หลังจากดูบอลโลกนัดชิง แล้วเห็นจังหวะลากของท่านประธานตอนสุดท้ายแล้วแบบว่านี่เล่นมา 120+ นาทีแล้วจริงดิ

จังหวะลาก
https://drive.google.com/file/d/1J0uZau6kSebHtDv3CV_ZowTepd_b4lD0/view?usp=share_link

วิ่งสปริ้นท์ไปเก็บบอล เลี้ยงบอลหลบ 2 คน (หนึ่งในนั้นคือปาเรเดสที่เพิ่งลงในช่วงต่อเวลา) แม้จะเสียบอลตอนท้าย แต่หลักแกไม่เสียเลย บาลานซ์ดีมาก

พอไปดูเวลาที่เล่นไปจริง ๆ
ทดครึ่งแรก 7 ทดครึ่งหลัง 8 ช่วงต่อเวลา 3 เกือบ ๆ 4 ล่ะ (ครึ่งแรกไม่ได้ทดมั้ง จำไม่ได้)
รวม ๆ แล้วเล่นไปเกือบ 140 นาที

ความฟิตระดับโลกคือโหดจริง ถึงแม้ว่าเป้มันจะไม่ค่อยได้ช่วยเกมรับมากก็เถอะ


Distance Covered

เห็นแบบนี้ก็เลยลองไปเช็คดูว่าวิ่งกันเท่าไร แต่สถิติส่วนนี้ปกติมันไม่ค่อยเปิดเผยมากนัก (พอเข้าใจได้ ข้อมูลมันก็มีราคาของมันแหละ) เลยเอาเท่าที่เจอละกัน

ในลีกชั้นนำวิ่งรวมเฉลี่ยราว ๆ 100 กม. พูดง่าย ๆ ก็คือ 10 กม.ต่อคนนั้นแหละ
https://football-observatory.com/IMG/sites/mr/mr68/en/

ในไทยหายากมากไม่ค่อยมีสื่อหรือเพจไหนเอามาลงเท่าไร เจอแต่ประมาณนี้

สันติภาพในโพสต์บอกว่าเล่นแบ็คขวา ส่วนจักพันเข้าใจว่าเล่นเซ็นเตอร์ ถ้าไปดูจากลิงค์บนเซนเตอร์วิ่งเฉลี่ยประมาณ 9.2 กม. ส่วนแบ็คเกือบ ๆ 9.9 กม. ซึ่งต่ำกว่าราว ๆ 10-15%

และอันนี้

มันเหมือนจะดีนะมีนักเตะไทยวิ่งเกิน 10 โลเนี่ย แต่นี่คือท๊อป 3 ในแมตช์นั้น คนที่ 3 เหลือแค่ 9.2 โลเอง
ดู ๆ แล้วเฉลี่ยไม่น่าถึง 9 โลด้วย อาจจะแค่ 8.5 ด้วย

นี่แค่ส่วนที่เขาเอามาให้ดูนะ ไม่รู้ว่าปกติวิ่งเยอะเท่านี้มั้ย


ผลกระทบ

จริงอยู่ว่าการที่วิ่งเยอะ ไม่ได้ทำให้ทีมคุณชนะเสมอไป แต่การที่วิ่งที่น้อยกว่ามาตรฐานชาวโลก มันก็ส่งผลต่อสภาพร่างกายได้เหมือนกัน

(ความเห็นส่วนตัว) "ลองคิดดูในลีกเราวิ่งกัน 8.5-9 โลกันจนชิน แล้วไปเจอเกมระดับเอเชียที่ต้องวิ่งกัน 10 โล ไอ้ 8.5 โลที่ว่าเนี่ยน่าจะวิ่งครบกันในช่วง 70-80 นาที สรุปคือเราจะเหนื่อยแบบ 90 นาที ตอนนาที 70-80 หรอ ไม่หรอก

นึกสภาพที่เราซ้อมวิ่ง 5 โลใน 40 นาทีแล้วอยู่ดี ๆ จะวิ่งใน 30 นาที อห เลย 5555

มันไม่ได้เหนื่อยแบบนาที 90 หรอก มันมากกว่านั้น บางทีเกมตึงเพรสเยอะ อาจกลายเป็นนาที 120 ไปเลยก็ได้"


ใครมาก็ตาย

โค้ชกี่คนแล้ว กี่ชาติแล้วที่มาแล้วก็ไป แฟนบอลก็บ่นว่าเล่นไม่เป็นทรงเลย สมควรออกล่ะ อืมมมม

