'โทนี่ย์' ตัวแสบ!! ยิงน.90+8 เรือพ่ายผึ้งคาบ้าน 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ไอแวน โทนี่ย์ กลายเป็นตัวสุดแสบเมื่อเป็นคนโหม่งให้ เบรนท์ฟอร์ด ออกนำก่อนและ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่อยไล่ตีเสมอได้แต่ต้องเจอกับความอึดอัดตลอดเกมควานหาประตูแซงนำเท่าไหร่ก็ไม่เจอสุดท้าย โทนี่ย์ คนเดิมยิงนาที 90+8 ยัดเยียด เรือใบสีฟ้า แพ้คาบ้านต่อ ผึ้งพิฆาต 2-1 ทำให้ อาร์เซน่อล การันตีครองจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาส
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
7.
เจา คันเซโล่

87'
5.5
ตัวสำรอง
19.
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ

87'
-
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2565
กรรมการ ปีเตอร์ แบงค์ส
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
1
2
เบรนท์ฟอร์ด
0-1 โทนี่ย์ 16'
1-2 โทนี่ย์ 90+8'
แมนฯ ซิตี้ ได้ คันเซโล่ กลับมาลงสนามและจับยืนแบ็คซ้ายเลย ส่วนแดนกลาง เดอ บรอยน์ กลับมาออกสตาร์ทและแดนหน้า ฮาลันด์ กลับมาเป็นตัวจริงแล้ว
เบรนท์ฟอร์ด เลือกใช้ระบบหลังสามแล้วส่ง ซานก้า มาช่วยคุมหลังส่วน ยาเนลท์ กับ ออนเยก้า กลับมาเป็นตัวจริง
ผึ้งขอลุ้นก่อน! ออนเยก้า สอดมาดวลเดี่ยวยิงไม่ผ่าน เอแดร์ซอน
เกือบมีประตูนำให้กับ เบรนท์ฟอร์ด เข้าแล้วจากจังหวะเปิดโด่งขึ้นหน้า โทนี่ย์ โหม่งได้แล้ว เอ็มเบอโม่ โหม่งต่อให้กับ เฮนรี่ ตามด้วยการเบิ้ลทีเดียวส่ง ออนเยก้า สอดเข้าเขตโทษไปดวลกับ เอแดร์ซอน แต่ยิงไม่ผ่าน
ผึ้งมาอีก! บอลถูกปัดหา เอ็มเบอโม่ หักให้ โทนี่ย์ ยิงติดเซฟ
โอกาสของ เบรนท์ฟอร์ด มาอีกแล้วจากบอลครอสทางซ้ายเข้ามาในเขตโทษ เอแดร์ซอน ปัดบอลยังหลุดไปหา เอ็มเบอโม่ ทางขวาหักมาตรงกลาง โทนี่ย์ ได้ยิงแต่ เอแดร์ซอน ยังกลับมาทิ้งตัวปัดทัน
เรือบุกบ้าง KDB ยิงติดบล็อก
แมนฯ ซิตี้ พอตั้งเกมของตัวเองได้แล้วมีจังหวะสวนกลับ เดอ บรอยน์ ลุยมาจากกลางสนามแทงให้ โฟเดน เข้าเขตโทษต้องดึงไว้ก่อนแล้วจ่ายย้อนมาที่ เดอ บรอยน์ ยิงติดบล็อก
โดนเข้าให้! ฟรีคิกโยนยาว มี โหม่งถึง โทนี่ย์ โหม่งอีกทีผึ้งนำ
แต่แล้ว เบรนท์ฟอร์ด มาอีกทีก็เอาประตูออกนำสำเร็จ ด้วยฟรีคิกจากกลางสนาม ราย่า โยนโด่งมาถึงเขตโทษแล้ว มี โหม่งชงต่อมาหน้าประตูจบด้วย โทนี่ย์ เบียดโหม่งบอลลอยข้ามมือชอง เอแดร์ซอน เข้าประตูไปแบบน้ำหนักพอดิบพอดี เบรนท์ฟอร์ด ออกนำ 1-0
เรือฟ้องเอาจุดโทษแต่ VAR บอกนอกกรอบ
