ย้อนมอง ‘แมนยูฯ’ ผ่านถ้อยคำของ ‘โรนัลโด้’ | #SSColumn
โดย : เบียร์ หลังหนาม
กระแสใหญ่ในวงการฟุตบอลตอนนี้ คงหลีกหนีไม่พ้นเรื่องของ ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ ที่ออกมาระบายความในใจกับ ‘เพียร์ส มอร์แกน’ คอลัมนิสต์และนักจัดรายการคนสนิท ถึงประเด็นเผ็ดร้อนระหว่างเขากับ ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’
มีประเด็นหนึ่งที่โรนัลโด้พูดกับเพียร์สทำนองว่า ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไร้พัฒนาการไปตั้งแต่วันที่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อำลาสโมสรไป’ ซึ่งถ้อยประมาณนี้จากปากโรนัลโด้ สร้างความจี๊ดใจให้กับใครหลายคนอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าพูดกันตามตรง มีหลายคนที่เชื่อและเห็นด้วยกับสิ่งที่โรนัลโด้พูด เพียงแต่ว่า...เรื่องนี้มันยังไม่ได้ถูกเอามาพูดถกกันอย่างจริงจัง
นอกเหนือจากนั้น บางคนที่ไม่เคยคิดดั่งว่า กลับเริ่มมาตั้งคำถามอีกครั้งว่าสิ่งที่โรนัลโด้พูดมันจริงหรือเปล่า? หรือว่าเป็นเพียงแค่ลมปากของคนที่กำลังมีโทสะ ?
เอาเป็นว่าเราลองย้อนกลับไปมองดูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกัน หลังจากวันที่เซอร์ อเล็กซ์ลุกขึ้นจากที่นั่งกุนซือของทีม
⚽️
เริ่มยุคสมัยใหม่ กับชายที่ชื่อ ‘เดวิด มอยส์’
‘เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน’ วางมือกับการเป็นโค้ช พร้อมกับของขวัญอำลาอย่างแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2012/2013 แน่นอนว่าแฟนผีทุกคนไม่อยากให้ท่านเซอร์จากไป แต่เมื่อตระหนักได้ว่าถึงเวลาที่ต้องก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ อย่างน้อยทุกคนก็รู้สึกอุ่นใจว่า ท่านเซอร์ได้วางรากฐานให้กับสโมสรไว้อย่างดี
‘เดวิด มอยส์’ คือกุนซือชาวสก็อตแลนด์ ที่ถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 ของผู้จัดการทีมชาวสก็อตที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก เป็นรองแค่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ ‘เคนนี่ ดัลกลิช’ ตำนานกุนซือและตำนานนักเตะของลิเวอร์พูล เพียงเท่านั้น และเมื่อมองจากสิ่งที่มอยส์ทำกับเอฟเวอร์ตัน หลายคนเชื่อว่ามอยส์เองก็น่าจะทำผลงานได้ดีกับแมนยูฯ เผลอ ๆ อาจจะทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะได้รับการสนับสนุนจากทางสโมสรระดับสูง
มอยส์เริ่มต้นได้ดีด้วยการพาทีมปีศาจแดงไปคว้าแชมป์ ‘เอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์’ แต่หลังจากนั้นฟอร์มการเล่นของนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เริ่มบูดเหมือนไม่ได้แช่ตู้เย็น เปิดฤดูกาลมา 6 นัด มอยส์คว้ามาได้แค่ 7 แต้ม พาทีมจมไปอยู่อันดับที่ 12 ของตาราง สร้างสถิติย่ำแย่ที่สุดตลอด 24 ปีของสโมสร! จากนั้นมอยส์ก็เริ่มสร้างสถิติของตัวเองกับสโมสรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่เป็นสถิติที่ตรงข้ามกับเซอร์ อเล็กซ์ทำ
ผ่านไป 10 เดือน บอร์ดบริหารทุบโต๊ะตัดสินใจแยกทางกับมอยส์ หลังจากที่มอยส์พาแมนยูฯ ไปแพ้ทีมเก่าของตัวเอง 2 ประตูต่อ 0 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็แพ้คาราบ้านคาราเบลในลีกไปแล้วรอบนึง ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปีที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแพ้เอฟเวอร์ตันแบบไป-กลับ อันว่าสโมสรเรียกใช้ ‘ไรอัน กิกส์’ มาเป็นนายหัวจำเป็นจนจบฤดูกาล ปีนั้นทีมจบลงด้วยอันดับ 7 ของตาราง ชวดตั๋วยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกในรอบ 19 ปี ขนาด...อย่าว่าอย่างนั้นอย่างโน้นเลย ยูโรป้าเองก็ยังไม่ได้ไปเลยด้วยซ้ำ
จะว่าไปเรื่องนี้เซอร์ อเล็กซ์เองก็มีส่วนอยู่เล็กน้อยเหมือนกัน เพราะเขาเป็นคนแนะนำสโมสรให้แต่งตั้งมอยส์ขึ้นมา แต่ใครจะไปคิดล่ะ ว่ามันจะแย่ขนาดนี้ ส่วนทางด้านเดวิด มอยส์เอง ภายหลังเจ้าตัวก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อทำนองว่า เขาเสียดายมากที่มีช่วงเวลากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดน้อยเกินไป
หากเขาได้รับเวลาในการปรับตัวมากกว่านี้ บางทีทุกอย่างอาจจะดีกว่าที่เป็น เขาเองก็อยากจะสานต่อสิ่งที่ท่านเซอร์ได้ทิ้งเอาไว้ให้?
