ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาครับ
คนบ้านเราส่วนใหญ่เป็นยังงี้หมด

ลองเดินไปแนะนำคุณน้า คุณอา คุณป้าในครอบครัวคุณก็ได้ ให้ออกกำลังกายไปตรวจเลือดตรวจอะไรหน่อยสิ

คุณอาจจะโดนสวนปฏิเสธทันทีว่า เห้ยยย ยังทำงานทุกวัน ไม่เห็นเคยป่วย จะเป็นโรคได้ไง ไปรพ.ก็เปลือง
หมอมันก็หลอกขายยาอีกนั่นแหละ บลาๆ

ต้องให้ป่วยก่อน ถึงค่อยคิดมาดูแลสุขภาพกัน
ภาษาแพทย์เค้าเรียกว่า primary prevention หรือการป้องกันการเกิดโรค แนวคิดในประชากรกลุ่มเสี่ยงค่อนข้างต่ำครับ

อย่างเช่น โรคไขมันในเลือดสูงหรือความดันสูงนี่ ถ้าไม่คุมแต่เนิ่นๆ มันไปต่อยันเส้นเลือดในสมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ ได้เลย
พอแขนขาเริ่มอ่อนแรง ทำงานไม่สะดวก นุ่นแหละถึงค่อยคิดจะมาวิ่ง มาออกกำลังกายกัน
ซึ่งมันไม่ทันครับ ช้าไปแล้ว เส้นเลือดแปรสภาพไปหมดแล้ว ทำได้แค่ประคับประคองด้วยยาอย่างเดียว

ปล.มันมีแก๊กตลกๆอยู่ว่า ถ้าจะคิดออกกำลังกาย อย่าไปฟิตเนสวันที่ 1 มกราคนมันจะเยอะ ให้ไปวันที่ 2 มกราแทน เพราะคนมันจะเริ่มออกหลังปีใหม่วันเดียวแค่นั่นแหละ

ผมเคยตาม YT ช่อง "หมอไตให้คําตอบโดยพญกัลย์ยมล"

คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ

ครั้งแรกที่ตรวจผมทำไว้ดีเกิน(HDL=56,ไตรกลีเซอไรด์=54,LDL=120)หมอเอาเป็นไม้บรรทัดเลย
พักหลังๆพออะไรดันมากกว่าเดิมโดนบ่นอีกแล้ว

ผมกับแฟนอายุ40กว่า ทุกๆปีต้องหาโปรฯPackage อายุ 55 - 65 แต่ละโรงพยาบาล

มีความเสี่ยงอะไรจะได้รู้ล่วงหน้าก่อน เพราะไม่มีลูก กลัวใครคนนึงจะเป็นอะไรกันขึ้นมาก่อน

ผมไม่ได้ตรวจสุขภาพมาเกือบ 10 ปีแล้ว ตรวจล่าสุดคือสมัครเข้ามหาลัย ปัญหาคือยังไม่ได้ทำประกันสุขภาพเลย แต่ตอนนี้ก็ควบคุมการกิน วิ่งทุกเช้า ( สูง 175 หนัก 72 )

ผมโชคดีที่ทำงานมีสวัสดิการให้ตรวจทุกปี โดย ปีแรก น้ำตาลเลยมานิดหน่อยไม่เยอะมาก จนมาปีที่สองลดลงมาจากปีแรกแต่ดันมีคอลเลสเตอรอลเลยมาแทน ก็เริ่มปรับการกิน แต่ผมเป็นคนออกกำลังกายตลอด จนมาปีนี้ น้ำตาล กับ คอลเลสเตอรอลกลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ปริ่มๆละครับ คือก่อนหน้านี้ชอบกินกาแฟเย็น ชาเยน เช้า บ่าย เลย จนมาปรับตอนหลังดริฟกาแฟกินเอง เวลากินอาหารที่ต้องเติมเครื่องปรุง ก็จะไม่ค่อยใส่น้ำตาล ละครับ แต่ก็ยังไม่ติดกินขนมถุงบ้าง น้ำตาลความหวาน มีอยู่หลายรูปแบบในอาหาร ถ้าอยากจะลดจริงๆให้ลองหาข้อมูลเพิ่มด้วยจะดีครับ

ตรวจล่าสุดปรกติหมด แต่แค่เซ็ตธรรมดา ตรวจเลือดตรวจฉี่ ตรวจปอดไรแบบนี้

แต่เพื่อนผมตรวจเซ็ตใหญ่ทุกปี ผ่าเกือบทุกปี น้ำดี ไส้ติ่ง ชอคโกแลทซีด นิ่วในไต ยังแซวมันอยู่เครื่องในมึงเหลืออะไรบ้าง