เอาที่สโมสรก่อน น้อยคนมากที่จะอยู่ยาวในไทยลีกได้ (มาโน่คนเดียวเลยมั้ยไม่แน่ใจ) คนที่โปรไฟล์ดี ๆ แฟนบอลคาดหวังว่าจะเล่นเป็นระบบ มักจะจบที่การโดนไล่ออก แรก ๆ มาเล่นอย่างคึก ไป ๆ มา ๆ เล่นอย่างเหี่ยวมันเกิดจากอะไรนะ ทำไมถึงสร้างระบบอะไรไม่ได้เลย

(ความเห็นส่วนตัว)"จะเล่นเป็นระบบหรอ เพรสกันทั้งทีม วิ่งขึ้นลงกันทั้งทีม แต่ฟิตไม่ถึง วิ่งไปก็หมด จะฟิตแค่คน 2 คน ไม่ได้หรอก มันต้องทั้งทีม

โค้ชเกาหลีที่เคยคุมเมืองทอง หึ อยู่ได้กี่เดือนล่ะ โค้ชญี่ปุ่น ยุโรปมากมายที่มาตายรังที่นี่อีก

แค่นี้ก็คงพอแล้วมั้ง คงพอเดาได้บ้างแหละ"

กับทีมชาติ: ความฟิตไม่ได้สร้างกันได้ในอาทิตย์เดียวหรอกนะ ระบงระบบไรหรอ เลอะเทอะ

ให้เป๊ป คล็อปมาคุมแล้วเจอนักเตะความฟิตแบบพรีซีซั่น มาแข่ง โห นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะทำหน้ายังไง


ไปบอลโลก

เล่นได้แค่ 70 นาทีน่ะหรอ เป็นการต่อให้ที่เยอะเสียเหลือเกิน

มันก็เหมือนกันทำงานแค่ 6 ชม.ละบอกเหนื่อย พอล่ะ เลิกกลับบ้านตอนบ่าย 2 ดีกว่า
มันก็เหมือนแข่งพับจี 15 จาก 20 เกม
มันก็เหมือนที่สอบแค่ 2 ชม.แทนที่จะเป็น 3

แน่นอนว่ามันก็มีโอกาส แต่ทำไมต้องทำตัวเองเสียเปรียบแบบนี้ด้วยล่ะ

รอบสุดท้ายที่คัดไปเล่น 10 แมตข์นะ ไม่ใช่บอลถ้วยซะหน่อยที่พลิกชนะแบบแมตช์เดียวได้

นอนฝันเถอะ มันง่ายกว่ามากจริง ๆ

อีกทางก็คือรอฟีฟ่าขยายบอลโลกเป็น 128 ทีมนั่นแหละ


เปลี่ยนได้เลย

พรสวรรค์มันเป็นสิ่งที่แต่ละคนได้มาไม่เท่ากัน บางคนอาจมี potential สูง บางคนก็ไม่ แต่เรื่องนี้มันไม่จำเป็นขนาดนั้นเลยนะ (อาจมีบ้างแหละ ถ้าจะวิ่งเยอะจริงๆ ไม่งั้นเราคงไม่มีแข่งวิ่งกันหรอก) ถ้าจะเอาแค่ตามมาตรฐานมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องใช้ของเยอะขนาดนั้น มันเป็นสิ่งที่ปรับเปลี่ยนได้วันนี้ ตอนนี้เลย ไม่งั้นก็ไม่ต้องไปหรอก บอลโลกเนี่ย

ดูญี่ปุ่นกับเกาหลีแล้วมาย้อนดูนักเตะไทย
- ความสามารถเฉพาะตัวสู้ไม่ได้
- ร่างกายสู้ไม่ได้ (นักบอลลีคส่วนใหญ่หุ่นเป็นกุ้งแห้งอยู่เลย)
- ความเข้าใจเกมสู้ไม่ได้
- หัวใจก็สู้ไม่ได้ ข้อนี้ผมให้เป็นข้อที่สำคัญที่สุด จะนัดไหนก็เล่นแบบเหยาะแหยะ (น่าจะกลัวเจ็บ)

ส่วนสำคัญคือข้อสุดท้าย เอาคนที่มันพอใจแค่นั้น ไม่ทะเยอทะยานมันก็ได้แค่นี้แหละ
จะส่งไปฝึกต่างประเทศ หรือจะเอาระดับโลกมาฝึกก็แค่นั้น

ตราบใดที่บ้านเรายังทำร่างกายและความฟิตให้ดีตามมาตรฐานไม่ได้ ไม่มีทางจะหวังผลความเป็นเลิศด้านฟุตบอลได้เลย
ทั้งที่ต้นทุนทางธรรมชาติยังด้อยและไม่พยามลดข้อเสียเปรียบตรงนี้กับกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายเป็นหลักขนาดนี้ก็ไม่มีวันไปไกลแน่นอน

