โกนาเต้จัด 2!!’หงส์’ เกมรับอย่างล่กบุกแพ้ผึ้ง 3-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ซีรีย์ภาคต่อของ เว้าท์ ฟาส แข้ง เลสเตอร์ หลัง อิบราฮิม่า โคนาเต้ สานต่อมีส่วนร่วมกับ 2 ประตูทั้ง OG. ในครึ่งแรกและยางแตกท้ายครึ่งหลังก่อน ลิเวอร์พูล บุกพ่าย เบรนท์ฟอร์ด สุดเน่า 3-1 หยุดสถิติชนะรวดไว้ที่แค่ 4 และ “ผึ้งน้อย” ชนะ “หงส์แดง” เป็นหนแรกในรอบ 85 ปี
เบรนท์ฟอร์ด
Starting Formation: 3-5-2
27.
วิตาลี่ ยาเนลท์

87'
7
8.
มาธิอัส เยนเซ่น

74'
7
3.
ริโก้ เฮนรี่

90+6'
7
11.
ยอน วิสซ่า

74'
7.5
19.
ไบรอัน เอ็มบูโม่

87'
8
ตัวสำรอง
23.
คีน ลูอิส-พอตเตอร์

74'
6
14.
ซามัน กอดดอส

87'
6
7.
เซร์กี้ กาญอส

87'
6
29.
แมดส์ เบค โซเรนเซ่น

90+6'
6
10.
จอช ดาซิลวา

74'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม จีเทค คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม
วันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2566
กรรมการ สจ๊วร์ต อัตต์เวลล์
เบรนท์ฟอร์ด
3
1
ลิเวอร์พูล
1-0 โกนาเต้ 19' (Og.)
2-0 วิสซ่า 42'
3-1 เอ็มบูโม่ 84'
2-1 ออซเลด-แชมเบอร์เลน 50'
ลิเวอร์พูล มาเยือนเบรนท์ฟอร์ดผลงานกำลังดี ชนะในลีก 4 นัดติดต่อกันหนแรกนับตั้งแต่เคยทำได้ 10 นัดช่วงระหว่างเดือนมกราคม-เมษายนปีที่แล้ว
ขณะที่ เบรนท์ฟอร์ด ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน พวกเขาไม่แพ้มา 5 นัดติดในลีก ยาวนานที่สุดบนลีกสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1939 และแพ้ในบ้านแค่นัดเดียวในซีซั่นนี้ต่อ อาร์เซนอล 3-0 เมื่อกันยายนที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล ปรับเปลี่ยนทีมพอสมควรจากนัดชนะเลสเตอร์ 2-1 เมื่อส่ง อิบราฮิม่า โกนาเต้ เล่นเป็นตัวจริงในเกมรับ แบ็กซ้ายเป็น คอนสแตนตินอส ซิมิคาส และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ส่วนเบรนท์ฟอร์ด เสียหายหนัก ไอแวน โทนี่ย์ ที่เจ็บหัวเข่าเกมชนะเวสต์แฮม ฟิตไม่ทันช่วยทีม
ฟาน ไดจ์ควอลเล่ย์จ่อๆ โดนเซฟ
ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ตน่ากลัว กดดันแนวรับไบรท์ตันได้ทันทีและเกือบได้ประตูนำก่อนจาก ฟาน ไดจ์ค วอลเล่ย์จ่อๆ ติดเซฟ ราย่า หวุดหวิด ก่อนจะมีธงล้ำหน้าตามหลังมา
นูนเญซชนะล้ำหน้าได้ซัดโล่งๆโดนเบน มี เซฟ
ลิเวอร์พูลอีกครั้ง คราวนี้ ซาล่าห์ จ่ายบอลให้ นูนเญซ วิ่งสอดชนะแนวรับ ก่อนแตะหนีราย่าเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ต้องชม เบน มี ที่วิ่งตามมาสกัดบอลทิ้งหน้าปากประตูรอดตายอีกครั้ง
เบรนท์ฟอร์ดดีขึ้น เริ่มตั้งหลักได้
เกมของเบรนท์ฟอร์ดดีขึ้น พวกเขาเริ่มตั้งหลักได้หลังโดนลิเวอร์พูลกดดันหนักมากในช่วง 10 นาทีแรก
อลิสซอนซูเปอร์เซฟลูกยิงเอ็มบูโม่
เบรนท์ฟอร์ดได้โต้กลับ จ่ายบอลตัดหลัง ฟาน ไดจ์ค ให้ เอ็มบูโม่ ใช้เกียร์ห้าควบครึ่งสนามเข้าเขตโทษยิงไปติดเซฟอลิสซอน ที่ขยับออกมาปิดมุมได้ไว
เบรนท์ฟอร์ดนำ 1-0 โกนาเต้ยิงตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลไม่รอดอยู่ดี เพราะจังหวะต่อมาเบรนท์ฟอร์ดที่ได้ลูกเตะมุม เปิดเข้าไปโดนขา โกนาเต้ เปลี่ยนทางเบียดโคนเสาเข้าประตูตัวเองไป ชนิด อลิสซอน พยายามควักบอลแล้ว แต่ไม่สำเร็จ 1-0
ราย่าซูเปอร์เซฟลูกยิงซิมิคาสเหลือเชื่อ
