1.เสียงเชียร์มีผลมากเท่าฟุตบอลไหม ส่วนตัวคิดว่าไม่ใกล้เคียงเพราะดูแล้วแฟนเทนนิสออกผู้ดี เวลาจะเสิร์ฟก็เงียบสนิทให้ทำสมาธิ ไม่เหมือนบอลด่าทั้งเกม มีโยนของด้วย

2.คนเสิร์ฟ บ่อยๆ มีการดิวบ่อยๆ การเสิร์ฟทำให้เหนื่อยกว่าคนรับบอลมาก จริงไหม?

3.ทำไมลูกตบวอลเล่ง่ายๆ ระดับโลกพลาดง่ายจัง ลูกลอยตั้งนาน ตบติดเนส ตบออกบ่อย

4.กีฬาเทนนิส เหนื่อยระดับใด ถ้าเทียบกับฟุตบอล คะแนนเต็ม10

พอดีเพิ่งมาติดตามเทนนิสจริงจัง แล้วเพื่อนก็บอกว่าเสียงเชียร์ได้เปรียบมาก และคนเสิร์ฟปวดแขนมาก
อยากรู้ว่าจริงมากแค่ไหนครับ

คนเสิร์ฟ บ่อยๆ เหนื่อยครับ ยิ่งศุกร์เสาร์คนจะเยอะเป็นพิเศษกว่าครัวจะปิดถือหม้อไฟเหนื่อยเลย

1.มีผลตอนที่เราทำแต้มได้ครับ ตอนเสิร์ฟทุกคนต้องเงียบเป็นมารยาทอยู่แล้ว
2.ผมว่าพอๆกันนะ
3.ไม่ทราบจริงๆ แต่ระดับโลกก็คงมีพลาดกันบ้างแหละ
4.คิดว่านักบอลน่าจะเหนื่อยกว่าหน่อยนึงครับ

1. ปกติจะห้ามใช้เสียงระหว่างที่เล่นคะแนนนั้นอยู่ครับ ถือเป็นมารยาทการรับชม ไม่ให้นักกีฬาเสียสมาธิ ที่ว้าวๆกัน เพราะมันอดไม่ได้จริงๆ

2. คนรับลูกเสิร์ฟปกติจะเหนื่อยกว่า เพราะถ้า return ลูกเสิร์ฟไม่ดี ได้วิ่งขาขาด โดนโยกกระจาย

3. ลูกตบ smash ยิ่งใกล้ net จะยิ่งตบง่าย เพราะสามารถหักข้อมือกดลงได้เต็มๆ ถ้าบอลโด่งมาที่กลางคอร์ด หรือท้ายคอร์ด ต้องกะนํ้าหนักบอล กับองศาไม้ ไม่ให้ติดเน็ตตอนตบ แรงตบมันจะลดลงครับ

4. 12/10 เวลาวิ่งในเกม เทนนิสเป็นกีฬาที่เคลื่อนที่ตลอดเวลา ขาห้ามตาย ฟุตบอลยังพอ jocking หรือเดินได้ เวลาบอลอยู่นอก play zone แต่เทนนิสจะมีพักเบรค กินนํ้า หรือเบรคตอนเปลี่ยน set

- เสียง เชียร์ มีผลน้อยครับ ฝีมือมาก่อนเป็นหลัก
ไม่งั้นน คงได้เห็นคนอังกฤษ ได้แชมป์ วิมเบอดันบ้าง ไม่ทิ้งห่างมาเป็น 100ปี



- ลุกเทนนิส ปกติ เค้าตีใส่สปินมาทุกรอบ การที่ปล่อย ลูกตก พื้นไปก่อน 1จังหวะ จะช่วยลดแรงสปินของลูก และลดความแรงของลูก ทำให้ลูกโดนไม้ แล้วลดแรงดีดไปพอสมควร
ถ้ารับลูกวอลเลย่ แบบตรงๆ ลูกโครตหนักเลยครับ ทั้ง หนัก ทั้งแรงสปิน ทำให้ลุกวอลเลยื คุมทิศทางยากกว่า ตีธรรมดาทั่วไป


- เทียบกับฟุตบอลเหนื่อยคนละแบบ ถ้าตอนตี คือเหนื่อย แต่เทนนิสมันมีช่วงพักอย่างถี่ การจะเหนื่อยของเทนนิสคือ ตีแรลรี่ แบบ ที่โดนโยกไปมา แล้วตัวเองเป็นฝ่ายถูกโยก อันนั้นอะเหนื่อย แต่ พอตีจบ ก้ได้พัก ช่วงรอเสิร์พ หรือช่วง เปลี่ยนเสริพ มันมีดึงสโตกบ้าง เพื่อให้มีเวลาพัก


เรื่องเสริพนี้ พูดยากหวะครับ บางคนเสริพ อย่างเก่ง เสริพไป ตัวเองได้เปรียบ ได้เป็นคนคุมเกม คนเสริพเก่งๆ คนรับรับยาก รับสวนมา กลายเป็น ตั้งให้คนเสริพ เลือกโยกได้ ตามใจ แต่ ถ้าเสริพเฉยๆ เค้าตีสวนสบายๆ อันนั้นคนเสริพน่าจะเหนื่อยเอง

