It's Coming Home!!! 'สิงโต' ดรีมสตาร์ตยำอิหร่านเละเทะ 6-2
ถือเป็นการเริ่มต้นในฝันสำหรับพลพรรค สิงโตคำราม อังกฤษ เดินหน้าบดขยี้ อิหร่าน แบบบอลคนละชั้นก่อนถล่มเละเทะ 6-2 โดย จู้ด เบลลิ่งแฮม โขกเปิดหัวแล้ว บูกาโย่ ซาก้า รับเหมา 2 ดอก ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง , มาร์คัส แรชฟอร์ด และแจ็ค กรีลิช แบ่งไปอีกคนละลูก คว้าสามแต้มได้อย่างสวยงาม โดยเป็นเกมที่ทดเวลาบาดเจ็บรวมแล้วเกือบครึ่ง ชม.
อังกฤษ
Starting Formation: 4-5-1
6.
แฮร์รี่ แม็คไกวร์
70'
7
10.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
70'
7.5
17.
บูกาโย่ ซาก้า
70'
9
19.
เมสัน เม้าท์
70'
7
9.
แฮร์รี่ เคน
75'
8
ตัวสำรอง
7.
แจ็ค กรีลิช
70'
6.5
11.
มาร์คัส แรชฟอร์ด
70'
6.5
15.
เอริก ไดเออร์
70'
6
24.
คัลลั่ม วิลสัน
75'
6.5
18.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
20.
ฟิล โฟเด้น
70'
6
สนาม คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม
จันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565
กรรมการ ราฟาเอล เคล้าส์
อังกฤษ
6
2
อิหร่าน
1-0 จู้ด เบลลิ่งแฮม 35'
2-0 บูกาโย่ ซาก้า 42'
3-0 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 45+1'
4-0 บูกาโย่ ซาก้า 62'
5-1 มาร์คัส แรชฟอร์ด 71'
6-1 แจ็ค กรีลิช 90'
4-1 เมห์ดี้ ตาเรมี่ 65'
6-2 เมห์ดี้ ตาเรมี่ 90+13' (Pen.)
เกมประเดิมสนามของกลุ่มบี เต็งแชมป์อย่างอังกฤษ ส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนามตามโผที่ออกมาก่อนหน้านี้เป๊ะ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ คุมแนวรับ แดนกลาง จู้ด เบลลิ่งแฮม ได้ออกสตาร์ตตัวจริง ขณะที่บูกาโย่ ซาก้า ได้เล่นปีกขวาโดยมีแฮร์รี่ เคน ยืนหอกตัวเป้า ด้าน อิหร่าน มีทาง อลิเรซา ยาฮันบัคช์ เป็นตัวอันตรายในเกมรุกแต่ขาด ซาร์ดาร์ อัซมูน ที่ฟิตไม่ทันลงสนาม
เบรานวานด์เจ็บนานฝืนไม่ไหว
เกมต้องหยุดนานเลย เคน ฉีกออกทางขวาก่อนเปิดเข้ามาหน้าปากประตูแล้วเบรานวานด์ ออกมาชกไม่ค่อยดีแล้วไปชนกับมายิดแบบเต็มๆ มีอาการเจ็บบริเวณจมูกและกระทบกระเทือนทางสมองด้วย ต้องให้หมอลงมาปฐมพยาบาลเหมือนจะเล่นต่อไม่ไหว แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นมาทำหน้าที่ต่อได้แป๊ปนึง ก่อนตัดสินใจทิ้งตัวลงนอนไม่ไหวให้ทาง ฮุสเซน ฮอสไซนีมาทำหน้าที่แทน
ยาฮันบัคช์โดนเหลืองไว
ใบเหลืองแรกของเกมมาแล้วเมื่อ ยาฮันบัคช์ไปย่ำใส่เท้าของชอว์แบบน่าเกลียด กรรมการแจกทันทีไม่มีโต้แย้ง ยังดีที่แบ็คอังกฤษ ลุกมาเล่นต่อไหว
ซาก้าปั่นเข้าซองฮอสไซนี่
โอกาสจบหนแรกของเกม ซาก้าได้บอลทางขวาก่อนโยกเข้าซ้ายแล้วลองปั่นนอกกรอบบอลพุ่งไปตรงกลางประตูเข้าซองของฮอสไซนี่พอดีเลย
เม้าท์สอดยิงเสาแรกเข้าหน้าต่าง
ราฮีมเบิ้ลบอลให้ ซาก้าหลุดไปสุดเส้นหลังด้านขวาก่อนปาดมาทางเสาแรก เม้าท์ สอดมายิงบอลผ่านฮอสไซนี่แล้วแต่ไปเข้าข้างตาข่ายไหวๆ
เกือบไป!แม็คไกวร์โขกชนคาน
สิงโตคำราม น่าได้ประตูขึ้นนำเลย เป็นคอนเนอร์ทางขวาที่เปิดมาแล้วบอลเลยมาถึงแม็คไกวร์ เบียดตัวประกบมาโขกบอลพุ่งจะเข้าแล้วแต่ดันไปชนคานเต็มๆ
น้องจู้ด!!!สอดโขกสิงโตนำ 1-0
อังกฤษ ออกนำจนได้ เป็นราฮีม ให้ออกซ้ายมาที่ ชอว์ที่เติมมารอก่อนครอสมาแถวจุดโทษให้ เบลลิ่งแฮม สอดมาโขกบอลเสียบใต้คาน ฮอสไซนี่ ได้แต่ยืนมอง ตุงตาข่ายไม่เหลือ 1-0!!!