⚽️
เอาวะ! ว่ากันใหม่กับ ‘หลุยส์ ฟาน กัล’
‘หลุยส์ ฟาน กัล’ คือยอดโค้ชระดับปรมาจารย์ แค่ชื่อเสียงและผลงานที่ฟาน กัลเคยทำมา มันได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่เหล่าแฟนผีอีกครั้ง ฟาน กัลเข้ามารับงานเป็นโค้ชให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2014/2015 ทุกอย่างในทีมดูดีขึ้นแบบเป็นขั้นเป็นตอน ฟาน กัลสามารถพาทัพปีศาจแดงกลับมาคว้าตั๋วไปยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกได้อีกครั้ง หลังจากที่ทีมจบเป็นอันดับที่ 4 ของตารางในฤดูกาลแรกของฟาน กัล
ทว่าฤดูกาลต่อมา ผลงานลูกทีมของฟาน กัลกลับคลำหาความเสถียรไม่เจอ พวกเขาจบลงด้วยอันดับที่ 5 ของตารางในฤดูกาล 2015/2016 เป็นอีกครั้งที่อดไปเล่นเวทีใหญ่ในยุโรป ยังดีหน่อยที่ปีนั้นพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ ‘เอฟเอ คัพ’ สมัยที่ 12 ของตัวเองมาได้ หากไม่นับเอฟเอ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ของมอยส์ นี่ถือว่าเป็นถ้วยรางวัลแรกหลังจากการจากไปของท่านเซอร์
ถึงแม้ผลงานของหลุยส์ ฟาน กัลที่ทำไว้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะได้ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ขี้เหร่ แต่ทางบอร์ดบริหารก็ตัดสินใจแยกทางกับฟาน กัลหลังจบฤดูกาลที่ 2 ของโค้ชชาวเนเธอแลนด์ ทั้งนี้เป็นเพราะผลงานที่ออกมา ยังไม่ถึงเป้าหมายที่ทางสโมสรวางไว้ แถมยังมีเสียงเรียกร้องจากเหล่าแฟนบอลกลุ่มใหญ่อีกด้วย
หลังจากที่ฟาน กัลออกมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาได้พักใหญ่ เขาได้มีจังหวะพูดถึงบางอย่างที่สำคัญ ระหว่างเขากับทางสโมสรต่อหน้าสื่อ ฟาน กัลให้การว่า ก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งเป็นโค้ชให้กับทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเชื่อว่าทางสโมสรจะสามารถซื้อใครมาก็ได้ตามที่เขาต้องการ ทว่าความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น!? มีนักเตะหลายคนที่เขาเรียกร้องให้ทีมดึงตัวเข้ามา แต่เขาไม่ได้มา และมีอีกหลายคนที่เขาได้มาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ต้องการ…ฟาน กัลยกให้ ‘เอ็ด วู้ดเวิร์ด’ อดีต CEO ของสโมสร เป็นคนที่ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขาดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง?
นอกเหนือจากนี้ ฟาน กัลยังออกมาพูดอีกว่า “แมนยูฯ ไม่ใช่สโมสรฟุตบอลที่ดี แต่เป็นสโมสรเพื่อธุรกิจ” ?
