[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
แบตมีสองแบบ มีทั้งเปลี่ยนเป็นเซลๆแบบนี้เหมืแนจะจุไฟได้น้อยกว่าข้อเสียอะนะ แต่ข้อดีคือเสียละเปลี่ยนเป็นอันๆได้
แบบที่สองคือเสียเปลี่ยนทั้งก้อนเหมือน ทรศ อะแหละแต่ข้อดีคือจุไฟได้มากกว่าวิ่งได้ไกลกว่า
ส่วนการเสื่อมผมเคยใช้ไฮบริดราวๆ5-6ปีเสื่อมวิ่งไปราวๆแสนโล แต่อยู่ในประกันเปลี่ยนฟรีทั้งลูก
แค่ไฮบริดยังเกือบแสนนะครับ เพราะฉะนั้นไฟฟ้าล้านมี5แสน+ตามข่าวนั่นแหละ
แต่เค้าก็รับประกันให้8-10ปีแล้วแต่ยี่ห้อ ถ้าเสียก่อนก็เครมได้
ส่วนราคาหลายๆคนชอบมองว่าคนใบ้เยอะขึ้นเดี๋ยวมันก็ถูกรัยประกันตั้ง10ปี
เทคโนโลยีไปไว ผมจะบอกว่าไม่เชิงนะคุณดูจากแบตไฮบริดของพี่โตได้เลย
น่าจะขายมานานมากละ15ปี+ ราคาลงไม่เท่าไหร่นะครับ
ละไฮบริดก็แพร่หบายมากตอนนี้ แทบทุกรุ่นของเบนซ์บีเอ็ม แทบจะเป็นไฮบริดหรือปลั๊กอินทั้งนั้น
รถญี่ปุ่นเองก็เยอะ ราคาก็ไม่ได้ถูกลงอะไรมากกว่า จากแสนนิด ตอนนี้น่าจะเหลือ8หมื่น+
ส่วนตัวผมคงซื้อรถน้ำมันธรรมดาไปก่อน รอดูทิศทางรถไฟฟ้าไปด้วย
แล้วเทคโนโลยีแบตถ้ามันพัฒนาไปเรื่อยๆ
สมมุตนะวันนี้ขับได้600โลต่อชาจ ใช้เวลา5-6ชั่วโมงในการชาจเต็ม100%(ไฟบ้าน) หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ใช้เวลา40นาที
อีก5ปีต่อมมาวิ่งได้700โลต่อชาจ ใช้เวลา2-3ชม.ต่อการชาจ100%(ไฟบ้าน)หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ใช้เวลา15นาที
อีก5ปีต่อมาวิ่งได้800โลต่อชาจ ใช้เวลา30นาทีต่อการชาจ100%(ไฟบ้าน) ใบ้หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ในเวลา5นาที
ผมถามว่าถ้าคุณซื้อปีนี้ แล้วพอรถอายุ7-10ปีต้องการขายแล้วเปลี่ยนรถใหม่ ราคามือสองจะราคาตกแค่ไหน
แบตทั้งเสื่อมถ้าเสียยกแบตก็4-6แสน รถก็เก่าชาจก็นานแบตก็เสื่อมลงแน่ๆละจาก600โลต่อชาจ
พอผ่านไป7-8ปีมันวิ่งไม่ถึง600โลแน่ๆ ราคาจะร่วงแค่ไหน
แต่มันก็ได้แต่สมมุตอะนะ ความจริงไม่รู้จะยังไง