พอดีเปิดดูผ่านๆระหว่างรอบอลโลก มีคำถามครับ

-รถชนกันพัง มีความผิด/บทลงโทษอะไรมั้ย
-แล้วไปชนคู่แข่งเพื่อตัดแต้มได้มั้ย
-จากสนามรองสุดท้าย ดราม่าที่ให้Maxแซงไปลุ้น เพราะรถแรงกว่า งั้นทำไมไม่ทำให้รถแรงเท่ากันไปเลย

-แล้วแต่กรณีครับ จะมี Race Director คอยควบคุมการแข่งจะเป็นคนตัดสินว่าใครผิด รับโทษเบา/หนักแค่ไหนตามแต่กรณีไป บางทีก็ชนกันเพราะอุบัติเหตุหรือชนเพราะต้องหลบจากคันอื่นมาจนชนกันอันนี้เขาก็จะไม่ลงโทษอะไรเพราะถือว่าเป็นอุบัติเหตุ

-ถ้าทำได้ไหมก็ทำได้ แต่มันก็คนรู้จักกันทั้งนั้นอะพวกนักขับ เขาก็มีน้ำใจแค่จะแข่งรถวัดความเร็วกันอย่างเดียวอยู่แล้ว แล้วมันจะมีแต้มนักขับอยู่ ถ้าชนบ่อยๆก็จะโดนเพิ่มแต้มตรงนี้เรื่อยๆจากการขับชน ขับอันตรายอะไรพวกนั้น ถ้าแต้มถึงก็จะโดนแบน แต่จำบทลงโทษไม่ได้ละว่ารุนแรงแค่ไหน

-รถมันสเปคเดียวกัน อาจจะต่างกันแค่ Setup ก่อนแข่งเล็กน้อย แต่โดยพื้นฐานก็คือรถสเปคเดียวกันนั่นแหละ ที่ต่างตอนนั้นมันคือยาง ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้น Checo ใช้ยาง M มั้งแล้วประสิทธิภาพด้อยกว่ายาง S ของ Max ทำให้ทำเวลาต่อรอบได้ไม่ดี(ถ้าจำไม่ผิดคือตอนนั้นคันอื่นๆก็เปลี่ยนมาใช้ S กันซะส่วนใหญ่) คือโดยปกติแล้ว Max ก็มักจะทำเวลาดีกว่า Checo อยู่แล้ว พอเลือกยางได้ดีกว่า Checo ยังไงก็ต้องหลบให้

-ตามความเห็นก่อนหน้าครับ กรรมการจะตัดสินว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่
ถ้าใช่ ก็ไม่มีบทลงโทษ ใครเสียหายจากเหตุการณ์นั้นก็รับกรรมกันไป
ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องรับโทษ เช่น ปรับเวลา 5-10 วินาที, วิ่งผ่าน Pit lane, Stop-go ที่ pit lane 10 วินาที หรือ โดน DSQ เป็นต้น
และนักแข่งก็อาจได้รับแต้มโทษ หากมีแต้มโทษสะสมครบ 12 แต้ม ก็จะโดนแบนการแข่งครั้งถัดไป
แต่แต้มโทษก็จะ Reset ทุก 12 เดือน นับแต่วันที่ได้รับแต้มโทษนั้น ไม่ใช่ Reset ทุกแต้มทุก 12 เดือน

-ตามความจริงก็คงทำได้แต่ก็คงไม่มีใครทำประเจิดประเจ้อ เพราะใคร ๆ ก็อยากแข่งจบ ไม่อยากรถพังเสียค่าซ่อม หรือโดนคำครหา ซึ่งอาจมีโทษอื่น ๆ ตามมาอีก เช่น โดนปรับ โดนแบน
ซึ่งการแข่งขันสนามสุดท้ายเมื่อปีที่แล้วเพื่อตัดสินแชมป์ มีความสุ่มเสี่ยงมากที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น จึงถูกจับตาอยากเข้มงวดจาก FIA

-ไม่ได้ดู Race นี้ แต่เหตุผลก็น่าจะตามความเห็นก่อนหน้าครับ

ขอช่วยตอบข้อสุดท้าย
สเปคกำหนดมาจาก FIA-F1 เหมือนกันทุกคน แต่สุดท้ายใครจะรีดประสิทธิภาพออกมาได้มากกว่ากัน หรือกลยุทธ์แต่ละทีมจะเน้นด้านไหน ในโค้ง ออกโค้ง ทางตรง หรือเน้นเหนียวทนทาน
ที่สำคัญสุดคือชุด aerodynamic ที่ทำให้ความเร็วต่างกันเกือบ 10km/h

ถึงรถเหมือนกัน ก็มีเจอกลยุทธ์การแจ่งอีก จะเอาแบบจัดเต็มแต่โค้งแรก หรือเน้นถนอมยางวิ่งยาวๆไม่ต้องเสียเวลาเข้าพิทบ่อย ก็แตกต่างกันเยอะครับ