⚽️
เดอะ สเปเชียลวัน ‘โชเซ่ มูรินโญ่’
ไม่มีแฟนบอลคนไหนไม่รู้จัก ‘โชเซ่ มูรินโญ่’ กุนซือชื่อดังที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับโลกลูกหนังมานักต่อนัก มูรินโญ่ถูกแต่งตั้งให้เป็นโค้ชของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่หลุยส์ ฟาน กัลโดนปลดไปได้แค่ 2 วัน ถึงแม้เมื่อมองจากภาพรวม หลายคนจะสังเกตได้ว่าแนวทางการทำทีมของมูรินโญ่ ดูไม่ค่อยเข้ากับทางทัพปีศาจแดง แต่ด้วยฝีมืออันแกร่งกล้าของเดอะ สเปเชียลวันแล้ว มันไม่มีเหตุผลที่จะไม่ลอง เพราะความสำเร็จชองสโมสรคือเป้าหมายสูงสุดเป็นแน่แท้
ผลสรุปคือ อันดับบนตารางของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2016/2017 ภายใต้การคุมทีมของมูรินโญ่ จบลงตรงที่อันดับ 6 ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายที่ทีมต้องการ ยังดีที่มูรินโญ่สามารถพาทีมไปคว้าแชมป์ ‘คาราบาวคัพ’ มาปลอบใจ และที่สำคัญคือการที่เขาสามารถผลักให้ทีมเข้าไปร่วมการแข่งขันศึกยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกได้ในฐานะแชมป์ ‘ยูฟ่า ยูโรปาลีก’
ต่อมาในฤดูกาล 2017/2018 มูรินโญ่ไม่สามารถพาทีมไปคว้าแชมป์อะไรได้เลย แต่ผลงานในลีกก็ถือว่าน่าปรบมือให้อยู่ เพราะเขาสามารถพาทีมไปจบได้เป็นอันดับ 2 ของตาราง เป็นรองให้แก่ ‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ คู่แข่งร่วมเมืองแค่ทีมเดียว แต่พอมาถึงฤดูกาล 2018/2019 เท่านั้นแหละ ผลงานลูกทีมของมูรินโญ่เริ่มทรงไม่ค่อยดี คะแนนขยับเคลื่อนไหวแค่ที่บริเวณกลางตาราง มูรินโญ่จึงถูกสโมสรปล็ดออกจากตำแหน่งช่วงกลางฤดูกาล
ภายหลังมูรินโญ่เองก็ออกมาพูดถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำนองว่า ตอนที่เขาคุมทีมอยู่นั้น เขามักจะได้ตัวผู้เล่นที่ไม่อยากได้มากกว่าที่อยากได้ (พลอตคุ้น ๆ) หนำซ้ำทางสโมสรก็มีปัญหาทั้งภายนอกและภายในมากจนเกินไป การที่ครั้งหนึ่งเขาพาทีมไปจบที่อันดับ 2 ได้ ถือว่าเป็นความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่มากแล้ว
จากนั้นมูรินโญ่ก็ทิ้งทวนอีกว่า “แมนยูฯต้องเปลี่ยนหลักความคิดกับระบบภายในองค์กรให้ได้”…?
⚽️
‘โอเล่ กุนนาร์ โซลชา’ ขวัญใจมหาชน จนถึง ‘ราล์ฟ รังนิก’
เมื่อมูรินโญ่จากไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องหาโค้ชคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน แต่โค้ชคนนั้นมันไม่ใช่จะเป็นใครก็ได้ เพราะคนที่จะมาคุมบังเหียนคนใหม่ ต้องเป็นคนที่เก่ง ต้องเป็นคนที่พร้อม และที่สำคัญคือต้องเป็นคนที่รู้จักและเข้าใจสโมสรแห่งนี้เป็นอย่างดี เมื่อมองดูจากรายชื่อในตอนนั้น ‘โอเล่ กุนนาร์ โซลชา’ อดีตผู้เล่นระดับตำนานของทีม คือคำตอบที่ดีที่สุด!
เอาภาพรวมเลยละกัน โซลชาเข้ามาคุมทีมเมื่อช่วงกลางฤดูกาล 2018/2019 ซึ่งในปีนั้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจบลงด้วยอันดับ 6 ของตาราง ทว่าหลังจากนั้น โซลชาได้รับสัญญาระยะยาวอย่างจริงจังจากทางแมนยูฯ เขาจึงขึ้นแท่นเป็นโค้ชของทีมอย่างเต็มตัวในฤดูกาลถัดมา ได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารค่อนข้างดี (จากที่เทียบกับคำให้การณ์ของคนอื่น) ในฤดูกาล 2019/2020 เขาพาทีมจบลงที่อันดับ 3 ของตาราง จากนั้นฤดูกาล 2020/2021 อันดับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ขยับขึ้นมาอยู่เป็นอันดับ 2 แถมยังสามารถพาทีมเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า ยูโรปาลีก ทุกอย่างดูเหมือนกำลังไปได้สวย แต่ทว่าฤดูกาล 2021/2022 ทัพปีศาจแดงของโซลชาเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย จนผ่านมาได้สักครึ่งฤดูกาล โซลชากลายเป็นโค้ชอีกคนที่ถูกทางสโมสรปลด!?
