หลังจากที่มีข่าวว่า กกท. เป็นผู้เดินเรื่องซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ปี 2022
ก็ด้วยกฎ Must Have Must Carry นี่แหละที่ทำให้ภาครัฐต้องมาเดินเรื่องเอง
https://www.nbtc.go.th/Services/academe/%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%95/Must-carry-Must-have.aspx

ความคืบหน้าลิขสิทธิ์บอลโลก ก็ตามนี้
https://www.siamsport.co.th/football-international/national-team/5128/

เนื่องจากภาครัฐเป็นผู้เดินเรื่องเอง มันก็จะล่าช้า จวนตัว เพื่อให้ได้ราคาถูกที่สุด ผิดกับเอกชนที่รีบซื้่อเพื่อจะได้นำมาบริหารลิขสิทธิ์ยาวๆ ได้ แล้วพอซื้อก็จะมีข้อพิพาทตามมาแบบที่แปะไป
https://www.tvdigitalwatch.com/news-true-aisplay-wc-2018/

เลยคิดว่า บอลโลก 2026 เป็นต้นไป
แทนที่จะให้ฟุตบอลโลก อยู่ในกฎ Must Have Must Carry แล้วภาครัฐต้องมาเดินหน้า หาเงินเอาเอง มีปัญหาเรื่องบุญคุณอะไรอีก ใครเป็นรัฐบาลก็ต้องทำ
สู้ให้เอกชนซื้อลิขสิทธิ์มาทำเอง ดูได้แค่บางช่อง แต่ครอบคลุมแพล็ตฟอร์มต้องการ แบบเดียวกับฟุตบอลสโมสรยุโรป ลีกยุโรป น่าจะดีกว่าไหม
ไหนๆ การที่มีเอกชนรายใหญ่ใจป้ำซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดฟรีๆ แบบทศภาค ยากจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ รวมถึงไทยยังไม่เคยไปบอลโลกรอบสุดท้ายแม้แต่ครั้งเดียว

คิดเห็นยังไงโหวตได้ เสนอได้ครับ

ตามสูตร ไม่อยากออกเงิน แต่อยากมีส่วนร่วม

ทุกคนต้องได้ดู และดูครบทุกแมตเสน่ห์มันอยู่ตรงนี้

นึกถึงสมัยเป็นเด็ก คาบเช้าช่วง สิบโมงต้องหยุดเรียนเพื่อเปิดทีวีให้เด็กๆดูฟุตบอล

สงสารคนที่เข้าถึงไม่ได้ ขนาดเราทำงานมีเงินเดือนเยอะ เสีย2800ต่อปี ยังคิดแล้วคิดอีก

มันควรจะดูฟรี ก่อนหน้านี้ยังดูฟรี

เป็นแรงบัลดาลใจให้เด็กๆ ถามว่ามันแพงขนาด รัฐสู้ไม่ไหวเลยเหรอ

ภาษีเราเอาไปละลายเล่นตั้งเท่าไหร่ แค่ฟุตบอลโลก

ละเป็นมหกรรมที่คนไทยส่วนใหญ่ดู คนไม่ดูบอลยังดู

เงินเยอะแยะ ไปไหนหมด

ความเห็นผมมันควรจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกนะ ปล่อยให้เอกชนประมูลมา เอามาขายลิขสิทธิ์ ขายโฆษณาเอา รัฐมีหน้าที่ไปปราบลิงก์เถื่อนที่ผิดกฎหมาย กีฬาเดียวที่คิดว่าควรได้ดูฟรีคือโอลิมปิก

ก็เอกชนไม่ซื้อลิขสิทธิ์ให้ทำไงอ่าาา ทุกบริษัทรู้อยู่แล้วว่าซื้อไปก็ขาดทุน จะเอาเงินมาละเลงในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ก็ใช่ที่

คำถาม
-ซื้อเท่าไหร่นะครับ
-ถ้าซื้อมาแล้ว ถ่ายเฉพาะช่องของรัฐ??
-ถ้ามีช่องเอกชน ต้องประมูลมั้ย เวลาคาบเกี่ยวช่วง prime time ด้วย

มองจากดางอังคารก็รู้ว่าเป็นนโยบายประชานิยมมาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว
แต่ถ้ามาแตกรายละเอียด จะเห็นว่ายอดเรตติ้งรวม/เฉลี่ยมันหาสปอนเซอร์รวมได้
ทั้งเอกชนที่ต้องการเอาแมตซ์ใหญ่ๆไปถ่ายทอด หรือสปอนเซอร์ตามช่วงเวลาต่างๆ

สมมติซื้อลิขสิทธิ์ 250 ลบ. หักค่าประมูลจากช่องเอกชนกับสปอน
อาจจะติดลบอยู่ที่ เกือบๆร้อยล้าน
แลกกับนโยบายประชานิยมที่ทำได้ทันทีและเข้าถึงผู้คน
เม็ดเงินแค่นี้ สำหรับรัฐ มันมีที่มาที่ไปค่อนข้างชัดเจน ไม่น่ามีปัญหา

โดยส่วนตัวผมมองว่า รัฐจำเป็นต้องซื้อลิขสิทธิ์ทุกรอบมั้ย
ผมว่าไม่ใช่ เพราะไม่ได้เสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานอะไรมากมาย
แต่ผมว่านี่มันเป็นผลพวงของนโยบายประชานิยมมากกว่า
ยกเว้นถ้ารัฐเปิดให้มีการพนันถูกกฏหมายแบบอังกฤษ
อันนั้นก็ว่าไปอย่างเรื่องการเก็บภาษีพนัน

https://brandinside.asia/fifa-world-cup-2022-thailand/
เสริมข้อมูลอีกทาง ก่อน กกท.เป็นคนเดินเรื่องเพราะไม่มีเอกชนซื้อ

