BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 24914
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 01:52
ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า
อันนี้ถามแบบยังไม่ได้ศึกษาเท่าไหร่นะ(ยังไม่ได่ตั้งใจซื้อ)

คือเหมือนแบตหลายๆอย่างในโลกนี้ เหมือนอยุ่ได้ไม่เกิน5 ปีแล้วมันก้จะเสื่อมหนัก

ตัวอย่างก้เช่น แบตมือถือ powerbank หรือพวกups

ทีนี้ถามเป็น2 ข้อ

1 แล้วแบตรถไฟฟ้ามันทำมาจากแบตเทคโนโลยีคล้ายกันมั้ย? แบบนี้ถ้ามันเสื่อมก้ต้องเปลี่ยนแบต

2 ไอตัวแบตเนี่ยมันเปลี่ยนเดี่ยวๆได้มั้ยตอนนี้มันบอกกันยังว่าราคาเท่าไหร่ หรือมันผูกติดมากับพวกเคนื่องยนเลย ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าเปลี่ยน6แสนอันนั้นเปลี่ยนอะไรมั่ง


3 อันนี้ถามเผื่อเลย ไอเทคโนโลยีกันน้ำเนี่ย มันคล้ายๆเทคของมือถือใช่มั้ยหว่า แล้วไอพวกนี้มันจะกันทนกว่ามือถือเยอะมั้ย ใครมีมือถือใช้เทคกันน้ำนี้มั่ง คิดว่ามันจะเสื่อมสภาพแล้วน้ำเข้าได้มีสิทธิภายในกี่ปี เพราะรถมันน่าจะใช้หนักกว่ามือถือมั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1663
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 02:24
Top Comment [RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
งั้นผมเทียบให้เห็นภาพง่ายๆนะครับ

โทรศัพท์ คุณใช้นานเท่าไหร่ ถึงรู้สึกว่ามันแบตเสื่อมสำหรับผม น่าจะประมาณ 2 ปี ประมาณนั้น ผมให้ว่า 2 ปี ชาร์จมือถือ ประมาณ 700 ครั้ง = 700 cycle ละกันนะครับ

แต่ถ้ารถยนต์ที่วิ่งได้ 500km ชาร์ต 700 cycle น่าจะวิ่งได้ประมาณ 500x700 = 350,000 km ก็น่าจะเริ่มเสื่อมประมาณ กับมือถือ 2 ปีครับ

ส่วนเรื่องราคาในการเปลี่ยน ผมเชื่อว่าทุกอย่างถ้ามันมีตลาดมากพอ อะไรที่มันแพงเกินไปเดี๋ยวก็มีคนทำราคาดีกว่าออกมาครับ มันเปลี่ยนไม่จำเป็นต้องทั้งหมด แต่ตอนนี้ในประเทศ เคสมันน้อย เอะอะมันจะเปลี่ยนยกชุด แล้วค่าเปลี่ยนที่ศูนย์ ราคามันเวอร์เกินจริงไปอยู่แล้วอะครับ ทุกอย่างก็เป็น อย่าว่าแต่รถไฟฟ้าเลย วันนี้ท่านลองไปถามสิ ว่าถ้าเกิดว่า เครื่องยนพัง ต้องสั่งใหม่ทุกชิ้นส่วน ราคาประมาณเท่าไหร่ ก็คงไม่ต่างกันมากครับ สรุป ถ้ามันมีจำนวนมากพอ เดี๋ยวราคามันถูกลงเอง

ส่วนเรื่องเทคโนโลยีกันน้ำ มันคล้ายๆกันแหละ แต่ว่าส่วนประกอบของยาง หรือพูดง่ายๆ เกรดของยางถูกคิดเอามาแล้วครับ เรื่องทนการใช้งานทนแดดทนฝน ผมว่าสิ่งที่จะเป็นผลก่อนที่ยางพวกนั้นจะพัง คือซีลกันน้ำเข้ารถนี่แหละครับ ที่มันน่าจะเสื่อมสภาพก่อน