แมนฯ ซิตี้ ถามหาจุดโทษในจังหวะ แบร์นาร์โด้ สุดเส้นหลังยกบอลหลบ เฮนรี่ เข้าเขตโทษแต่ไปโดนแขนเข้าให้เลยต้องเช็คกันว่าเกิดขึ้นในเขตหรือนอกเขตโทษและ VAR เช็คแล้วเกิดขึ้นนอกกรอบเลยเป็นแค่ฟรีคิก
เรือถามหาจุดโทษอีกแต่ยังไม่ได้
แมนฯ ซิตี้ มาถามหาจุดโทษอีกสองหนติดโดยจังหวะแรกเป็นตอนเล่นลูกตั้งแต่ ฮาลันด์ พยายามสลัดหนีตัวประกบโดนดึงล้มลงไปไม่มีเสียงนกหวีด
อีกจังหวะก็เป็นตอนที่ เบรนท์ฟอร์ด เคลียร์ไม่พ้นโดนบล็อกบอลเด้งไปหา เดอ บรอยน์ ในเขตโทษทางขวาไปมุมแคบแล้วแตะหนี เฮนรี่ ก่อนจะหลบลงไปแต่ VAR เช็คแล้วก็ยังไม่ให้
เรือมาใหม่ โฟเดน ไปมุมแคบยิงไม่ผ่าน
เข้าท้ายครึ่งแรก เรือใบ บุกมาอีกรอบ เดอ บรอยน์ ตรงกลางส่งต่อให้ โฟเดน ทางซ้ายเข้าเขตโทษมามุมแคบต้องสับไกส่งบอลไปโดนเซฟออกหลัง
ฟื้นแล้ว! เตะมุมบอลหลุดถึง โฟเดน ซัดตุงตาข่ายตีเสมอ
พอทดเจ็บ แมนฯ ซิตี้ ก็ไล่ตีเสมอได้สำเร็จกับเตะมุมจากทางขวา เดอ บรอยน์ เปิดมาบอลถูกโหม่งหลุดมาทางเสาไกล โฟเดน วิ่งมาซัดเต็มเหนี่ยวบอลพุ่งตุงตาข่ายไล่ตีเสมอทันเวลา 1-1
เกมต้องหยุดครู่นึงปฐมพยาบาล ลาปอร์ต ได้เลือด
กลับมาครึ่งหลังต้องเริ่มกันด้วยหยุดเกมครู่นึงเพื่อให้ ลาปอร์ต ได้รับการปฐมพยาบาลหลงกระโดดเพื่อแย่งโหม่งแต่ไปโดนศอกเข้าแทนได้เลือดเลย ต้องใช้เวลากันพักนึงเลยกว่าจะทำแผลเสร็จแล้ว ลาปอร์ต ลุกมาเล่นต่อไหว
คันเซโล่ ยิงแฉลบออกเสาสอง
บอลกลับมาแข่งต่อ ซิตี้ ก็ได้โอกาสลุ้นทันทีหลังบอลในเขตโทษกระดอนมาเข้าทาง คันเซโล่ ทางซ้ายมีเวลาให้เล็งแล้วยิงติดแฉลบนิดนึงแต่ก็ยังออกเสา
เรือมาสวยกันแต่ กุนโดกาน ยิงโด่งออกหลัง
จังหวะนี้ของ แมนฯ ซิตี้ มากันสวยแต่ปิดบัญชีไม่สำเร็จจากการจ่ายให้ เดอ บรอยน์ ทางขวาเบิ้ลจังหวะเดียวถึง กุนโดกาน หน้าเขตโทษจ่ายตามช่องให้ ฮาลันด์ สอดเข้าไปในกรอบก่อนพักเข้ากลางคืน กุนโดกาน แต่พยายามยิงงัดๆบอลเลยโด่งไปน่าเสียดาย
อย่าเผลอ! ผึ้งบุกกลับ โทนี่ย์ ยิงไม่จับยังโดนเซฟไว้
กลับกันก็ยังประมาท เบรนท์ฟอร์ด ไม่ได้มีโอกาสบุกคืนทางขวา โรเยร์สเลฟ ตัดสินใจครอสไปตรงกลางให้ โทนี่ย์ ยิงแบบไม่ต้องจับใส่เสาแรกยังโดนเซฟได้
หวิดจะสอง! โทนี่ย์ กำลังจะชาร์จจ่อๆเจอ ลาปอร์ต สกัดทัน
หวิดจะมีประตูเพิ่มให้กับ เบรนท์ฟอร์ด เข้าแล้วหลังจาก เฮนรี่ ใช้สปีดควบหนี สโตนส์ เข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วปาดไปหน้าประตูกำลังจะถึง โทนี่ย์ แต่ยังมี ลาปอร์ต ด่านสุดท้ายสไลด์สกัดทันไม่งั้นใส่สกอร์ได้เลย
โรดรี้ ลองยิงไกลโดนรับติดมือ