มันคิดได้ทั้ง 2 ทาง ทั้งปล่อยให้เอกชนมาทำกำไร กับรัฐบาล ลงขันจ่าย

แต่เนื่องจากมันเป็นมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ระดับโลกที่มีมานาน คนส่วนใหญ่สนใจ

มันก็ควรจะกระจายให้ทุกคนได้มีโอกาสสัมผัสบ้าง

ทุกวันนี้ ฟีฟ่า มันห่วยไง ไปทำธุรกิจมากเกินไป เจ้าภาพกว่าจะได้เป็น ผลตอบแทนต้องจ่ายมหาศาล สุดท้ายกรรมมาตกที่คนดู ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดแพงๆ

ถึงเงินรางวัลจะไม่มาก ยังไงนักเตะทุกคนก็อยากจะมาเตะอยู่แล้ว

อินเดีย เจอค่าลิขสิทธิ์ 2,000 ล้าน แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ

เวียดนาม สิงคโปร์ ก็เห็นว่ายังไม่มีคนซื้อลิขสิทธิ์นะ
(เวียดนามโดนเรียก 570 ล้าน ผมว่าไทยก็ไม่น่าจะน้อยกว่านี้ แล้วราคานี้ กับ ระยะเวลาการแข่งขันโปรโมทประมาณเดือนนึง ใครจะจ่าย)

ผมว่าจริงๆ ทุกประเทศในอาเซียน ก็ลองรวมหัวไม่ซื้อมันสักครั้งก็ดีเหมือนกัน

อีกหน่อยจะได้เป็นบทเรียนว่าจะมาโขกราคาค่าลิขสิทธิ์มากเกินไปไม่ได้

เอาตามจริง กฏที่บังคับต้องถ่ายทุกคู่แบบนี้ มันควรใช้กับมหกรรมกีฬาที่ชาติของเราได้มีส่วนร่วมเต็มๆ

เพื่อให้คนในชาติของเขาได้ลุ้นตามติดชาติของตัวเอง

นี่ทีมชาติเราก็ไม่เคยได้ไปกะเขา (และอีกกี่ชาติจะได้ไปก็ไม่รู้) การบังคับที่ต้องออกฟรีทุกคู่นี่ มันไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้วหล่ะ... (บางชาติสามารถซื้อเเพกเกตที่ถูกลงได้ เลือกคู่เปิด รอบน็อกเอ้าท์ คู่ชิง หรือตามถ่ายนัดที่ชาติตัวเองลงเตะ ไม่ต้องจ่ายระดับโดนฟันหัวแบะหลักแตะพันล้าน)

แต่มันก็คือประชานิยมอ่ะนะ... ถ่ายมาแล้วก็ต้องถ่ายต่อไป เตรียมงบกันให้ดี

ป.ล.อีกหน่อยถ้าฟีฟ่าขยับจากจัดทุก 4 ปี มาเหลือ 2 ปีตามที่เสนอ สงสัยคนออกกฏตายหยังเขียด

ปล่อยให้เอกชนประมูลมาทำดีกว่า รัฐจะเสียเงินจำนวนนั้นมาเพื่อคนเฉพาะกลุ่มก็ไม่ใช่

ให้ดูฟรีแค่โอลิมปิคแค่นั้นพอ

ผมเข้าใจว่าน่าจะติดปัญหานึงด้วยเรื่องค่าโฆษณาตอนถ่ายทอดสด รัฐซื้อมาแล้วให้ช่องฟรีทีวีถ่ายทอด ต้องตกลงกันว่าจะจ่ายเงินให้รัฐยังไงให้กระทรวงไหนได้รับเงิน

ส่วนถ้าเอกชนซื้อลิขสิทธิ์มาถ่ายทอด เอกชนก็ไปตกลงเรื่องค่าโฆษณากับชอ่งฟรีทีวีง่ายกว่า

ราวๆ 500 ล้านบาทได้ล่ะมั้งค่าลิขสิทธิ์ที่ฟีฟ่าจะเอา 10-20 ล้านดอลลาร์

เงินขนาดนี้ควรเอามาใช้แบบนี้จริงๆเหรอ เพราะเวลา รบ เอาไปละลายกับเรื่องที่เรามองว่าไม่ได้ประโยชน์อะไร เราก็ด่า

แน่นอนว่าคนบางกลุ่มไม่ดูฟุตบอล ดูผ่านๆ ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่เห็นเป็นไรก็มีเยอะแยะ แล้วอย่าลืมว่าสมัยนี้สิ่งบันเทิงมันเยอะแยะ เข้าถึงง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะ

ไหนจะค่าถ่ายทอด ค่าดำเนินการอะไรต่างๆอีก

ผมว่าปล่อยตามกลไกตลาดดีกว่า เอกชนซื้อมาก็ให้เก็บค่าดูไป

พอรัฐให้ดูฟรี ก็โดนด่าว่า เอาเงินภาษีมาละลายซื้อเสียง
พอให้เอกชนเก็บเงิน ก็โดนหาว่า ไม่ทำเพื่อประชาชน
โดนทั้งขึ้นทั้งล่องล่ะ

สำหรับผม ยังไงก็ได้ ไม่เดือดร้อน
แต่อยากให้ดูฟรีนะ นานที4ปีหน
คืนความสุขให้ประชาชนบ้าง