ถ้าเทียบง่ายๆ ยางรถยนกับยางมอไซต์ เป็นยางเหมือนกันมั้ยก็ใช่หลักการคล้ายๆกัน แต่สเปก ส่วนประกอบ และรายละเอียดต่างกันเยอะมากครับ เพราะงั้นมันคิดมาค่อนข้างหมดแล้วครับ
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2007
ตอบ: 8360
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 01:56
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
แบต ev อายุส่วนมากหลักหลายแสนถึงล้านไมล์ แล้วมันเสื่อม คือจากเต็ม 100 อาจจะเหลือ 80 ไม่ใช่ต้องเปลี่ยนหมดเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Mar 2020
ตอบ: 24914
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 02:00
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
timematoom พิมพ์ว่า:
แบต ev อายุส่วนมากหลักหลายแสนถึงล้านไมล์ แล้วมันเสื่อม คือจากเต็ม 100 อาจจะเหลือ 80 ไม่ใช่ต้องเปลี่ยนหมดเลย  


แล้วถามได้มั้ยว่าไอเทคโนโลยีแบตแบบนี้ข้อดีข้อเสียคืออะไร ทำไมคนไม่เอาไอแบตประเภทนี้มาทำแบตมือถือหรืออะไรพวกนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

เมื่อไหร่โดนบังคับให้ไม่พูดสิ่งที่ควรพูด ถือว่าเราตายไปแล้ว :D
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Mar 2007
ตอบ: 8360
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 02:06
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
a.Raptor v.10 พิมพ์ว่า:
timematoom พิมพ์ว่า:
แบต ev อายุส่วนมากหลักหลายแสนถึงล้านไมล์ แล้วมันเสื่อม คือจากเต็ม 100 อาจจะเหลือ 80 ไม่ใช่ต้องเปลี่ยนหมดเลย  


แล้วถามได้มั้ยว่าไอเทคโนโลยีแบตแบบนี้ข้อดีข้อเสียคืออะไร ทำไมคนไม่เอาไอแบตประเภทนี้มาทำแบตมือถือหรืออะไรพวกนี้  




เอาง่ายๆคือ เทคโนโลยีคล้ายๆกัน แต่ความแตกต่างคือ มือถือคุณมีแบตก้อนเดียว แต่ ev มันมีแบตก้อนเล็กๆเต็มไปหมด ดังนั้นความเร็วในการเสื่อมแต่ละก้อนไม่เท่ากัน + แบตเตอรี่จะเสื่อม มันเกิดจากการชาร์จ + ใช้บ่อยๆ (เรียกว่า cycle) มือถือคุณใช้ 1 cycle แทบทุกวัน แต่รถ ev นี่กว่าคุณจะใช้ครบ cycle มันนานกว่าเยอะ มันก็เลยทนกว่า

https://www.motorbiscuit.com/will-your-ev-battery-degrade-fast-as-cell-phone-battery/
6
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะตำบล
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1663
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 02:24
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
งั้นผมเทียบให้เห็นภาพง่ายๆนะครับ

โทรศัพท์ คุณใช้นานเท่าไหร่ ถึงรู้สึกว่ามันแบตเสื่อมสำหรับผม น่าจะประมาณ 2 ปี ประมาณนั้น ผมให้ว่า 2 ปี ชาร์จมือถือ ประมาณ 700 ครั้ง = 700 cycle ละกันนะครับ

แต่ถ้ารถยนต์ที่วิ่งได้ 500km ชาร์ต 700 cycle น่าจะวิ่งได้ประมาณ 500x700 = 350,000 km ก็น่าจะเริ่มเสื่อมประมาณ กับมือถือ 2 ปีครับ

ส่วนเรื่องราคาในการเปลี่ยน ผมเชื่อว่าทุกอย่างถ้ามันมีตลาดมากพอ อะไรที่มันแพงเกินไปเดี๋ยวก็มีคนทำราคาดีกว่าออกมาครับ มันเปลี่ยนไม่จำเป็นต้องทั้งหมด แต่ตอนนี้ในประเทศ เคสมันน้อย เอะอะมันจะเปลี่ยนยกชุด แล้วค่าเปลี่ยนที่ศูนย์ ราคามันเวอร์เกินจริงไปอยู่แล้วอะครับ ทุกอย่างก็เป็น อย่าว่าแต่รถไฟฟ้าเลย วันนี้ท่านลองไปถามสิ ว่าถ้าเกิดว่า เครื่องยนพัง ต้องสั่งใหม่ทุกชิ้นส่วน ราคาประมาณเท่าไหร่ ก็คงไม่ต่างกันมากครับ สรุป ถ้ามันมีจำนวนมากพอ เดี๋ยวราคามันถูกลงเอง