จากนั้นทีมก็ได้ ‘ไมเคิล คาร์ริค’ ก็เข้ามาคุมทีมให้อีก 3 นัดก่อนจะส่งไม้ต่อให้ ‘ราล์ฟ รังนิก’ หามต่อจนจบฤดูกาล ตามความตั้งใจของบอร์ดบริหาร ผลสรุปว่า...น้ำเหลวเหมือนกัน
⚽️
ปัจจุบัน / เทน ฮาก / อนาคต?
กลับเข้าปัจจุบันที่เป็นเนื้อเรื่องหลักครับ เมื่อลองย้อนมองจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงที่ผ่านมา เรามักจะเห็นว่าการตัดสินใจของบอร์ดบริหารคือตัวแปรหนึ่งที่ส่งผลต่อการทำงานของโค้ชและระบบของทีม หลายครั้งพวกเขาตัดสินใจผิด หลายครั้งดูเหมือนจะตัดสินใจถูกแต่การกระทำก็ยังดูจะผิดอยู่ ซึ่งอันที่จริงมันอาจจะมีมากกว่าที่รู้ (แต่เขาไม่เผยให้รู้)
จากเมื่อช่วงต้นปี มีข่าวว่าแมนยูฯได้ทำการเปลี่ยนประธานบริหารสโมสร จาก ‘เอ็ด วู้ดเวิร์น’ เป็น ‘ริชาร์ด อาร์โนลด์’ ที่เคยเป็นกรรมการผู้จัดการมาก่อน ซึ่งเรื่องราวตรงนี้เป็นที่เห็นดีเห็นงามจากเหล่าแฟนผีเป็นอย่างมาก ประหนึ่งการเข้ามาของ ‘เทน ฮาก’ ก็ดูเห็นว่าสโมสรกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างถูกทิศถูกทาง
แล้วทำไม ‘คริสเตียโน โรนัลโด้’ ถึงยังพูดออกมาแบบนั้น? เขาพูดจากสิ่งที่ได้เห็นมา หรือพูดจากสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่? ถ้าตัดเรื่องที่ตัวเขากับฮากไม่ลงรอยกันเพราะไม่เคารพกันออกไป โรนัลโด้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า...คนใหญ่คนโตบางคนของสโมสรก็ไม่ได้ให้เกียรติเขาเหมือนกัน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เริ่มมาเป็นฤดูกาลนี้ แต่มันลากยาวมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน มีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้น แต่บางคนในสโมสรกำลังโบ้ยความผิดมาที่โรนัลโด้ จนตัวเขารู้สึกกำลังเป็นแกะดำ หนักกว่านั้น...คือแพะรับบาป?
เอาเป็นว่า เรื่องราวของโรนัลโด้กับทางสโมสร เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน มีคนที่เห็นตรงกับอีกฝ่ายอย่างชัดเจน และมันเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถเขียนวงกลมลงไปได้ว่าใครเป็นคนผิด
ยังดีที่โรนัลโด้ได้พูดออกมาอย่างจริงใจว่าเขายังให้ความสำคัญกับเหล่าแฟนบอลเสมอ และสิ่งที่เขาต้องการ คือการได้เห็นสโมสรที่ปลุกปั้นเขา กลับอยู่ในจุดที่ควรจะอยู่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังรักแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
มีประโยคหนี่งที่โรนัลโด้พูดกับมอร์แกน ผมชอบแบบไม่มีทางที่จะไม่หยิบยกมา โรนัลโด้บอกว่า “อย่างที่ปิกัสโซ่พูดไว้ ว่าคุณต้องทำลายเพื่อสร้างขึ้นมาใหม่ และถ้าการทำลายนั้นมันเริ่มต้นที่ผม ผมเข้าใจได้ ผมยินดี”
(*ปล. ถ้อยคำเดิมของปิกัสโซ่พูดไว้ว่า “การกระทำทุกอย่างของการสร้าง คือการทำลายล้างก่อน”)
สรุปเลยละกัน โรนัลโด้กับสโมสรคงต่อกันไม่ติดแล้ว
หลังฟุตบอลโลกครั้งนี้ เชื่อว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แน่นอน มาดูกันครับว่าใครจะไปทางไหน...ดี...หรือไม่ดี
_______________________
SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่
Facebook:
https://bit.ly/3DeU6BX
Instagram:
https://bit.ly/3xzln0z
YouTube:
https://bit.ly/3reBi3f
TikTok:
https://bit.ly/3Oq18JC
Blockdit:
https://bit.ly/3qU7B5G