ลิเวอร์พูล น่าตีเสมอได้สุดๆ จากลูกหลุดโล่งทางซ้ายของซิมิคาส ว่ายิงดีแล้ว แต่ ราย่า ปฏิกิริยาสุดยอดทิ้งตัวรับบอลได้ทันเหลือเชื่อ
วิสซ่ายิงเข้าอีกลูกแต่ถูกจับล้ำหน้า
เบรนท์ฟอร์ด มาได้ประตูที่ 2 จากลูกขลุกขลิกหน้าปากประตู ก่อนวิสซ่า โดนบอลเป็นคนสุดท้ายิงเข้าไป แต่สุดท้ายไม่ได้ประตู เพราะเขาอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนแล้ว ลิเวอร์พูลรอดตัวไป
วิสซ่ายิงเข้าอีกลูก ก็ถูกจับล้ำหน้าอีก
จากลูกเตะมุม วิสซ่า พักอกก่อนเอี่ยวตัววอลเล่ย์ บอลไปแฉลบเบน มี เสียบเสาไกลเข้าประตูไป แต่สุดถูก VAR เช็คว่า เบน มี ยืนล้ำหน้าอยู่ ผึ้งน้อยไม่ถูกริบประตูอีกครั้ง
วิสซ่าเอาจนได้โขก 2-0 ก่อนพักครึ่ง
อย่างไรก็ตาม วิสซ่า สุดจริง สบัดหัวโขกลูกครอสจากฝั่งขวา อลิสซอน พุ่งสุดเหยียดปัดบอลออกมาได้แล้ว แต่ไม่ทันโกล์ไลน์ทัก บอลข้ามเส้นไปทั้งใบแล้ว เบรนท์ฟอร์ด ขึ้นนำ 2-0 จนได้
ครึ่งหลังหงส์เปลี่ยน 3 ตัวรวด
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล แก้เกมเปลี่ยน 3 ตัวรวด ถอดเอา ฟาน ไดจ์ค, ซิมิคาส และเอลเลียตต์ ออก
ส่ง มาติป, โรเบิร์ตสัน และเกอิต้า ลงสนาม
นูนเญซหลุดครึ่งสนามยิงเข้าล้ำหน้าอีก
ธิอาโก้ วางบอลครึ่งสนามให้ นูนเญซ ใช้ความเร็วควบเข้าไปยิงแสกหน้าราย่า แก้ประตูคืนได้เร็ว แต่สุดท้ายโดนจับล้ำหน้าจังหวะออกตัวนิดเดียวเท่านั้น
เอาจนได้ OX โขกไล่มาเป็น 2-1
ไม่เป็นไร ลิเวอร์พูลพยายามต่อและมาได้ประตูไล่มาเป็น 2-1 จากเทรน์ ครอสบอลทางซ้ายเข้าหัว ออซเลด-แชมเบอร์เลน โขกไร้ตัวประกบเข้าประตูไป
หงส์กดดันอย่างหนัก
เกมครบชั่วโมง ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายบุกกดดันเบรนท์ฟอร์ดอยู่ฝ่ายเดียว สร้างโอกาสจบสกอร์ได้เรื่อยๆ แต่ประตูตีเสมอยังไม่มา
นูนเญซมีโอกาสทองทำเสียของ
ซาล่าห์ดึงกองหลังก่อนจ่ายให้ นูนเญซ หลุดทางขวามีเวลาเล็กเป้าเหลือเฟือ แต่ยิงออกไม่ได้ลุ้น เสียของสุดๆ
โคนาเต้โขกหลุดเสานิดเดียว
ลิเวอร์พูลพยายามเต็มที่ เบรนท์ฟอร์ดถอยลงมารับลึกทำได้แค่ยื้อสกอร์ที่นำอยู่แล้ว
จังหวะนี้ โคนาเต้ ได้โขกลูกเตะมุม บอลหลุดเสาไกลออกหลังนิดเดียว
โกนาเต้ขาอ่อนเบียดแพ้โดนส่องฟรี 3-1
เบรนท์ฟอร์ดได้สวนกลับ โกนาเต้เหลี่ยมดีกว่าแต่ขาอ่อนเบียดแย่งบอลแพ้เอ็มบูโม่ กลายเป็นแจกของขวัญให้หอกผึ้งน้อยยิงคลายความกดดัน 3-1
ผู้เล่นลิเวอร์พูลพยายามประท้วงว่าเป็นการทำฟาวล์ แต่ไม่เป็นผล
ไม่มีอะไรผิดพลาด เบรนท์ฟอร์ดรักษาความได้เปรียบเอาชนะลิเวอร์พูลได้เป็นหนแรกในรอบ 85 ปีได้สำเร็จ 3-1
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-3-3
4.
เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค

46'
5.5
21.
คอนสแตนตินอส ซิมิคาส

46'
6.5
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
7
19.
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

46'
6
15.
อเล็กซ์ ออซเลด-แชมเบอร์เลน

83'
7.5
ตัวสำรอง
32.
โจเอล มาติป

46'
6.5
26.
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

46'
6.5
8.
นาบี้ เกอิต้า

46'
6
17.
เคอร์ติส โจนส์

83'
6
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Tue Jan 03, 2023 02:50, ทั้งหมด 16 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