แม็คไกวร์แอสซิสต์!ซาก้าเสยเพดาน 2-0
สิงโตคำราม ได้ประตูหนีห่างเป็นคอนเนอร์ทางซ้ายที่ ชอว์ เปิดมาเข้าหัวแม็คไกวร์ โหม่งชงมาให้ ซาก้า รอจังหวะก่อนอัดด้วยซ้ายเต็มๆ บอลพุ่งเสยตาข่ายเข้าไป 2-1!!! โดยนักเตะอิหร่านพยายามโวยว่าแม็คไกวร์ไปกดตัวประกบแต่กรรมการไม่ได้ว่าอะไร
อย่าด่ากู!ราฮีมกระโดดดีดสิงโตโหด 3-0
สกอร์ขาดเลย เคน ได้บอลนอกกรอบทางขวาก่อนตวัดเปิดไปที่เสาแรก ราฮีมกระโดดแหย่ขามาดีดบอลเสียบเสาเข้าไปเลย 3-0!!!
ยาฮันบัคซ์ยิงเสียของ
ตาเรมี่ เหมือนล้ำหน้าแต่ไม่มีธง เลยเปิดยาวไปทางขวาให้ยาฮันบัคซ์ที่ยืนโล่งโจ้งคนเดียวดันใจร้อนวางเท้าแปแบบไม่จับบอลข้ามคานออกไปไกลไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
อิหร่านเปลี่ยน 3 ตัวรวด
เคยรอซ ตัดสินใจเปลี่ยนทีเดียว 3 ตัวเลยในช่วงพักครึ่ง โดยเอาทาง คานานี, เอซาโตลาฮี และกูลิซาเตห์ ลงสนามมาช่วยปรับเกมใน 45 นาทีที่เหลือ
เอซาโตลาฮีส่องไกลไม่ได้ลุ้น
อิหร่าน ได้ลองส่องระยะไกลจาก เอซาโตลาฮี บอลพุ่งเรียดไม่ตรงกรอบออกหลังไปไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
ซาก้าลากยิงเข้าเฉย 4-0
สิงโตคำราม มาได้ประตูเพิ่ม ซาก้า ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนค่อยๆ ลากหาช่องแล้วยิงผ่านแนวรับที่ขวางอยู่ 4 คน เข้าประตูไปเฉยเลย 4-0!!!
มีเหมือนกัน!ตาเรมี่ซัดตามน้ำอิหร่านตีไข่ 1-4
อยู่ดีๆ อิหร่านมาได้ประตูตีไข่แตก เริ่มจากการได้บอลริมเส้นซ้ายแล้วกูลิซาเดห์ แทงทะลุช่องให้ ตาเรมี่โฉบมาซัดตามน้ำผ่านพิคฟอร์ดเขาไปเฉย เรียกเสียงเชียร์สนั่นสนามเลย 4-1!!!
อ่าว...แม็คไกวร์เดี้ยงออกเลย
แม็คไกวร์ มีอาการเจ็บแล้วทำให้ เซาธ์เกต เปลี่ยนตัวออกเลยเอา เอริก ไดเออร์ ลงสนามมายืนคุมหลัง เช่นเดียวกับ ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช และมาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ลงตามๆ กันมา
แรชลงมายิงเลย! สิงโตถล่ม 5-1
เคน โชว์จับบอลอย่างเหนือก่อนไหลออกทางขวาให้ แรชฟอร์ด ที่เพิ่งจะลงสนามมา 49 วินาที ควบเข้ากรอบเขตโทษก่อนยิงสวนตัวของฮอสไซนี่เข้าไปไม่เหลือ 5-1!!!
ตาเรมี่อัดเต็มหลุดออกหลัง
อิหร่านได้สวนกลับมาจบ ตาเรมี่ ได้บอลยาวมาก่อนวางเท้าอัดด้วยขวาทว่าหลักไม่ค่อยดีเท่าไหร่ซัดหายออกหลังไปไกลเหมือนกัน
วิลสันไม่ยิง!ไหลกรีลิชจบ 6-1
เกมยังไม่จบ อังกฤษมาได้ประตูเพิ่มจากการสวนเร็ว วิลสันหลุดจากกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วไม่ยิงเองก่อนไหลมาให้ กรีลิชวางเท้าแปโล่งๆ ไม่พลาด 6-1!!!
ตาเรมี่กดโทษ!สิงโตขยี้อิหร่าน 6-2
อัซมูนได้หลุดเดี่ยวแล้วแต่ดันยิงไปชนคานเต็มๆ แล้ว VAR มาแจกจุดโทษให้อิหร่าน เป็นทาง ตาเรมี่ ยิงไม่พลาด 2-6
ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน สิงโตคำราม ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังถล่ม อิหร่าน ไม่เหลือซาก 6-1 เก็บสามแต้มไปก่อนแบบหล่อๆ
อิหร่าน
Starting Formation: 4-3-3
1.
อาลีเรซา เบรานวานด์
19'
6
2.
ซาเดกห์ โมฮารามี่
63'
5.5
15.
รูซเบห์ เชสห์มี
46'
5.5
18.
คาริมี่ อาลี
46'
6
21.
อาหมัด นูรอลลาฮี
77'
6
7.
อลิเรซา ยาฮันบัคช์
46'
5.5
ตัวสำรอง
24.
ฮุสเซน ฮอสไซนี
19'
6
6.
ซายิด เอซาโตลาฮี
46'
6
13.
โมฮัมมัด คานานี่
46'
6
16.
มาห์ดี้ โตราบี
63'
6
17.
อลี กูลิซาเดห์
46'
6.5
20.
ซาร์ดาร์ อัซมูน
77'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Mon Nov 21, 2022 22:25, ทั้งหมด 23 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