สำรองคอมโบ! มาห์เรซซัดชัย 'เรือ' บุกเชือดสิงห์ 1-0 ไล่ปืนต่อ
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เป็นเกมที่มีโอกาสด้วยกันทั้งคู่แต่ได้แค่หวาดเสียวก่อนสองสำรองของทีมเยือนเป็นทีเด็ด แจ็ค กรีลิช จ่ายให้ ริยาด มาห์เรซ ซัดประตูชัยพา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกชนะ เชลซี 1-0 เก็บสามแต้มล้ำค่าตามหลังอาร์เซน่อล 5 แต้ม
เชลซี
Starting Formation: 4-2-3-1
32.
มาร์ค คูคูเรญ่า
69'
6
10.
คริสเตียน พูลิซิช
22'
6
17.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
5'
6
22.
ฮาคีม ซีเยค
69'
6
ตัวสำรอง
23.
คอเนอร์ กัลลาเกอร์
69'
6
30.
คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า
22'
6
56.
โอมารี ฮัตชินสัน
69'
6
67.
ลูอิส ฮอลล์
69'
6
9.
ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง
5'
69'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
พฤหัสบดีที่ 5 มกราคม 2566
กรรมการ พอล เทียร์นี่ย์
เชลซี
0
1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แกรม พอตเตอร์ ปรับ 2 ตำแหน่ง จอร์จินโญ่ และ เมสัน เม้าท์หายไปจากตัวจริงโดยเป็น มาเตโอ โควาซิช และฮาคีม ซีเยค ลงมาแทน แดนหน้า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงสนามทำให้ ปิแอร์-เอเมริก โอบาเมย็อง เป็นสำรองต่อไป ด้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปลี่ยน 4 คนเลย วอล์คเกอร์, คันเชโ,, กุนโดกัน และโฟเด้น ได้ออกสตาร์ตตัวจริง ขณะที่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ มีชื่อบนม้านั่งสำรอง
ราฮีมเดี้ยงแต่หัววัน
พอตเตอร์ ต้องเปลี่ยนตัวไวเลยเมื่อราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเอาทางปิแอร์ เอเมริก-โอบาเมย็อง ลงสนามมาตั้งแต่ต้นเกมเลย
สโตนส์เซฟเรือ!พูลิซิชหลุดยิงโดนปั๊ม
เชลซี ได้ลุ้นประตู คูคูเรญ่า ตัดบอลได้กลางสนามก่อนกระชากขึ้นมาเองแล้วไหลให้ ฮาแวร์ตซ์เบิ้ลจังหวะเดียวให้ เม้าท์หลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายจะยิงแล้วแต่สโตนส์ ยังไวพุ่งมาเสียบเอาไว้พอดิบพอดี
สิงห์ปวดตับ!พูลิซิชเดี้ยงอีกคน
สิงห์บลูส์ มีปัญหาอีก พูลิซิช มีอาการเดี้ยงจนไม่สามารถเล่นต่อไปได้อีกคนทำให้ คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า ได้โอกาสลงสนามแทนช่วงกลางครึ่งแรก
ชุควูเมก้ายิงไม่ผ่านบล็อคกุนโดกัน
ฮาแวร์ตซ์ หลุดขึ้นมาทางขวาได้สวยก่อนไหลเข้ากลางให้ชุควูเมก้า วิ่งเข้ามายิงในกรอบแต่ยังมีกุนโดกันที่พุ่งเข้ามาขวางเอาไว้ทันเวลา
กุนโดกันลองปั่นหลุดเสาไกล
โอกาสยิงของซิตี้ กุนโดกัน ยกบอลให้ เดอ บรอยน์ โหม่งจะให้ฮาลันด์ แต่บอลย้อนหลัง กุนโดกันเติมมาเอาเองก่อนปั่นด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษทว่าบอลหลุดเสาขวามือออกไป
ฮาลันด์หลุดดันจิ้มออก
แบร์นาร์โด้ พลิกบอลสวยก่อนไหลทะลุช่องให้ ฮาลันด์ หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนพยายามดีดเร็วด้วยซ้ายแต่โดนไม่ดีจิ้มบอลออกหลังไปเอง
สิงห์อดนำ!ชุควูเมก้าซัดโคนเสา
สิงห์บลูส์ เกือบได้ประตูขึ้นนำ ฮาแวร์ตซ์ ไหลมาให้ ชุควูเมก้า ลากมาส่องหน้ากรอบเขตโทษบอลพุ่งเรียดผ่านเอแดร์ซอนไปแล้วแต่ไปชนโคนเสาเต็มๆ ก่อนสโตนส์มาเคลียร์ทิ้งไป จังหวะต่อมา ซิตี้สวนได้จบเดอ บรอยน์ ยิงไปเข้าซองเกปา
คันเชโล่กดเต็มเกปาต้องเซฟ
คันเชโล่ พาบอลเข้ากรอบเขตโทษด้านขวาก่อนล็อคหนีคูคูเรญ่าได้สวยแล้วยิงยัดทันทีแต่เกปา ยังล้มตัวปัดออกมาได้ทันเวลา
ฮาลันด์ซัดยังไม่คม
โอบาเมย็องจ่ายคืนหลังพลาดมาเข้าทางของฮาลันด์ ลองยิงด้วยขวานอกกรอบแต่บอลก็หลุดออกหลังไปอีกรอบ
เรือลุยหนักอาเก้โขกชนเสา
จากลูกเตะมุมทางซ้าย เดอ บรอยน์ โยนไปทางเสาไกล อาเก้ ได้โขกเต็มๆ แล้วแต่บอลก็ไปชนเสาอย่างจังอดได้ประตูไปอีกรอบ แล้วจังหวะต่อมา เดอ บรอยน์ ซัดนอกกรอบไปติดเซฟของเกปา
ติอาโก้เต็มข้อ!
