คุณทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยคือขวัญใจคนกรุงเทพ
.................
หลายคนมักจะแปลกใจความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ และการได้รับความนิยมมากขึ้นของพรรคเพื่อไทย
จนทำให้คิดไปว่าคนกรุงเทพเลิกเป็น "สลิ่ม" ไปแล้ว
แต่ในความเป็นจริง คุณทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย คือขวัญใจคนกรุงเทพมาตลอดการลงสมัครรับเลือกตั้ง 2 ครั้งของ คุณทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทย คือในการเลือกตั้ง 2544 และการเลือกตั้ง 2548

พรรคไทยรักไทยโดนยุบปี 2550 และคุณทักษิณ ไม่ได้ลงเลือกตั้งอีกเลย
ในการเลือกตั้ง 2544
ระบบบัญชีรายชื่อ /เขต
ไทยรักไทย 1,131,510 (คิดเป้น 45.64%)
ได้ ส.ส. 29 ที่นั่ง
ประชาธิปัตย์ 718,167 (คิดเป้น 28.97%)
ได้ ส.ส. 8 ที่นั่ง


ในการเลือกตั้ง 2548
ระบบบัญชีรายชื่อ /เขต
พรรคไทยรักไทย 1,668,102 (คิดเป้น 57.59%) (เพิ่มขึ้น11.95%)
ได้ ส.ส. 32 ที่นั่ง
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ 972,290 (คิดเป็น 33.57%) (เพิ่มขึ้น4.60%)
ได้ ส.ส. 4 ที่นั่ง


แม้แต่ในการเลือกตั้ง 2554 ที่แม้พรรคเพื่อไทย ที่ชูยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายก จะได้เก้าอี้ ส.ส. น้อยกว่าพรรคประชาธิปัตย์คือได้ 10 ต่อ 23
แต่เมื่อดูคะแนนบัญชีรายชื่อพบว่าสูสีกันมาก
ประชาธิปัตย์ 1,277,669 (คิดเป็น 44.64%)
เพื่อไทย 1,209,508 (คิดเป็น 42.26%)

สำหรับผมนักการเมืองอย่างทักษิณ นี่แหละคือโมเดลของคุนกรุงเทพ
ส่วนข้อหาล้มเจ้า เอาเข้าจริงคนกรุเงทพไม่ได้แคร์สักเท่าไหร่แล้ว
https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul
หลายคนจำภาพว่าคนกรุงเทพคือฐานเสียงประชาธิปัตย์ แต่จากสถิติH2H ไทยรักไทย/เพื่อไทย ไม่ได้แย่กว่าประชาธิปัตย์เลย ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผลเลือกตั้งผู้ว่าในอดีต แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผู้สมัครของเพื่อไทยไม่โดดเด่นด้วย(เป็นตำรวจ)กรุงทพไม่ได้เมืองหลวงสลิ่มหรอก เพราะฐานเสียงสองพรรค(ตอนนี้สามพรรค) พอๆกัน เพียงแต่สลิ่มชนชั้นกลางมันเสียงดังกว่าเฉยๆ

หึ ดุเลือกตั้งผู้ว่าสิครับ แพ้ตลอดเลย

พึ่งมาชนะตอนชัชชาติ ที่บอกเป็นอิสระนี้แหละ

ตรงนี้ค่อนข้างแปลกนะเหมือน คน กทม ตั้งใจให้นายกกับผู้ว่า กทม อยู่ตรงข้ามกัน

ช่วง44 48 ได้บัญชีรายชื่อได้ไทยรักไทย แต่ผู้ว่า 47 51 ดันเป็นอภิรักษ์จากประชาธิปัตย์ซะงั้น

เคยดูรายการพวกวิเคราะห์การเมือง เค้าก็บอกว่าเรื่องผู้ว่า กทม. มักจะได้คนละพรรคกับพรรคที่เป็น รบ. อยู่ตอนนั้นครับ

จากที่สมัยก่อนเคยอยู่กลางดงไข่แดงของประชาธิปัตย์ ผมรู้สึกว่าดงแถวบ้านผมไม่ได้ยึดติดกับพรรคประชาธิปัตย์ขนาดนั้นนะ
ส่วนใหญ่จะยึดติดกับตัวบุคคลมากกว่า ซึ่งบังเอิญว่าตัวบุคคลเหล่านั้นถูกวางตัวต่อเนื่อง และทำงานกันต่อเนื่องอย่างยาวนานในนามพรรคประชาธิปัตย์ จึงเลือกพรรคไปด้วย

ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ตัวบุคคลที่มีแรงดึงดูดมากพอ ก็พร้อมจะเปลี่ยนไปเลือกตัวเลือกที่เหมาะสม และในทำนองเดียวกัน ก็พร้อมจะกลับมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะไม่คิดอะไรเยอะมากกว่า เช่น โยกไปพลังธรรม แต่ก็กลับมาเลือกคนเดิม หลังจากพลังธรรมดูแล้วไม่เข้าตา