แมนฯ ซิตี้ บุกกลับมาใหม่แล้วก็ได้ลองยิงไกลอีกทีเมื่อ โรดรี้ มีพื้นที่หน้าเขตโทษเลยตัดสินใจซัดด้วยขวาแต่ ราย่า ยังพุ่งไปรับติดมือ
คันเซโล่ ยิงไกลบ้างโดนปัดได้
เรือใบ ต้องลองด้วยการยิงไกลอีกแล้วคราวนี้จาก คันเซโล่ หน้าเขตโทษตัดสินใจซัดแบบเน้นๆเลยแต่ยังถูก ราย่า ปัดออกไปได้
เปาแจกใบเหลือง คันเซโล่ ข้อหาพุ่งเอาจุดโทษ
เข้าท้ายเกมแล้วเวลาเหลือไม่เยอะ แมนฯ ซิตี้ บุกมามีจังหวะ คันเซโล่ ทำชิ่งเข้าเขตโทษก่อนโดนแหย่ล้มลงไป แต่กรรมการวิ่งมาแจกใบเหลือง คันเซโล่ ในข้อหาพุ่งล้มแทนแล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้เถียงอะไร
ผึ้งเกือบแซง! โทนี่ย์ ยิงไม่ผ่านเซฟ
ทดเจ็บกัน 10 นาทีเกือบจะมีประตูให้ เบรนท์ฟอร์ด เข้าแล้วจากสุดเส้นหลังทางขวา โรเยร์สเลฟ ไขว้ให้กับ ดาซิลวา ก่อนจ่ายไปเสาแรก โทนี่ย์ ยิงแต่ไม่ผ่านเซฟ
โฟเดน ยิงไกลอีกแฉลบออกหลัง
เวลาสำหรับ แมนฯ ซิตี้ เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆก่อนจะได้โอกาสลุ้นอีกหลังบอลโหม่งกันหน้าเขตโทษ ลาปอร์ต ชงกลับมาให้ โฟเดน มีโอกาสส่องไกลแต่ก็ติดแฉลบหลุดกรอบ
สวนน็อค! ดาซิลวา ปาดให้ โทนี่ย์ คนเดิมยิงนำอีก
แต่แล้วสุดท้าย เบรนท์ฟอร์ด โต้กลับกลายเป็นฝ่ายเอาประตูนำได้ทัน เริ่มต้นด้วยการตั้งรับลูกตั้งเตะก่อนจะสวนกลับ วิสซา กระชากพาบอลมาทางซ้ายก่อนเปลี่ยนแกนออกขวาที่ ดาซิลวา กระชากหนี อคานยี เข้าไปในกรอบจบด้วยปาดมาหน้าประตูให้ โทนี่ย์ ยิงจ่อๆนำ 2-1
น่าจะแฮตทริก! ผึ้งสวน 3 ต่อ 1 โทนี่ย์ ยิงติดเซฟ
เกือบมีประตูฝังให้ เบรนท์ฟอร์ด อีกต่างหากสวนกลับมา 3 ต่อ 1 ดาซิลวา ทางขวาเข้าเขตโทษส่งให้ โทนี่ย์ เลยเพื่อลุ้นแฮตทริกแต่ยิงไม่ผ่านเซฟ
จบเกมแบบ แมนฯ ซิตี้ เข่าทรุดพ่ายให้กับ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 ทำให้พวกเขาตามหลัง อาร์เซน่อล สองแต้มแถม อาร์เซน่อล ไม่ต้องลุ้นชนะคืนนี้แล้วการันตีเป็นจ่าฝูงจนถึงคริสต์มาสเลย
นอกจากนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังแพ้เกมเหย้าเป็นหนแรกของซีซั่น กลับกัน เบรนท์ฟอร์ด ก็ชนะเกมเยือนนัดแรกของฤดูกาล
เบรนท์ฟอร์ด
Starting Formation: 3-5-2
15.
แฟรงค์ ออนเยก้า

87'
6.0
27.
วิตาลี ยาเนลท์

62'
5.5
19.
ไบรอัน เอ็มเบอโม่

74'
6.0
ตัวสำรอง
8.
คริสเตียน นอร์การ์ด

62'
6.0
10.
จอช ดาซิลวา

87'
-
11.
โยอาเน่ วิสซา

74'
6.0
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Sat Nov 12, 2022 22:29, ทั้งหมด 7 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