เชลซี เกือบได้ประตูบ้าง ชุควูเมก้า เปิดจากริมเส้นซ้ายไปทางเสาไกล ฮาแวร์ตซ์ แตะบอลคืนมาให้ ติอาโก้ วิ่งเข้ามาซัดเต็มๆ แต่บอลหลุดออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ
KBD หวดหลุดกรอบ
เรือใบสีฟ้า ไม่ได้ประตูขึ้นนำอีก แบร์นาร์โด้ โชว์ลากไปสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนไหลย้อนมาให้ เดอ บรอยน์ ตั้งป้อมซัดด้วยขวาแต่บอลก็ยังหลุดเสาแรกไปแบบน่าเสียดาย
สำรองได้ผล! มาห์เรซยิงจ่อเรือนำ 1-0
เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูนำจนได้จากสองตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมา กรีลิช รับบอลจากเดอ บรอยน์ก่อนปาดเรียดไปทางเสาไกลที่มีมาห์เรซโฉบมายิงเหน่งๆ เข้าไปไม่เหลือ 1-0!!!
ฮาแวร์ตซ์โหม่งเบาเกิน
โควาซิชวางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา กัลลาเกอร์โหม่งชงมาให้ ฮาแวร์ตซ์ ถอยมาโหม่งเบาไปเอแดร์ซอนรับสบายแล้วดูเหมือนว่าจะล้ำหน้าไปก่อนด้วย
สิงห์หาช่องเจาะไม่เจอ
เข้าสู่ท้ายเกมแล้ว เชลซี ยังไม่เห็นวี่แววจะได้ประตูคืน ส่วนซิตี้ ก็พยายามดึงจังหวะเล่นตามเกมของตัวเองเพื่อรักษาสกอร์นำกับโอกาสการเก็บชัยชนะ
ฮอลล์หลุดยิงนก
เชลซี บุกมาชุดนี้ได้จบ ชุควูเมก้า พาบอลมาจากกลางสนามก่อนไหลออกซ้ายให้ ฮอลล์ ที่วิ่งมารอพยายามก้มหน้ายิงด้วยซ้ายแต่ดันซัดข้ามคานไปไกลสุดน่าผิดหวัง
เรือทุบสิงห์ไล่ปืน 5 แต้ม
หมดเวลาการแข่งขัน เรือใบสีฟ้า บุกชนะ สิงห์บลูส์ หวุดหวิด 1-0 เพียงพอต่อการคว้าสามแต้มทำให้ลดช่องว่างจากอาร์เซน่อลเหลือ 5 คะแนนแล้ว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
2.
ไคล์ วอล์คเกอร์
46'
6
16.
โรดรี้
86'
7.5
20.
แบร์นาร์โด้ ซิลวา
60'
6.5
7.
เชา คันเซโล่
46'
6.5
47.
ฟิล โฟเด้น
60'
6
ตัวสำรอง
25.
มานูเอล อาคันยี่
46'
6.5
82.
ริโก้ ลูอิส
46'
6
4.
คัลวิน ฟิลลิปส์
86'
6
10.
แจ็ค กรีลิช
60'
7
26.
ริยาด มาห์เรซ
60'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Fri Jan 06, 2023 04:57, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
: 0 ใบ
My Locker
