ทีเด็ดแชมป์เก่า! หล่อเหลาเบิ้ล 'ตราไก่' รัวทุบจิงโจ้ 4-1 นำฝูง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ฝรั่งเศส โชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่าแม้พวกเขาจะโดน ออสเตรเลีย ขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ไก่โห่แต่ยังรัวโหดคืนสี่ลูกรวดจากการเบิ้ลของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กับอีกคนละตุงของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ อาเดรียง ราบิโอต์ ทำให้ทีมตราไก่ประเดิมเก็บสามแต้มแรกในศึกฟุตบอลโลก 2022 พร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มดีแบบหล่อๆ
ฝรั่งเศส
Starting Formation: 4-2-3-1
21.
ลูคัส เอร์นานเดซ

13'
6
2.
เบนจาแม็ง ปาวาร์

89'
6.5
8.
โอเรลิแย็ง ชูอาเมนี่

77'
7
11.
อุสมาน เดมเบเล่

77'
8
9.
โอลิวิเยร์ ชิรูด์

89'
8
ตัวสำรอง
20.
คิงส์ลีย์ โคมัน

77'
6
26.
มาร์คัส ตูราม

89'
6
5.
ชุลส์ คุนเด้

89'
6
13.
ยุสซุฟ โฟฟาน่า

77'
6
22.
เตโอ เอร์นานเดซ

13'
8
ฟุตบอลโลก 2022
สนาม อัล จานูบ สเตเดี้ยม
อังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565
กรรมการ วิคเตอร์ โกเมส
ฝรั่งเศส
4
1
ออสเตรเลีย
1-1 ราบิโอต์ 27'
2-1 ชิรูด์ 32'
3-1 เอ็มบัปเป้ 68'
4-1 ชิรูด์ 71'
แชมป์เก่าฝรั่งเศสมาเล่น 4-2-3-1 แนวรุกจัดเต็ม ชิรูด์ ค้ำหน้าและมี เอ็มบัปเป้,กรีซมันน์,เดมเบเล่ คอยหนุน แนวรับแม้วารานจะหายเจ็บแล้วแต่วันนี้กุนซืออย่างเดส์ชองส์เลือกใช้ โคนาเต้ ยืนเซนเตอร์คู่กับ อูปาเมกาโน่
ออสเตรเลียมาเน้นรับในระบบ 4-1-4-1 โดยให้ ดุ๊ค ยืนค้ำหน้าและมี กู๊ดวิน,แม็คกรี,เออร์ไวน์,เลคกี้ คอยหนุน
• ฟุตบอลโลก 12 ครั้งหลังสุด ทีมแชมป์เก่าเก็บชัยชนะในนัดเปิดสนามได้แค่ 3 ครั้ง
• 6 เกมหลังสุดทุกรายการ ฝรั่งเศส ชนะได้แค่นัดเดียว ที่เหลือเป็นการแพ้ 3 เสมอ 2
• ออสเตรเลีย เล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้งหมด 16 นัด คว้าชัยได้แค่ 2 นัด และเก็บคลีนชีทได้แค่นัดเดียว
จิงโจ้ได้ลุ้นทักทายก่อน
เริ่มมาเป็นตราไก่ที่ครองบอลเปิดเกมบุกเข้าใส่ แต่โอกาสลุ้นจบครั้งแรกในเกมเป็นของออสเตรเลียจากจังหวะสวนกลับขึ้นมาแล้วแม็คกรีได้ลองซัดไกล แต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบไปไกล
ตราไก่งานงอก!กู๊ดวินชาร์จไม่เหลือ 1-0 จิงโจ้พลิกนำ
ออสเตรเลียทำช็อกพลิกล็อกขึ้นนำไปก่อนเลย จากจังหวะที่ซูตตาร์วางบอลยาวจากแดนหลังให้เลคกี้สปีดไปเอาลงทางริมเส้นฝั่งขวา เขาแตะหลับเอร์นานเดซก่อนเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษถึงเสาสองแล้วเป็นกู๊ดวินที่โฉบแหย่งเท้าชาร์จตุงตาข่ายไปเลย 1-0 แชมป์เก่างานเข้าแล้ว