ปมก็โชคดีที่ได้ตรวจทุกปี เกิดอะไรขึ้นเราก็ได้รู้บ้าง

ว่าจะไปตรวจๆ ไม่ได้ไปซักที

ผมตรวจทุกปีแล้วก็กลัวทุกครั้งที่ตรวจว่าจะเจออะไร

ค่าตรวจประมาณ 1000 เองเหรอครับ

แล้วที่มันเป็นแพคเกจ หลายพัน ยันเป็นหมื่น มันต่างกันยังไง

ผมก็ดูๆว่าจะไปตรวจบ้างเหมือนกัน

แล้วแต่ช่วงอายุครับ เริ่มต้นที่หลักเกือบพัน ไปจนถึงหลายพันเลยครับ
แต่ถ้าช่วงอายุ 35 น่าจะประมาณสองพัน

1000 ที่ผมตรวจแค่เบื้องต้นครับ แต่มันก็ได้รู้หลายอย่างที่คนมักเป็นกัน

มีเอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ

ก็จะมีรู้ภาพปอดคร่าวๆ ค่าตับ ค่าไต น้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด

แค่นี้ก็คัดกรองได้ในระดับหนึ่งแล้วครับ

ส่วนที่โปรแกรมหลายๆพันยอมรับว่าผมก็ไม่มีปัญญาไปตรวจทุกปีเหมือนกัน

ส่วนใหญ่จะตรวจสำหรับคนที่อายุมากที่ต้องตรวจละเอียดกว่า

หรืออย่างเช่นแบบผมที่ไตเสื่อม มันเป็นค่าเบื้องต้นครับ

แบบนี้ผมก็จะสโคปแคบลงมาได้ละว่าผมมีค่าไตไม่ปกติ

ผมก็อาจจะไปตรวจแบบ 3-4 พัน แบบตรวจไตโดยเฉพาะ

มันก็จะเป็นการตรวจไตเหมือนกัน แต่คนละวิธี และจะได้ค่าที่ลึกและละเอียดกว่าครับ

หรืออย่างผู้หญิงตอนอายุน้อยๆก็อาจจะตรวจแค่มะเร็งปากมดลูกไม่แพงมาก

แต่พออายุเยอะขึ้นตามเกณฑ์ทำให้มีสิ่งที่ต้องตรวจเพิ่มอีกหลายอย่าง

จึงมีโปรแกรมตรวจที่แพงกว่าขึ้นมาครับ

ของผม เมื่อ 4 ปีที่แล้ว cholesterol 270 Ldl 195 ไตเสื่อมระยะที่ 2 เกิดจากทานขนมถุง ของทอด แป้ง นอนดึก ออกกำลังกายบ้างไม่ออกบ้าง ส่วนใหญ่ เดินเร็ว
ตัดสินใจไม่ทานยา ออกกำลังกายเน้น weight training นอนเร็ว ลดขนมถุง แต่ทานปกติเลยไม่มีคุม อาจเยอะกว่าเดิมด้วย
ผลปัจจุบัน chol 200 ldl 140 ไตขึ้นมา ระยะ 1
สรุปได้ว่า แต่ weight training กับ นอนเร็ว แล้วลดขนมถุง มีผลมากๆครับ จากตัวเองเลย

ตอนผมตรวจเจอครั้งแรกเมื่อซัก 3 - 4 ที่แล้วหมอก็ส่งตัวไปตรวจละเอียด เก็บฉี่ 24 ชม. และอัลตราซาวดูไต ผมก็ปกติเหมือนว่าค่ามาตรฐานของไตผมตอนนี้มันเท่านี้ไปแล้ว ผ่านมาจากวันนั้นก็ตรวจมาทุกปีค่าไตก็เท่าเดิม ผมเลยลดของเค็ม พยายามเลี่ยงอาหารที่โซเดียมสูงๆ จะกินอะไรถ้ามีฉลากผมอ่านทุกครั้ง แล้วผมเป็นเลือดจางด้วยไม่รู้จะเกี่ยวกันมั้ยนะ เป็นคนที่ถ้าไม่กินโฟลิก จะเลือดจางตลอด เป็นภาหะธารัสสิเมียด้วย แต่โดยรวมสุขภาพผมแข็งแรงนะถ้าดูแต่ภายนอก 555+