง ไม่จำเป็นต้องอยากรู้ว่าท่านมีหรือเปล่า เพราะเราไม่รู้หรอกถ้าไม่ได้มีญาณแบบท่าน แต่ผมคิดว่าท่านจะไม่ทักทุกคนหรอก ทักเฉพาะคนที่อาจจะมีของเก่ามาหรือสนใจเรื่องญาณ/อภิญญานั้นอยู่แล้วหรืออาจจะเหตุผลอื่นที่จำเป็นต้องทัก แต่ส่วนใหญ่จะไม่พูดตรงๆ จะพูดแบบอ้อมๆ การจะทักใครสักคนท่านน่าจะดูก่อนแหละว่าสมควรทักไปไหม อันนี้ผมเดาเอานะ

บินได้ครับ

อวดอุตริ

หลวงพ่อวัดที่บ้านผมไปบ่อย ท่านห้ามน้องชายกับทิดที่พึ่งสึกไม่ให้ออกจากวัด แต่เค้าไม่เชื่อ น้องชายแอบออกไปเที่ยวตาย ทิดรถชนตายแถวหน้าวัดเลย (ไม่ได้ไปด้วยกันนะครับ ต่างวันเวลา ผมเล่ารวม)

พระมีญานวิเศษมีจริงแต่ดูไม่ออกหรอกครับ จะรู้เฉพาะคนที่มีญานระดับเดียวกันเพราะตาในเขาเห็นกันได้ ส่วนคนภายนอกมีแค่ตาเนื้อมองไม่ออกหรอก ขนาดศิษย์ใกล้ชิดยังไม่ค่อยจะรู้เลย ที่รู้ๆ กันส่วนมากคือแสดงให้ดูในสิ่งที่ตัวเองไม่มีแล้วให้ศิษย์มาพูดต่อสร้างกระแสกันทั้งนั้น

ผมรู้จักพระอาจารย์รูปหนึ่ง รู้จักกันมานานมาก ไปช่วยงานวัดท่านบ่อยๆ และเคยไปช่วยท่านจัดขบวนไปทอดกฐินโจรตามวัดต่างจังหวัดไกลๆ ที่ร้างกฐิน ท่านก็เป็นพระธรรมดา คุยเฮฮาแบบไม่มีพิธีรีตองไม่คิดว่าท่านมีดีวิเศษอะไร

ครั้งหนึ่งผมได้พระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุในเกศพระประธานที่สร้างถวายไปวัดแถวอุบลราชธานี แต่บรรจุไม่หมดแบ่งไว้ส่วนหนึ่งเพื่อไปถวายอาจารย์เพราะเห็นท่านสร้างพระบ่อยๆ จะให้ท่านบรรจุในเกศพระเหมือนกัน ผมเอาพระธาตุใส่ถุงซิปไปหาท่านแบบไม่ได้บอกว่าจะเอาพระธาตุไปถวาย ไปถึงก็เอาถุงพระธาตุวางไว้ด้านหลังแล้วกราบท่าน พอกราบเสร็จเงยหน้าขึ้นเห็นท่านหยิบพานมาตั้งแล้วบอกว่าข้างหลังน่ะเอามาวางที่นี่ ผมว่าท่านไม่ควรจะมองเห็นนะเพราะผมนั่งบังอยู่ แต่ถึงเห็นก็ไม่ควรจะรู้ว่าเป็นอะไร ผมก็หยิบส่งให้ ท่านก็รับไปวางบนพาน ผมถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าผมเอาพระธาตุมา ท่านบอกว่ารู้สิ ตามมากันเป็นขบวนเต็มวัดไปหมด