ลูคัสเจ็บ เตโอลงเล่นแทน
ฝรั่งเศสต้องเสียโควต้าเปลี่ยนตัวคนแรกเนื่องจากลูคัส เอร์นานเดซบาดเจ็บตั้งแต่จังหวะที่เสียประตู เขาเล่นต่อไม่ไหวและเป็นเตโอ เอร์นานเดซที่ลงไปเล่นแทน
ดุ๊คซัดไกลหลุดนิดเดียว
โอกาสลุ้นอีกครั้งของออสเตรเลีย จังหวะที่ดุ๊กได้ลองซัดไกลด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงแต่หลุดกรอบไปนิดเดียว
ราบิโอต์โขกไม่เหลือ 1-1 ตราไก่เจ๊าสำเร็จ
ความพยายามที่จะตีเสมอของฝรั่งเศสมาเป็นผลจนได้ จากจังหวะที่พวกเขาเก็บบอลแถวสองได้ก่อนที่เตโอจะตักเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ราบิโอต์ขึ้นโขกเน้นๆไม่เหลือ 1-1 เกมกลับมาว่ากันใหม่
หล่อเหลาได้โขกหลุดกรอบ
ตราไก่ยังเปิดเกมบุกต่อเนื่องหวังจะเอาประตูแซงนำ จังหวะนี้กรีซมันน์เปิดบอลจากทางฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ชิรูด์ขึ้นโหม่งได้ แต่ก็หลุดกรอบไป
ตราไก่แซงเลย!ราบิโอต์ถวายพานหล่อเหลาแปล่อเป้า 2-1
แล้วทำไปทำมาตราไก่มาได้ประตูแซงนำเลยจากจังหวะความผิดพลาดของฝั่งออสเตรเลีย แอตคินสันแตะบอลพลากแล้วโดนราบิโอต์ฉกได้ บอลไปถึงเอ็มบัปเป้ทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนที่เขาจะไขว้ชิ่งให้ราบิโอต์หลุดไปเปิดเรียดไปหน้าประตูให้ชิรูด์วางเท้าแปโล่งๆไม่เหลือ 2-1 ไปเลย
เดมเบเล่ซัดข้ามคาน
ฝรั่งเศสน่าได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่เอ็มบัปเป้ได้บอลหลุดไปทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนจะเปิดเข้าไปตรงกลางให้เดมเบเล่วิ่งมาแปด้วยขวาแต่โดนไม่ดีข้ามคานไป
อ๋องกดด้วยซ้ายหลุดกรอบไป
ท้ายครึ่งแรกตราไก่ยังมาเรื่อยๆ คราวนี้เป็นจังหวะที่เดมเบเล่ตัดบอลมาทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนไหลให้เอ็มบัปเป้ที่จับแล้วไขว้หลังคืนให้กรีซมันน์ซัดด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งเรียดหลุดกรอบไป
เอ็มบัปเป้ซัดจ่อๆข้ามคาน
อีกครั้งที่น่าได้ของแชมป์เก่า จังหวะที่อูปาเมกาโน่วางบอลยาวจากกลางสนามให้กรีซมันน์โฉบไปเล่นทางกรอบฝั่งขวา เขาตวัดเข้าไปตรงกลางให้เอ็มบัปเป้วิ่งมายิงจ่อๆข้ามคาน
ตราไก่รอดก่อนจบครึ่งแรก
ก่อนจบครึ่งแรกออสเตรเลียเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่แม็คกรีได้บอลหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนเปิดเข้าไปหน้าประตูแล้วเป็นเออร์ไวน์ที่ขึ้นโหม่งย้อนศรบอลพุ่งชนเสาเหลี่ยมนอกอย่างน่าเสียดาย