1.คนดูมีผลไหม มีบ้างครับ ถ้าเจอแฟนเจ้าภาพหรือนักเททนนิสที่มีแฟนเยอะ มันก็กดดันเหมือนกัน
2.คนเสริฟเหนื่อยครับ เพราะมันทิ้งตัวไปข้างหน้า กล้ามเนื้อทำงานเยอะ ถ้าเสริฟแบบไม่เน้นแรงมากอาจช่วยได้เยอะ แต่เน้นเลี้ยวออกข้างเอา
3.ลูกแสมชทำไมพลาด ต้องบอกว่าเวลาจับกริฟตอนแสมชกะตอนสโตรกปกติไม่เหมือนกันครับ จะจับเหมือนเสริฟ บางทีนานๆได้เล่นช๊อตแบบนี้ทีก็พลาดได้ อีกอย่างเวลาเห็นเค้าล็อปบอลมา เค้าใส่สปินเข้ามาที่บอลด้วยนะครับ ถ้าอ่านบอลไม่ดี บอลมันจะคอนโทรลยากนะ พลาดได้
4.มันมีทั้งจังหวะที่เหนื่อยมากน้อยต่างกันครับ บอลกะเทนนิสจะเหนื่อยมากเวลาคุณต้องวิ่ง แต่ฟุตบอลจะเหนื่อยมากกว่าตรงต้องปะทะกันด้วยนี่ล่ะ

- เสิร์ฟนี่อย่างเหนื่อยเลยนะ ยิ่งเล่นนานเท่าไหร่ความสามารถในการบังคับทิศทางลูกมันจะตกลงด้วย ผมเคยแข่งเล่นๆ แรงเสิร์ฟจะดีช่วงเซตแรกๆนี่แหละหลังๆแค่ตีให้ข้ามไปอีกฝั่งก็พอ 555
- ลูกวอลเลย์มันจะคอนโทรลยากถ้าต้องโต้ลูกแรงๆ สำคัญคือการปรับองศาของแร๊คแก๊ต ตอนโต้กลับ
- ผมว่าเหนื่อยไม่เหนื่อยนี่สภาพอากาศมีส่วนอย่างเยอะเลย ผมเล่นตอนบ่ายๆ กับ ตอนกลางคืนนี่ อาการต่างกันชัดเจน

1. ตอนจะเสิร์ฟมีผลมากระหว่างเงียบกับมีเสียง
ระหว่างตีโต้กันเสียงฮือฮาไม่อะไรมาก แต่ถ้าเป็นเสียงอะไรลั่นๆตอนเรากำลังจะตีเนี่ยเสียสมาธิกว่า

2. เสิร์ฟเหนื่อยกว่ารับอยู่แล้ว

3. วอลเลย์ไม่ง่ายนะ ขอแจงเป็นข้อๆดังนี้
3.1 บอลมันสปินทุกลูก พอกระทบเอ็นแรคเก็ตก็จะดื้นปลิ้นตลอด ต้องอ่านสปินบอลแล้วปรับหน้าไม้ให้หักล้างสปินออกไปได้ทิศทางที่ต้องการอีก
3.2 ส่วนใหญ่วอลเลย์คือขึ้นหน้าเนท อีกฝั่งก็อัดเต็มแรงเพื่อตีหนีเรา = บอลเร็ว ทั้งต้องอ่านสปินจากข้อบน เล็งบอลแบบไม่มีจุดอ้างอิงแล้วตีให้เข้า sweet spot อีก
(ถ้าให้บอลตกพื้นแบบตีท้ายคอร์ทจะกะความเร็วและตำแหน่งบอลง่ายกว่า)

เวลาเรียนลูกวอลเลย์ เบสิกสุดที่ครูจะสอนเลยคือ ล๊อคข้อมือ ตั้งไม้นิ่งๆแล้วผลักออกไป แค่นี้ก็ยากแล้วครับ
ตบโครมๆหรือ drive volley สวนเท่ๆแบบพวกมืออาชีพนี่ยิ่งยากครับ

4. รวมๆให้เทนนิสเหนื่อยกว่าหน่อย เพราะสปรินท์ระยะสั้นตลอดแล้วต่อเนื่องด้วย บอลยังมีจังหวะเดินหรือวิ่งเหยาะๆได้บ้าง
เทนนิสถ้าแรลลี่ยาวๆแบบสูสี (วิ่งสุดทั้งสองคน) นี่ใจจะขาด ให้นึกถึงตอนเตะบอลแล้วต้องวิ่งเพรสตลอด 2-3 นาทีไม่มีพัก ถ้ามีเวลาพักเบรคก็แค่ตอนจบแต้ม 10-15 วิอะ
แต่ถ้าเราคุมเกมไล่ต้อนคู่ต่อสู้ได้ก็ชิลหน่อย ยืนตีโยกอย่างเดียวเลย
กลับกัน ถ้าเราโดนไล่ต้อนอยู่นี่ชิบหายกว่าแรลลี่สูสีอีกครับ โดนโยกสุดซ้ายขวาทุกดอก บางทีหลอกหยอดวิ่งขึ้นลงขาขวิดอีก

1.เสียงเชียร์ไม่มีผล แต่ถ้าเสียงรบกวน จะมีผลกับการผู้กำลังเล่น โดยเฉพาะตอนเสิร์ฟ
2.การเสิรฟ์ ใช้พลังเยอะกว่าการรับบอล เสริฟ์เยอะยิ่งปวดแขน
3.คอนโทรลยากครับ เพราะระดับโลกจะใส่สปินเกือบทุกลูก
4.โดยรวมแล้วเหนื่อยน้อยกว่าฟุตบอลครับ แต่ถ้าช่วงสโตรกตีโต้ยาวๆก็เหนื่อยกว่า เพราะโต้กันอยู่สองคน