ส่วนเรื่องเทคโนโลยีกันน้ำ มันคล้ายๆกันแหละ แต่ว่าส่วนประกอบของยาง หรือพูดง่ายๆ เกรดของยางถูกคิดเอามาแล้วครับ เรื่องทนการใช้งานทนแดดทนฝน ผมว่าสิ่งที่จะเป็นผลก่อนที่ยางพวกนั้นจะพัง คือซีลกันน้ำเข้ารถนี่แหละครับ ที่มันน่าจะเสื่อมสภาพก่อน

ถ้าเทียบง่ายๆ ยางรถยนกับยางมอไซต์ เป็นยางเหมือนกันมั้ยก็ใช่หลักการคล้ายๆกัน แต่สเปก ส่วนประกอบ และรายละเอียดต่างกันเยอะมากครับ เพราะงั้นมันคิดมาค่อนข้างหมดแล้วครับ
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: MES QUE UN CLUB
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Apr 2007
ตอบ: 17374
ที่อยู่: Miami South Florida
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 03:07
[RE]ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า
ผมก็อ่านมานะ จำไม่ได้เป๊ะๆ
พวกแบตมันจะเสื่อมเป็นเซลๆ สามาซ่อมได้ ไม่ต้องเปลี่ยนยกลูกได้

แบตแบบใหม่ที่กำลังจะมา ไม่รู้เมื่อไหร่ะจะได้ใช้ คือ Solidstate
คร่าวๆคือมันจะเสื่อมช้า ชาร์จได้เร็ว เก็บได้เยอะ
รถไฟฟ้าอนาคตวิ่งกันได้เป็นพันๆโลอย่างต่ำๆแน่ๆต่อชาร์จ1ครั้ง
โพสต์บนแอป Soccersuck บน iOS
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Sep 2020
ตอบ: 6444
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 05:14
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
แบตมีสองแบบ มีทั้งเปลี่ยนเป็นเซลๆแบบนี้เหมืแนจะจุไฟได้น้อยกว่าข้อเสียอะนะ แต่ข้อดีคือเสียละเปลี่ยนเป็นอันๆได้
แบบที่สองคือเสียเปลี่ยนทั้งก้อนเหมือน ทรศ อะแหละแต่ข้อดีคือจุไฟได้มากกว่าวิ่งได้ไกลกว่า

ส่วนการเสื่อมผมเคยใช้ไฮบริดราวๆ5-6ปีเสื่อมวิ่งไปราวๆแสนโล แต่อยู่ในประกันเปลี่ยนฟรีทั้งลูก
แค่ไฮบริดยังเกือบแสนนะครับ เพราะฉะนั้นไฟฟ้าล้านมี5แสน+ตามข่าวนั่นแหละ
แต่เค้าก็รับประกันให้8-10ปีแล้วแต่ยี่ห้อ ถ้าเสียก่อนก็เครมได้

ส่วนราคาหลายๆคนชอบมองว่าคนใบ้เยอะขึ้นเดี๋ยวมันก็ถูกรัยประกันตั้ง10ปี
เทคโนโลยีไปไว ผมจะบอกว่าไม่เชิงนะคุณดูจากแบตไฮบริดของพี่โตได้เลย
น่าจะขายมานานมากละ15ปี+ ราคาลงไม่เท่าไหร่นะครับ
ละไฮบริดก็แพร่หบายมากตอนนี้ แทบทุกรุ่นของเบนซ์บีเอ็ม แทบจะเป็นไฮบริดหรือปลั๊กอินทั้งนั้น
รถญี่ปุ่นเองก็เยอะ ราคาก็ไม่ได้ถูกลงอะไรมากกว่า จากแสนนิด ตอนนี้น่าจะเหลือ8หมื่น+
ส่วนตัวผมคงซื้อรถน้ำมันธรรมดาไปก่อน รอดูทิศทางรถไฟฟ้าไปด้วย