นักวิ่งไม่ใช่นักบอล แฮร่หยอกๆ คิดง่่ายๆเรื่องความฟิตถ้าทีมวิ่งเฉลี่ยๆ11กิโล อีกทีมวิ่งเฉลี่ย9โล 2กิโลนีวิ่งไปกลับจากประตูถึงประตูหลายรอบเลยนะโอกาสเยอะกว่าอยู่แล้ว อรื่องความฟิตอย่าว่างั้นงี้เลยนะด้วยวัฒนธรรม แบบบ้านเรา ที่เกรงใจผู้ใหญ่เนี่ย ผมว่ามีทีมนึงทำได้และผมว่าน่าจะไม่ใช่โค้ชที่สั่งยกนะดับความฟิตแบบก้าวกระโดดด้วย

แต่ลองนึกภาพเฮดของเฮดโค้ชสั่งสิคิดว่านักเตะจะไม่เกรงใจกล้าไม่ฟิตกล้างอแงใหมผมหวังอยู่ทีมเดียวนี่แหละเรื่องความฟิต พอทีมอื่นสู้ไม่ได้มากๆเดี๊ยวก็ยกระดับตามมาเอง และถ้ายกระดับความฟิตให้เท่าเจลีก หรือบุนเดส เราจะรีดศักยภาพตัวต่างชาติที่เก่งๆได้สุดๆทำให้นักเตะเราเจคนเก่งๆทุกอาทิตย์ ไม่ยกระดับให้รู้ไป เรื่องแทคติคฝีเท้าพอฟิตขึ้นเจอเข้าถึงตัวไวขึ้นก็พัฒนาการเล่นความเข้าใจเกมส์กันไปเอง

ความฟิตโครตสำคัญ อันดับ 1 เลย ผมว่า

ถ้าไม่ฟิต ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก

ดูเวียดดิ ปาร์ค มาคุม เน้นฟิต ดูดีขึ้นผิดตา ทั้งที่เทคนิค เทคติค ไทยเราดีกว่าเยอะ

เบสิค เทคนิคก็ไม่ได้ดีกว่าเค้าอยู่แล้ว

ร่างกายยังแย่กว่าเค้าอีก ไม่ต้องสืบครับ

มี พิชา ของเมืองทองวิ่งเยอะมากขั้นต่ำ 10 โลต่อแมทช์

แล้วไปดูยูทูปสัมคู่หูแดนกลาง บอกมีพิชาคอยวิ่งให้อยู่แล้ว ว่ะซั่น

ถ้าพวกเอ็งไม่วิ่ง แล้วหวังจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวพาไทยไปบอลโลก ก็รอให้บอลโลกมันเตะสัก 80 ทีมอะ ค่อยหวัง
อยากพูดแบบนี้จริงๆถ้าเป็นคนมีอำนาจ

เพิ่มเติม ฟุตบอลคิดง่ายๆ ถ้าคุณมีสกิลที่สู้ไม่ได้หรือสูสี คุณก็ต้องเอาพละกำลังมาบดเพื่อให้เกิดความได้เปรียบมากขึ้น
นี่สกิลเหนือกว่านิดๆ(อาเซียน) แรงก็แทบจะไม่ได้ดีกว่าเลย มันเลยชนะหืดจับแทบทุกรอบ ไม่ต้องพูดถึงเอเชีย แค่ทีมเกรด b ยังยาก เจอ เกรด a เอาแค่ลุ้นเสมอพอ

เคยพิมพ์ในนี้ละ

อยู่ที่ประธานสโมสรจะใส่ใจแค่ไหน
เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้นักเตะแท้ๆ
แต่จะให้นักบอลมาเล่นชิวๆ
กินเงินเดือนสบายๆก็ตามใจ

ให้เงินขนาดนี้ นักบอลไทยที่ไหนจะอยากไปเล่น ตปท


มีข้อเสนอสโมสร ตปท ที่เอเย่นบ้านเราส่งโปรไฟล์ไปยื่นมานะ แต่ค่าเหนื่อยน้อยกว่าที่ไทยให้เยอะ

นักบอลก็ไม่อยากไปเพราะเงินน้อย แถมใช้ชีวิตลำบาก
แต่พวกเกาหลี ญป เขามองว่าเป็นสะพานสู่ลีคใหญ่ ไปกันเยอะจนไม่เหงา ไม่โฮมซิคกันแล้ว เหมือนที่บ้านเราอยากจะไปเจลีคนั่นแหละ เพราะมีเพื่อนร่วมชาติเล่นกันอยู่