1 ต้องให้กรรมการสอบสวนก่อนว่าใครผิด ถ้ายังขับกันต่อได้ส่วนใหญ่ก็ + เวลาเพิ่ม ถ้าพัง ไปต่อไม่ได้ก็ไปลดกริดสตาร์ทในครั้งต่อไป และยังถูกหักคะแนนความประพฤติด้วย ในรอบเวลา 1 ปี ถ้าถึง 12 คะแนนจะโดนแบน 1 สนาม

2 ก็ต้องดูว่าตั้งใจขนาดไหน เคยมีนะครับ สนามสุดท้าย ปี 1997 แย่งแชมป์กัน ชูมัคเกอร์แข่งกับวิลเนิฟ ชูมัคเกอร์นำอยู่ 1 คะแนน ตอนนั้นชูมัคเกอร์ตั้งใจชนเลย เพื่อให้คู่แข่งออกจากสนาม ตัวเองจะได้แชมป์ แต่ชนไม่ถูกจังหวะ ตัวเองออกไปเอง แพ้คะแนนไป แต่สุดท้ายก็โดนลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์จากปีนั้น ริบคะแนนทั้งหมด คือถ้าตอนนั้นทำสำเร็จก็ไม่ได้แชมป์อยู่ดี



3 อยู่ที่ยางและฝีมือ และความเข้ากันของรถและคนขับครับ รถเท่ากันแต่ถนัดมืออีกคนมากกว่าก็ได้เปรียบ

-รถชนกันพัง มีความผิด/บทลงโทษอะไรมั้ย
F1 มันมี Rule of engagement ในการแซงกันอยู่ครับ หลักๆก็
- รถคันที่นำ สามารถเปลี่ยนไลน์วิ่งเพื่อกันการแซงได้แค่ 1 ครั้ง ห้ามส่ายเป็นงูเพื่อป้องกันคันหลังแซง
- กรณีแซงที่โค้ง หากคันที่ตามหลัง สามสรถขึ้นมาประกบข้างคันนำได้อย่างมีนัยสำคัญก่อนเข้าโค้ง คันที่นำต้องเปิดเลนพอให้รถที่ตามผ่านไปได้ ห้ามเบียดออกนอกถนน ทางกลับกันคันที่ตามถ้าคันนำเปิดเลนให้เพียงพอแล้ว ก็ต้องแซงอย่างปลอดภัย ห้ามออกไปเฉี่ยวกระแทกคันที่นำ
ถ้าคันไหนทำผิดกฏชนกันจะโดนโทษบวกเวลาครับ 5 วิ 10 วิ แล้วแต่เจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันพิจารณา แล้วก็ติดลบแต้มความประพฤติด้วย ถ้าสะสมแต้มความประพฤติมากจนครบ จะโดนแบนลงแข่ง 1 สนาม


-แล้วไปชนคู่แข่งเพื่อตัดแต้มได้มั้ย
ชนได้ แต่ถ้ากรรมการดูออกก็โดนโทษ อย่างแต่ก่อน มิเชล ชูมัคเกอร์ยังเคยพยายามพุ่งชนคู่แข่งแย่งแชมป์ในสนามสุดท้ายเลย


-จากสนามรองสุดท้าย ดราม่าที่ให้Maxแซงไปลุ้น เพราะรถแรงกว่า งั้นทำไมไม่ทำให้รถแรงเท่ากันไปเลย
รถแรงไม่แรง มันขึ้นกับหลายอย่างครับ เครื่องยนต์ อายุของเครื่ิงว่าใช้มากี่สนามแล้ว สไตล์คนขับที่เข้ากับรถ สภาพยาง สนามนั้นเครื่อง Red Bull เหมือนกันไม่น่าต่างกัน แต่ถ้าจำไม่ผิดยางแม็กซ์น่าจะใหม่กว่าของเชคโก้ และรถของทีมน่าจะปรับมาเพื่อสไตล์การขับของแมกซ์ด้วย เลยทำเวลาดีกว่า

ตอบข้อ 3 ให้ครับ เครื่องยนต์ทีมเดียวกันส่วนมากตัวเดียวกันแหละ

แต่ความสึกหรอไม่เท่ากันครับ ลองไปดูสนามที่ Sainz เปลี่ยนเครื่องใหม่ อย่างแรง ไล่จากท้ายมาหัวเลย

พวก setting ปีกหน้า ปีกท้าย ฯลฯ ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากันนะ รายละเอียดยิบย่อยโคตรเยอะ ขึ้นกับสไตล์การขับแต่ละคนด้วย

เล่น F1 Manager มาครับ โคตรมึน 555

เห็นคำถามแล้ว นึกถึง ทาโร่ ยามาเน่ เลย

มึงมีปัญหาไรกับกูจังวะ FIA