แล้วเทคโนโลยีแบตถ้ามันพัฒนาไปเรื่อยๆ
สมมุตนะวันนี้ขับได้600โลต่อชาจ ใช้เวลา5-6ชั่วโมงในการชาจเต็ม100%(ไฟบ้าน) หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ใช้เวลา40นาที
อีก5ปีต่อมมาวิ่งได้700โลต่อชาจ ใช้เวลา2-3ชม.ต่อการชาจ100%(ไฟบ้าน)หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ใช้เวลา15นาที
อีก5ปีต่อมาวิ่งได้800โลต่อชาจ ใช้เวลา30นาทีต่อการชาจ100%(ไฟบ้าน) ใบ้หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ในเวลา5นาที

ผมถามว่าถ้าคุณซื้อปีนี้ แล้วพอรถอายุ7-10ปีต้องการขายแล้วเปลี่ยนรถใหม่ ราคามือสองจะราคาตกแค่ไหน
แบตทั้งเสื่อมถ้าเสียยกแบตก็4-6แสน รถก็เก่าชาจก็นานแบตก็เสื่อมลงแน่ๆละจาก600โลต่อชาจ
พอผ่านไป7-8ปีมันวิ่งไม่ถึง600โลแน่ๆ ราคาจะร่วงแค่ไหน
แต่มันก็ได้แต่สมมุตอะนะ ความจริงไม่รู้จะยังไง
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 1375
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 05:27
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
แบตแต่ละประเภทจะมี life cycle ซึ่ง 1 cycle คือการชาร์จ 0-100% อย่างแบตมือถือ เค้าจะไม่ใช้แบตที่ทน เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้งาน 1-2 ปีก็เปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเพิ่มต้นทุนใช้แบตแพง ปกติแบตมือถือจะมี cycle ประมาณ 500 รอบ การใช้งานหลายคตมักใช้แบตหมดได้ทุกวัน ทำให้แบตมือถือไม่ได้ใช้งานนาน

ส่วนแบตรถยนต์ไฟฟ้า หลักๆ จะมี 2 ชนิด คือ NMC และ LFP ซึ่งจะมี life cycle ที่เยอะกว่ามือถือมาก
แบต NMC จะใช้ในรถ MG ZS EV ตัวเก่า กับ Good Cat 500 Ultra ข้อดีคือจุไฟได้เยอะ ไฟเสถียร แต่มีข้อเสียคือ Life Cycle ไม่เยอะ ไม่ชอบความร้อน มี Life Cycle ประมาณ 1,500 รอบ ถ้ารถวิ่งได้ 400 กิโลต่อ 1 ชาร์จ อายุแบตก็ประมาณ 5-6 แสนกิโล ระยะทางวิ่งจะลดลงเหลือ 80%

แบต LFP ใช้ใน MG ZS EV ตัวใหม่, MG EP, Good Cat 400 , BYD Atto3 ข้อดีคือ ทนร้อน มี Life Cycle เยอะ ประมาณ 3,000 รอบ แต่จุไฟได้น้อยกว่า NMC ถ้ารถวิ่งได้ 400 กิโลต่อ 1 ชาร์จ อายุแบตจะประมาณ 1-1.2 ล้านกิโล

แต่ทั้งนี้แบตอาจเสื่อมเร็วกว่านั้นได้ ถ้าดูแลไม่เป็น ไม่รู้การดูแลแบตที่ถูกต้องของแบตแต่ละชนิด ผมขอไม่ลงรายละเอียดการดูแลแบตแต่บะชนิดนะครับ เพราะเดี๋ยวจะยาวเกินไป
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: นอนดีก่า
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Nov 2009
ตอบ: 11750
ที่อยู่: บนสนามฟุตบอล
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 05:50
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
nekomajin พิมพ์ว่า:
แบตแต่ละประเภทจะมี life cycle ซึ่ง 1 cycle คือการชาร์จ 0-100% อย่างแบตมือถือ เค้าจะไม่ใช้แบตที่ทน เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้งาน 1-2 ปีก็เปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเพิ่มต้นทุนใช้แบตแพง ปกติแบตมือถือจะมี cycle ประมาณ 500 รอบ การใช้งานหลายคตมักใช้แบตหมดได้ทุกวัน ทำให้แบตมือถือไม่ได้ใช้งานนาน

