เคยทนจนเสียสุขภาพจิตไปหมด ได้แต่ถามตัวเอง เสียเวลาไปทำไมตั้งหลายปี

ทั้งที่มีคนที่ดีกว่ามากๆรออยู่

ไม่รู้ว่าดีกว่ารึเปล่า แต่บอกว่าคิดไม่ผิด

สมัยเพิ่งทำงานใหม่ๆ ต้องตัดสินใจบอกเลิกแฟนที่คบมา 7 ปี อยู่ในสภาวะโทรไปไม่รับ รับสายไม่คุย คุยแปบๆขอวาง ถามว่ามีคนอื่นเหรอ ปากบอกไม่มีๆ แต่การกระทำมันใช่มากๆ

สุดท้ายผมเองทนไม่ไหว มั่นใจมากมีคนอื่นแน่ๆ ถามเลยว่าจะเอายังไง ตอบแค่แล้วแต่ผม ผมบอกเลิกยุ่งกับคนนนั้นแล้วกลับมาคุยกับผม แฟนเก่าผมนิ่งไม่พูดอะไรเลย นั้นแหละทำให้ผมมั่นใจ พูดต่อเลยถ้าเลือกไม่ได้ผมเลือกให้เอง ผมเลิกเอง โคดเสียใจเลยตอนนั้น แต่ไม่โอเคมากๆกับสภาวะกั๊กๆของแฟนเก่า

สรุป กลับมาตอบคำถามละกัน ท้าวความไปไกล ไม่รู้ตัดสินใจถูกไหม แต่สุดท้ายโคตรมีความสุขเลยคับ ได้เจอคนใหม่ ได้เจอความเห้ของแฟนเก่า ได้รู้เรื่องทั้งหมด 555

เอาใจช่วยนะคับ

อึดอัด ไม่สบายใจ ก็ออกมาครับ ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง เราก็ไม่รู้หรอก แต่เราสร้างขึ้นมาได้ หาทางใหม่ได้ อยู่ที่เดิมก็คงเป็นเหมือนเดิมครับ

เคยครับ เป็นอยู่เลย มองหันหลังกลับไปบอกตัวเองว่าทนมาได้ยังไง รู้งี้ออกมาตั้งนานแล้ว ชีวิตดีขึ้นมากครับ

เคยครับ แต่กว่าจะออกมาก็นานอยู่ เรื่องดีๆ ที่เคยมีมันก็เยอะ

อยากฟังแบบคร่าวๆ พอจะสะดวกมั้ยครับของผมก็ประมาณนี้เหมือนกัน เล่าไปก็ไม่มีใครเชื่อ

ต้องขออภัยด้วยครับ ไม่สะดวกเล่าจริงๆ เอาเป็นว่ามันเกิดจากความต่างกันมากจนเกินไป แล้วเค้าบังคับเราทุกอย่าง (ทุกเรื่องในชีวิตจริงๆ) ยอมเพราะตอนนั้นโง่ครับ 5555
มันเป็นช่วงที่แย่มากๆของชีวิต ผมเป็นซึมเศร้า ต้องกินยา เหมือนเป็นบ้า อึดอัดจนทนไม่ไหว ร้องไห้ได้ตลอดเวลา มีหนี้สิน
จนผมเลิกมาแล้ว ชีวิตดีขึ้นมาก เจอคนรักที่ดีมันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นมากๆจริงๆครับ

ถอยเพราะระแวง สุดท้ายเรื่องจริง เป็นชู้กับคนในที่ทำงาน
แต่..ขนาดถอยทันนะ และคิดว่าคิดถูก แต่เจ็บชะมัด เจ็บกับสังคมรอบตัว ยังคิดเลยว่า เอ่อคนเรามันคิดและถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกันจริงๆ

เพิ่งจะตัดสินใจออกมาครับ ก็ไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกแค่ไหน แต่ก็คิดว่ายังไงมันก็ต้องดีกว่าเดิมแน่ๆ แคร์ตัวเองก่อนครับตอนนี้

ประสบการณ์สอน ว่าอนาคตไม่น่าwork ผมmoveล่ะ

บอกตรงไปเลย เป็นข้อๆ

เคยกับแฟนเก่าครับ ไม่ใช่ว่าเค้าหรือเราไม่ดี แต่มันเป็นความเข้ากันไม่ได้ในวัยนั้น รู้สึกเหนื่อยมากๆ พอเดินออกมารู้สึกชีวิตโล่งมาก จนมาเจอแฟนปัจจุบันคือเข้าใจเลยว่าความสัมพันธ์ที่ช่วย support กันมันเป็นยังไง

อีกอันนึงก็พ่อ ไม่เชิงว่าตัดขาดการติดต่อแต่ว่าพอแยกกันอยู่รู้สึกชีวิตโล่งและดีขึ้นเยอะมาก

อย่าเสียดายเวลาที่ผ่านมา จงเสียดายเวลาที่เหลืออยู่
อะไรดีบุ๋มก็ว่าดี ผมเชื่อบุ๋ม

ของผมออกจากบ้านมาอยู่ข้างนอก ตอนอยู่บ้านกะพ่อกะแม่นี่ไม่ไหว Toxic จัดๆ แล้วกลับไปเยี่ยมเอาเป็นครั้งคราว

เคยในความสัมพันธ์ของเพื่อน/คนรู้จัก/ญาติ ก็แล้วกันครับ
แยกออกจากกันแล้วก็สบายใจดี ไม่มีอะไรมา toxic ในชีวิตมากนัก

นานมาแล้วก่อนจะมีแฟนคนปัจจุบันนี้ เคยมีสาว ๆ ที่คุยด้วยเยอะมาก ส่วนใหญ่ทำงานแล้วหรือเป็นนักศึกษา แต่ที่มีปัญหาคือน้องม.ปลายคนหนึ่งมาชอบนี่ละ หน้าตาน่ารักมาก ตอนแรกผมก็เห็นเป็นน้อง แต่นานวันเข้าน้องไม่คิดว่าผมเป็นพี่แล้วล่ะ โทรมาหาเช้าเย็นเลยครับ ปัญหามันจะไม่มีเลยถ้าน้องอายุมากกว่านี้อีกซัก3ปี

ผมที่กลัวจะเกิดคดีล่วงละเมิดผู้เยาว์ รู้ตัวว่าชักหวั่นไหว รีบตัดสินใจบอกน้องไปว่าไม่คิดเกินพี่น้อง แล้วก็บล๊อคเบอร์ไปเลย

ไม่งั้นป่านนี้ผมอาจจะกำลังอยู่ในคุกก็ได้ ตอนนั้นใจผมมันกำลังแกว่งเข้าด้านมืดอยู่ละ