แต่จากสถานการณ์มาถึงปัจจุบัน ผมไม่คิดว่าดงแถวบ้านเก่าผมจะยังยืนพื้นที่ประชาธิปัตย์นะ เนื่องด้วยตัวแม่เหล็กที่ทำงานมายาวนานทั้งหลาย กระโดดหนีออกไปหมดล่ะ เหลือคุณชวน ซึ่งก็ไม่ได้ป๊อปปูล่ามากนัก และไม่มีแรงดึงดูดเท่าตัวผู้เล่นในเขตกรุงเทพ หรือตัวบัญชีรายชื่ออื่นๆครับ

ผมมองอย่างนั้นนะ

บางคนเค้าก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ หน้าตาดูดีหน่อย สะอาดสะอ้านก็คิดว่าเป็นคนดีก็กาให้แล้ว(ยายผมนี่ละ ตอนที่มีชีวิตอยู่ กา ปชป.เพราะหน้าตาพี่มาร์คเลย ไม่ได้คิดไรซับซ้อน) ตอนอภิรักษ์ก็เลยน่าจะได้คะแนนมาส่วนนึงจากเหตุผลแบบนี้เหมือนกันแหละ

อดีตน่ะแล่ะ

ปัจจุบัน ผมว่าแม้วแกไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจขนาดนั้นละ

คนกรุงเทพน่าจะดูที่พวกนโยบาย และหลายๆองค์ประกอบมากขึ้นกว่ายึดติดตัวบุคคลเหมือนอดีต

อาจจะไม่ชัดนัก แต่จริงๆ กทม เป็นเขตสวิงโวตครับ

อันนี้ก็เคยได้ยินเช่นกันครับ เค้าว่าเอาไว้คานอำนาจกัน

ผมคิดว่าเพราะผู้สมัครผู้ว่า กทม ของเพื่อไทย ไม่โดดเด่นมากกว่า
ไม่เกี่ยวกับพรรคเลย
ถึงยังไงผมก็คิดว่าการลงคะแนนใน กทม ค่อนข้างมีคุณภาพมากกว่า ตจว
ถ้าผู้ว่ามักจะเลือกที่ตัวผู้สมัคร
ถ้าเลือกตั้งใหญ่เลือกที่พรรค
การซื้อเสียง ระบบหัวคะแนนก็น้อยกว่า ตจว

มันเป็นวาทะกรรมในการหาเสียงนึงของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยุคนั้น
พรรคแมลงสาปนี่มัน สาปให้คน กทม. งมงายว่าพรรคมันเอง คือพรรคแห่งคนกรุง คนฉลาด

ไม่ต่างอะไรกับพวกวลี ไม่เลือกเรา เขามาแน่หรอกครับ
ในฐานะที่ผมเป็นคน กทม. มาโดยตลอด
และก็ตลอดมาเช่นกันที่ผมไม่เคย มองพรรคแมลงสาปนี่แมร่งเป็นพรรคที่ดี

วันที่เรื่อง ผู้ว่าคนละพรรคกับรัฐบาล และไม่เลือกเรา เขามาแน่
ผมไม่เคยคิดว่า คน กทม. จะดักดานขนาดนี้ แล้วมันก็เป็นไปได้จริง ๆ

แหมมมมม
ตอนที่พรรคมันเองเป็นรัฐบาล มันก็ผลิตวาทะกรรมว่า เลือกผู้ว่าพรรคเดียวกับรัฐบาล
เพื่อการประสานงานกันอย่างราบรื่น

โคตรตอแหล
ผมจะบอกว่า ถ้าไม่มีคนลงเลือกตั้งที่ โคตร power จริง ๆ (ยกตัวอย่าง ชัชชาตินี่แหล่ะ)
คน กทม. ชอบคนตอแหลครับ

ผมว่าคนกรุงเทพเป็นคนที่หาจุดยืนทางการเมืองไม่ได้เลยมากกว่าครับ เป็นคนอ่อนไหวง่าย และไม่ยอมรับจุดยืนของคนจังหวัดอื่น ๆ ด้วย
ไม่แปลกใจที่จะผลลัพท์ทางการเมืองที่ได้ จะเป็นแบบนี้

พรรคนี้เค้าเน้นสร้างภาพ พูดเก่ง พูดจนคนคล้อยตามไป มียุคนึงที่ยังพอมีคนมีฝีมืออยู่บ้างแต่ก็แบ่งเป็น 2 ฝั่ง มาตอนนี้ก็อย่างที่เห็น พ่อผมเคยเป็นสมาชิกพรรคนี้แกก็บอกว่าคนเก่งมีแต่คนเป็นใหญ่ในพรรคมันไม่ใช่ ตอนนั้นเสหนั่นใหญ่สุดแล้วมั้งครับ

เจ้าป๊อค8 ลูกมือป๊อค9แถมเด้งอีก เจ้าจ่ายหน้ามืด

ถ้าพูดถึงเรื่องผู้ว่าก็ต้องดูความสามาถเค้ารึเปล่า หรือคนไหนที่เราคิดว่าน่าจะพัฒนา กทม ได้

อย่างชัชชาติ ต่อให้อยู่พรรคไหนผมก็เลือกเค้านะ เพราะดูรู้ว่าเค้าเก่ง

ปล.ผมเพิ่งได้เลือกตั้งผู้ว่า กทม รอบแรกสมัยชัชชาตินะ เพิ่งย้ายมาจาก ตจว