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นฝรั่งเศสที่แซงขึ้นนำไปก่อน 2-1 หลังจากโดนนำก่อนตั้งแต่ช่วงต้น
หล่อเหลาฟาดท่าสวย
ครึ่งหลังฝั่งเศสยังเดินหน้าบุกต่อและจังหวะนี้เกือบบวกเพิ่มได้ เตโอเติมหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนตักไปหน้าประตูให้ชิรูด์กระโดดฟาดด้วยซ้ายท่าสวย แต่บอลปลิ้นหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
โคนาเต้เติมโหม่งเตะมุมข้ามคาน
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมงมาแล้วยังเป็นฝรั่งเศสที่ครองเกมบุกหวังเอาประตูบวกเพิ่ม จังหวะนี้จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย กรีซมันน์เปิดเข้าไปตรงกลางให้โคนาเต้ได้เทคโหม่ง แต่บอลยังหลุดข้ามคาน
อ๋องซัดโดนเคลียร์จากบนเส้น
ตราไก่บุกหนักจังหวะนี้ก็เกือบได้อีกแล้ว เตโอไหลบอลให้กรีซมันน์ซัดด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเรียดตรงกรอบจะเข้าอยู่แล้วแต่โดนเบฮิชเคลียร์ออกมาจากบนเส้น
เป้ขอบ้าง!โขกจ่อไม่เหลือ 3-1 ตราไก่ฉีกหนี
ฝรั่งเศสขึงเกมบุกต่อเนื่องและมาได้ประตูที่สามสมใจ จังหวะที่เดมเบเล่ตามไปเก็บบอลทางริมกรอบฝั่งขวาก่อนได้ช่องเปิดกลับเข้าไปหน้าประตูให้เอ็มบัปเป้โขกจ่อๆไม่เหลือ 3-1
หล่อเหลาโขกเบิ้ล!แชมป์เก่านำสบาย 4-1
ฝรั่งเศสยังไม่หยุดเมื่อพวกเขามาได้ประตูหนีห่างออกไปอีกเป็น 4-1 จากจังหวะที่เอ็มบัปเป้กระชากบอลหลุดไปทางเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนเปิดไปหน้าประตูให้ชิรูด์โขกเน้นๆไม่เหลือ เป็นการเบิ้ลของเขาในเกมนี้ด้วย
โคนาเต้เติมโขกยังติดเซฟ
ท้ายเกมตราไก่ผ่อนลงไปเยอะแต่พวกเขายังคอนโทรลเกมเอาไว้ได้หมด จังหวะนี้ได้ลุ้นบวกเพิ่มอีกจากการเติมชึ้นไปโหม่งของโคนาเต้ แต่บอลก็พุ่งไปติดเซฟไรอัน
แชมป์เก่าออกตัวสวยขึ้นนำฝูง
สุดท้ายฝรั่งเศสปิดเกมเอาชนะไปแบบสบายๆ 4-1 ทำให้พวกเขาเก็บสามแต้มแรกขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มดี ส่วนออสเตรเลียเป็นบ๊วยประเดิมนัดแรกไปตามระเบียบ
ออสเตรเลีย
Starting Formation: 4-1-4-1
3.
นาธาเนียล แอตคินสัน

85'
5
14.
ไรลีย์ แม็คกรี

73'
5.5
22.
แจ็คสัน เออร์ไวน์

85'
6
23.
เคร็ก กู๊ดวิน

73'
6.5
15.
มิตเชลล์ ดุ๊ค

56'
6
ตัวสำรอง
2.
มิลอส เดเกเนค

85'
6
25.
เจสัน คัมมิงส์

56'
5.5
21.
กาแร็ง โควล

73'
11.
อาเวอร์ มาบิล

73'
6
26.
คีนู บัคคุส

85'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Wed Nov 23, 2022 04:08, ทั้งหมด 6 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