ส่วนแบตรถยนต์ไฟฟ้า หลักๆ จะมี 2 ชนิด คือ NMC และ LFP ซึ่งจะมี life cycle ที่เยอะกว่ามือถือมาก
แบต NMC จะใช้ในรถ MG ZS EV ตัวเก่า กับ Good Cat 500 Ultra ข้อดีคือจุไฟได้เยอะ ไฟเสถียร แต่มีข้อเสียคือ Life Cycle ไม่เยอะ ไม่ชอบความร้อน มี Life Cycle ประมาณ 1,500 รอบ ถ้ารถวิ่งได้ 400 กิโลต่อ 1 ชาร์จ อายุแบตก็ประมาณ 5-6 แสนกิโล ระยะทางวิ่งจะลดลงเหลือ 80%

แบต LFP ใช้ใน MG ZS EV ตัวใหม่, MG EP, Good Cat 400 , BYD Atto3 ข้อดีคือ ทนร้อน มี Life Cycle เยอะ ประมาณ 3,000 รอบ แต่จุไฟได้น้อยกว่า NMC ถ้ารถวิ่งได้ 400 กิโลต่อ 1 ชาร์จ อายุแบตจะประมาณ 1-1.2 ล้านกิโล

แต่ทั้งนี้แบตอาจเสื่อมเร็วกว่านั้นได้ ถ้าดูแลไม่เป็น ไม่รู้การดูแลแบตที่ถูกต้องของแบตแต่ละชนิด ผมขอไม่ลงรายละเอียดการดูแลแบตแต่บะชนิดนะครับ เพราะเดี๋ยวจะยาวเกินไป  


แบตเสื่อมไม่กลัว กลัวใจถนน กทม หลุมม บ่อ ทุกวันนี้ขับน้ำมันยังกลัวเลย เฉพาะปีนี้ลงหลุมล้อดุ้งไป สี่ทีได้ จะร้อง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Nov 2009
ตอบ: 1375
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 05:54
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
V_Chelsea_V พิมพ์ว่า:
nekomajin พิมพ์ว่า:
แบตแต่ละประเภทจะมี life cycle ซึ่ง 1 cycle คือการชาร์จ 0-100% อย่างแบตมือถือ เค้าจะไม่ใช้แบตที่ทน เพราะคนส่วนใหญ่จะใช้งาน 1-2 ปีก็เปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเพิ่มต้นทุนใช้แบตแพง ปกติแบตมือถือจะมี cycle ประมาณ 500 รอบ การใช้งานหลายคตมักใช้แบตหมดได้ทุกวัน ทำให้แบตมือถือไม่ได้ใช้งานนาน

ส่วนแบตรถยนต์ไฟฟ้า หลักๆ จะมี 2 ชนิด คือ NMC และ LFP ซึ่งจะมี life cycle ที่เยอะกว่ามือถือมาก
แบต NMC จะใช้ในรถ MG ZS EV ตัวเก่า กับ Good Cat 500 Ultra ข้อดีคือจุไฟได้เยอะ ไฟเสถียร แต่มีข้อเสียคือ Life Cycle ไม่เยอะ ไม่ชอบความร้อน มี Life Cycle ประมาณ 1,500 รอบ ถ้ารถวิ่งได้ 400 กิโลต่อ 1 ชาร์จ อายุแบตก็ประมาณ 5-6 แสนกิโล ระยะทางวิ่งจะลดลงเหลือ 80%

แบต LFP ใช้ใน MG ZS EV ตัวใหม่, MG EP, Good Cat 400 , BYD Atto3 ข้อดีคือ ทนร้อน มี Life Cycle เยอะ ประมาณ 3,000 รอบ แต่จุไฟได้น้อยกว่า NMC ถ้ารถวิ่งได้ 400 กิโลต่อ 1 ชาร์จ อายุแบตจะประมาณ 1-1.2 ล้านกิโล

แต่ทั้งนี้แบตอาจเสื่อมเร็วกว่านั้นได้ ถ้าดูแลไม่เป็น ไม่รู้การดูแลแบตที่ถูกต้องของแบตแต่ละชนิด ผมขอไม่ลงรายละเอียดการดูแลแบตแต่บะชนิดนะครับ เพราะเดี๋ยวจะยาวเกินไป  


แบตเสื่อมไม่กลัว กลัวใจถนน กทม หลุมม บ่อ ทุกวันนี้ขับน้ำมันยังกลัวเลย เฉพาะปีนี้ลงหลุมล้อดุ้งไป สี่ทีได้ จะร้อง  