ถ้าไปแล้วพัฒนา กลับมาเล่นทีมชาติเล่นกับยักษ์ในเอเชียแบบสูสีหรือชนะได้นะ กระแสบอลไทยคงดีกว่านี้ เพราะหลายคนดูทีมชาติมากกว่าสโมสร
สปอนเซอร์คงอยากเข้ามาในวงการนี้เยอะแน่
แต่สโมสรบ้านเราก็นะไม่ปล่อยไปง่ายๆเหมือน ญป เกาหลีหรอก
เพราะคิดว่า ปั้นมาขนาดนี้ยังใช้ไม่คุ้ม
อายุ 19-22 สโมสรไหนอยากใช้เด็กเป็นตัวจริงบ้างอะ เห็นมายึดตัวหลักกันได้หลังพ้นอายุ 23 วัยกำลังพัฒนาแล้วทั้งนั้น
จากที่เคยมีโอกาสจะไป ตปท สุดท้ายก็หายไปกับระบบการเล่น รัดับไทยลีคหมด


บ้านเราเน้นเปลี่ยนคนมากกว่าการพัฒนา
แต่ เจลีค เคลีค เน้นพัฒนา ไม่ไหวแล้วค่อยเปลี่ยน

นักบอลเราไม่เก่งยังไม่พอ แถม ยังไม่อยากพัฒนาไปเจอพวกเก่งๆอีก แล้วฟุตบอลบ้านเรามันจะไปไหนกันได้


หลานสโมสรยังรอ มุ่งหวังกับเงินสนับสนุนที่ไม่ได้เยอะอยู่เลย
แทนที่จะสร้างความสัมพันธ์กับท้องถิ่นของสโมสร หรือปั้นเด็กขายทีมใหญ่

มองการทำบอลเพื่อคะแนนเสียงให้เป็นผลพลอยได้เถอะ ถ้ายังมองเป็นจุดประสงค์หลักแบบทุกวันนี้คงยากที่จะพัฒนา

Over Salary

เจ้าของสโมสรบ้านเราไม่ได้เอาจริงจัง หรือมีจริงจังก็น้อย คำว่าจริงจังหมายถึงสร้างนักฟุตบอลอันเป้นเลิศนะ ทุกวันนี้ค่าเหนื่อยนักเตะไทยสูงมากๆถ้าเทียบกับอาชีพอื่นๆ แต่เบสิค ร่างกาย ความฟิต เรียกว่าสู้ชาติเอเชียชั้นนำไม่ได้เลย ถ้าคนจ่ายเงินจริงจังในการทำทีม ไม่แคร์นักเตะใครไม่ฟิตก็ไม่จ้างต่อ ความฟิตมันสร้างได้ง่ายและเร็วที่สุดแล้ว

ผมว่าหลักๆ อยู่ที่การซ้อม ซ้อมกันแบบไหน ปลูกฝังทัศนคติกันยังไง
สนามซ้อม อุปกรณ์การซ้อม รูปแบบการซ้อม มีมาตรฐานระดับไหน
เหล่าทีมงานโค้ชมีความรู้ฟุตบอลมากน้อยแค่ไหน ผมเป็นแฟนบอลก็คงไม่สามารถรู้ได้
แต่ผลงานในสนามบอกได้

ครับ ตามนั้นเลย ความฟิตไม่ถึงไม่ต้องพูดเรื่องอื่น
เล่น โมเดิร์นฟุตบอลไม่ได้ เพราะไม่มีแรง เพรสซิ่ง และ Transition
ในขณะที่ ไม่ต้องเทียบในยูโร เอาแค่ลีค ญี่ปุ่น ที่ตัวในลีคได้ไป บอลโลกแค่หยิบมือเดียว ที่เหลือตัวมาจากลีคยุโรป แค่ตัวในลีคทำได้เหนือกว่าเราในทุกมิติ ตอนนี้ไปจนถึงศึกษาการ เบรค และ การกลับตัว ให้ไม่บาดเจ็บจากการ Transition ที่เกิดขึ้นต่อเกมส์เยอะมากๆในฟุตบอลกันแล้ว

ของไทย พูดเหมือนเดิม ลีคคงไม่พัฒนาเรื่องนี้ เพราะงั้น ส่งไปเล่น ลีค ตปท เยอะๆ เมื่อไหร่ที่อย่างน้อย 80 % ของ 11 ตัวจริงทุกตำแหน่ง ตำแหน่งละคน เล่นอยู่ลีคสูงกว่าเรา เมื่อนั้น คัดรอบ 12 ทีม น่าจะได้ไปบ่อยขึ้น
แต่จะไปบอลโลกจริงๆ ต้องเล่นลีคยุโรป ลีคญี่ปุ่น เกิน 11 ตัวทุกตำแหน่งอะถึงจะพอได้ลุ้น

พอมาดูเป็นเสต๊ปแบบนี้ มองยังไงก็อีกห่างไกลกว่าเราจะได้ไปบอลโลก

ลองดูความฟิต นักเตะ บรร เทียบกับทีมอื่น