อีกครั้งหนึ่งมีพระที่แม่สอดบอกว่ามีคนอยากได้พระพุทธรูปไปประดิษฐานในโบสถ์ เป็นชุมชนไทยในพม่าฝั่งเมียวดีลึกเข้าไปประมาณ 3 กม. เขาบอกมาว่าอยากได้พระขนาด 40 นิ้ว ผมก็ว่าทำไมองค์เล็กจังขอดูที่ตั้งหน่อย เขาก็ถ่ายรูปที่ตั้งส่งมาให้ดู วัดระยะให้ดูด้วยว่าตั้งได้แค่ 40 นิ้วจริงๆ ผมก็เพิ่งรู้ว่าโบสถ์พม่าเขาสร้างเล็กนิดเดียวไม่ได้ใหญ่โตเหมือนโบสถ์ไทย ผมก็ไปขอพระจากพระอาจารย์เพราะเคยเห็นในกุฏิท่านมีพระพุทธรูปหลายองค์ พอท่านให้ผมก็จ้างรถปิ๊กอัพไปขน วันนั้นผมไม่ได้ไปด้วยเพราะติดรับลูกค้าอยู่เลยต้องคุยทางโทรศัพท์ คนขับปิ๊กอัพโทรมาถามผมว่าพระอาจารย์ท่านมีอะไรดีหรือเปล่าเขาเห็นแปลกๆ ผมก็ถามว่าแปลกยังไง คนขับรถบอกว่ารับพระหน้าตัก 40 นิ้วขึ้นรถแล้วกำลังผูกเชือกอยู่พระอาจารย์บอกว่าให้ตามไปยกอีกองค์นึงหน้าตัก 30 นิ้ว อาจารย์เข้ากุฏิไปก่อนคนขับรถตามเข้าไปทีหลัง ไปเห็นอาจารย์กำลังพูดกับพระพุทธรูปว่าไปกับเขานะอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไร ไปกับเขาจะได้เป็นพระประธานในโบสถ์ คนขับรถยกพระขึ้นรถแล้วโทรมาบอกผมว่าแปลกๆ พระอะไรทำไมคุยกับพระพุทธรูป
ผมคิดว่าท่านคงพูดไปงั้นแหล่ะ แต่ต้องรีบโทรไปหาท่านบอกว่าทางฝั่งพม่าขอพระ 40 นิ้วองค์เดียว ถ้าเอา 30 นิ้วไปด้วยจะไม่มีที่ตั้ง ท่านก็บอกเอาไปเถอะ ทำเอาผมมึนไปเลยว่าจะเอาไปไว้ที่ไหน ก็ได้แต่โทรไปบอกพระที่แม่สอดว่ามีพระไป 2 องค์นะ เกินไปองค์นึง ฝากท่านว่าชาวเขาที่ไหนที่เพิ่งสร้างสำนักสงฆ์ช่วยส่งต่อให้ด้วย
ผมยังไม่จบงานกับลูกค้าก็เลยยังไม่ได้ขึ้นไป แต่พระทางแม่สอดส่งรูปถ่ายมาให้ดูว่าขนพระไปเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 องค์ ท่านเล่าให้ฟังว่าคนไทยฝั่งพม่ามากันเยอะมารับพระยกไปทั้งสององค์นั่นแหล่ะ ข้ามเรือแล้วก็ขนต่อกันทางรถ พอไปถึงวัดก็ยกลงทั้งสององค์ องค์ 40 นิ้วตั้งพักไว้ แล้วทุกคนก็มาช่วยกันแห่องค์ 30 นิ้วเข้าไปตั้งในโบสถ์หน้าตาเฉยแล้วก็ฉลองกันใหญ่ ผมบอกพระท่านว่าเขาลืมหรือเปล่าว่าขอมาขนาด 40 นิ้ว พระท่านว่าแล้วแต่เขา ผมก็เป็นห่วงว่าแล้วองค์ 40 นิ้วล่ะไปตั้งไว้เฉยๆ จะทำยังไง พระท่านบอกว่าพอดีมีแม่ชีมาจากอีกวัดหนึ่งมาร่วมพิธีตั้งพระด้วยแล้ววัดที่แม่ชีอยู่ไม่มีพระประธานเลยขอองค์ 40 นิ้วไป
สรุปว่าทั้งสององค์ไปเป็นพระประธานในโบสถ์ทั้งสององค์ องค์ละวัด ที่แปลกคืออาจารย์ผมท่านนึกยังไงที่ขอองค์เดียวแต่ให้ขึ้นรถสององค์ แถมบอกว่าอยู่ที่นี่ไม่มีอะไรไปกับเขาจะได้เป็นพระประธานในโบสถ์เสียอีก แบบนี้เรียกว่าญานรู้ได้หรือเปล่า

จริงๆ มีอีกหลายเรื่องที่ทำให้เชื่อว่าท่านมีญาน แต่รู้แล้วก็เฉยๆ นะ เพราะเวลาเรามีปัญหาอะไรท่านก็ช่วยพลิกชีวิตอะไรให้เราไม่ได้ก็เลยมองว่าท่านเป็นพระธรรมดาที่บังเอิญรู้เห็นในสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็นเท่านั้น

เพ้อเจ้อ ไม่ทำกับข้าวแดกเองแล้วหลอน

ถ้ามันมีจริงๆ ผมว่าโดนองค์ลับทหารของพวกประเทศมหาอำนาจจับไปทดลองศึกษาแล้ว นี่คืออาวุธสอดแนมที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษยชาติมีเลย

พระที่กะหาแดกยาวๆบอก
กูหลอกควายอยู่ดีๆ ลากกูออกมาตบกลางสี่แยกทำไมวะ