รถ SUV น่าจะเหมาะกับถนนประเทศไทยมากกว่า 555
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 22 Apr 2022
ตอบ: 4291
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Dec 10, 2022 15:17
ถูกแบนแล้ว
[RE: ถามเรื่อง แบต รถไฟฟ้า]
Satsatkub พิมพ์ว่า:
แบตมีสองแบบ มีทั้งเปลี่ยนเป็นเซลๆแบบนี้เหมืแนจะจุไฟได้น้อยกว่าข้อเสียอะนะ แต่ข้อดีคือเสียละเปลี่ยนเป็นอันๆได้
แบบที่สองคือเสียเปลี่ยนทั้งก้อนเหมือน ทรศ อะแหละแต่ข้อดีคือจุไฟได้มากกว่าวิ่งได้ไกลกว่า

ส่วนการเสื่อมผมเคยใช้ไฮบริดราวๆ5-6ปีเสื่อมวิ่งไปราวๆแสนโล แต่อยู่ในประกันเปลี่ยนฟรีทั้งลูก
แค่ไฮบริดยังเกือบแสนนะครับ เพราะฉะนั้นไฟฟ้าล้านมี5แสน+ตามข่าวนั่นแหละ
แต่เค้าก็รับประกันให้8-10ปีแล้วแต่ยี่ห้อ ถ้าเสียก่อนก็เครมได้

ส่วนราคาหลายๆคนชอบมองว่าคนใบ้เยอะขึ้นเดี๋ยวมันก็ถูกรัยประกันตั้ง10ปี
เทคโนโลยีไปไว ผมจะบอกว่าไม่เชิงนะคุณดูจากแบตไฮบริดของพี่โตได้เลย
น่าจะขายมานานมากละ15ปี+ ราคาลงไม่เท่าไหร่นะครับ
ละไฮบริดก็แพร่หบายมากตอนนี้ แทบทุกรุ่นของเบนซ์บีเอ็ม แทบจะเป็นไฮบริดหรือปลั๊กอินทั้งนั้น
รถญี่ปุ่นเองก็เยอะ ราคาก็ไม่ได้ถูกลงอะไรมากกว่า จากแสนนิด ตอนนี้น่าจะเหลือ8หมื่น+
ส่วนตัวผมคงซื้อรถน้ำมันธรรมดาไปก่อน รอดูทิศทางรถไฟฟ้าไปด้วย

แล้วเทคโนโลยีแบตถ้ามันพัฒนาไปเรื่อยๆ
สมมุตนะวันนี้ขับได้600โลต่อชาจ ใช้เวลา5-6ชั่วโมงในการชาจเต็ม100%(ไฟบ้าน) หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ใช้เวลา40นาที
อีก5ปีต่อมมาวิ่งได้700โลต่อชาจ ใช้เวลา2-3ชม.ต่อการชาจ100%(ไฟบ้าน)หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ใช้เวลา15นาที
อีก5ปีต่อมาวิ่งได้800โลต่อชาจ ใช้เวลา30นาทีต่อการชาจ100%(ไฟบ้าน) ใบ้หัวซุปเปอร์ชาจ0-80%ในเวลา5นาที

ผมถามว่าถ้าคุณซื้อปีนี้ แล้วพอรถอายุ7-10ปีต้องการขายแล้วเปลี่ยนรถใหม่ ราคามือสองจะราคาตกแค่ไหน
แบตทั้งเสื่อมถ้าเสียยกแบตก็4-6แสน รถก็เก่าชาจก็นานแบตก็เสื่อมลงแน่ๆละจาก600โลต่อชาจ
พอผ่านไป7-8ปีมันวิ่งไม่ถึง600โลแน่ๆ ราคาจะร่วงแค่ไหน
แต่มันก็ได้แต่สมมุตอะนะ ความจริงไม่รู้จะยังไง  

สมมติโดยมีหลักการและประสบการณ์ ก็เรียกว่า เป็นการคาดการได้นะคณับ
แนวโน้มมันก็น่าจะประมาณนั้นแหละ แค่ตัวเลขมันอาจจะเปลี่ยนเยอะหรือน้อยเท่านั้นเอง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel