ดอลลาร์อยู่ในช่วงปรับตัว หยวนก็กำลังปรับตัว ต้องดูว่า 2 ค่ายนี้ใครปรับตัวได้ดีกว่ากัน

ดอลลาร์ขึ้นมาเป็นสกุลเงินสำคัญเพราะเป็นเงินของประเทศมหาอำนาจ ทุกประเทศต้องการเก็บเงินดอลลาร์ไว้เป็นเงินทุนสำรองเพราะคิดว่ามูลค่ามันแข็งแกร่ง ซึ่งจริงๆ ค่าเงินของทุกประเทศควรจะแข็งแกร่งเท่าๆ กัน เพราะการจะพิมพ์เงินออกมาใช้ได้นั้นต้องเอาทองคำมูลค่าเท่ากันไปค้ำประกันมูลค่าไว้
แต่ดอลลาร์พิมพ์ออกมาใช้ได้โดยไม่ต้องมีทองคำค้ำประกัน เพราะประเทศอื่นเชื่อมั่น พิมพ์ออกมาเท่าไหร่ประเทศอื่นทั่วโลกก็พยายามเก็บไปเป็นเงินทุนสำรองของประเทศตัวเอง พอดอลลาร์ในตลาดเหลือน้อยมูลค่าก็ยิ่งแข็ง แข็งมากมีปัญหากับระบบเศรษฐกิจอมเริกาก็พิมพ์ออกมาอีก แล้วก็เอาไปซื้อคืนพันธบัตรเพื่อให้เงินกระจายลงตลาดที่เราได้ยินกันว่า QE ช่วงไหนเงินอ่อนเพราะดอลลาร์ในตลาดเยอะเขาก็เอาพันธบัตรออกมาขายเพื่อดึงดอลลาร์กลับ กลไกสรุปสั้นๆ ประมาณนี้ โดยมากจะเป็นการพิมพ์เงินออกมามากกว่าโดยเฉพาะช่วงโควิดอเมริกาพิมพ์ดอลลาร์ออกมาเยอะมากๆ แปลว่ากระดาษที่เสกเป็นเงินในโลกนี้มีเยอะเกินไปแล้ว

หันไปมองทางจีนบ้าง ตอนนี้จีนเป็นมหาอำนาจใหม่ ก้าวหน้าขนาดไปลงดวงจันทร์ส่งมนุษย์ไปทำงานบนนั้นได้จริงๆ ไม่ได้แหกตาชาวโลกเหมือนกรณีอพอลโล่ 11 ที่บอกว่าอเมริกาส่งมนุษย์ไปลงดวงจันทร์ได้ จีนค้าขายได้กำไรจากชาวโลกมหาศาล เงินทองมีมากมาย แต่มีปัญหาคือเงินหยวนยังไม่ใช่สกุลเงินหลักของโลก ตอนนี้จีนจึงพยายามจะทำให้หยวนเป็นสกุลเงินหลักให้ได้ ซึ่งถ้าทำได้เมื่อไหร่ทั่วโลกจะหันมาใช้หยวน และเก็บหยวนเป็นเงินทุนสำรอง ลองนึกสภาพว่าทุกประเทศขายเงินดอลลาร์ที่เก็บไว้ออกมาหมดค่าเงินดอลลาร์จะเป็นอย่างไร คงมีโอกาสที่คนเห็นแบ้งค์ดอลลาร์ตกอยู่บนถนนคนเห็นแล้วเดินผ่านแบบไม่สนใจ

ตอนนี้ค่าเงินดอลลาร์แข็งมาก พอดอลลาร์แข็งก็กระทบการค้าระหว่างประเทศไปหมด ค่าเงินแข็งส่งออกยาก ค่าเงินอ่อนก็ซื้อเขาไม่ไหว ผู้ซื้อคือประเทศทั่วๆ ไปมีปัญหาซื้อ ผู้ขายรายใหญ่ก็คือจีนก็มีปัญหาขายของไม่ออก จีนเลยออกนโยบายมันอย่างนึง เรียกว่า YED คือ Yuan equivalent Dollar คือขายสินค้าเป็นหยวนแต่โอนด้วยดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์อยากแข็งอยากแกว่งก็ช่างมัน เขายืนราคาให้เป็นเงินหยวนแต่เวลาจ่ายเงินที่ประเทศส่วนมากยังไม่สามารถจ่ายเป็นหยวนได้โดยตรงก็คำนวณกลับเป็นดอลลาร์ด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่จ่ายเงิน ไม่ใช่ ณ วันที่ตกลงซื้อขาย คนซื้อก็แฮปปี้ ไม่ได้ไม่เสียจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน

ผมจะสั่งสินค้าจากจีนก็มีปัญหาเรื่องราคาดอลลาร์นี้เหมือนกัน ตอนนี้ก็คุยกันว่าขอเปลี่ยนเป็น YED ด้วยแล้วกัน ทางจีนก็ชอบใจ นโยบายนี้ของจีนเป็นการนับหนึ่งให้ต่างประเทศหันมาอ้างอิงเงินหยวนมากขึ้น ไม่กี่ปีต่อจากนี้เงินหยวนจะขึ้นมาเป็นเงินสกุลหลักของโลกแน่ๆ ถ้าอเมริกาหาทางแก้เกมนี้ไม่ได้ก็อาจจะเป็นจุดจบของดอลลาร์

ขอหลักฐานหน่อยสิงับ เรื่อง apollo11 เป็น hoax หน่ะ

ก็ต้องรอดูค่าเงินหยวนจะทำยังไงให้ติดตลาดรวมถึงเป็นอัตราที่คนทั่วโลกใช้

นอกจากนั้นยังไม่เห็นค่าเงินประเทศไหนจะแข็งแกร่งพอที่จะขึ้นมาได้เลย

อ่านกำลังเพลินเลย สะดุดตรงยานอวกาศเหมือนกัน แล้วรู้ได้ไงว่าใครส่งจริงไม่จริง

ระบบปัจจุบันคือเครดิต

ต่อให้การเงินแย่ยังไงเครดิตดีก็ไปต่อได้ แล้วดูเมกาดิ มีความมั่นคงสุดๆทุกด้านเลย เทคโนโลยีระดับท็อป ทหาร ความรู้ อวกาศ บันเทิง การเมืองการฑูต

ซึ่งจีนสอบตกหลายข้อเลย ฉะนั้นหยวนนี่เลิกพูดได้เลย ส่วนเมกาเค้ารู้จุดแข็งตัวเองดี จะพิมพ์เงิน ดูดกลับยังไงก็สบาย ต่อให้เศรษฐกิจแย่ยังไงก็แข็ง

แทงกันมั้ยอะว่ามันจะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เราน่าจะตายก่อน ตลกพวกเบียวหนังสือ Ray Dalio ละเอามาพ่นไปเรื่อย 555 เอาสั้นๆว่าการจะวิเคราะห์ดอลลาห์มันไม่ได้มีแค่มิติเชิงเศรษฐศาสตร์ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นตามทฤษฎีมันต้องเจ๊งไปนานละ แต่ที่มันยังแกร่งได้ถึงทุกวันนี้เพราะอำนาจในเชิงรัฐศาสตร์ ด้านการเมือง การแทรกแซงนั่นนี่ ลับหลังนี่มะกันมันยึดเสาหลักความมั่นคงโลกใบนี้ไว้หมดละ ถ้ายังสงสัยอีกก็ไปหาคลิปของรายการที่เฮียวิทย์พูดถึงประวัติศาสตร์เมกาอะละจะเข้าใจว่าทำไมเมกามันถึงเป็นเมกาได้แบบทุกวันนี้

ประเด็นเจ้าของกระทู้ ผมว่าถ้าสนใจจริงๆอยากศึกษาค้นคว้าฟังคนที่มีความรู้ ผมแนะนำลอง google หาคำว่า bretton woods 3.0 กับชื่อ zoltan pozsar ดูนะ ได้ประโยชน์สมใจแน่นอน

ส่วนเรื่อง usd แข็งค่าเพราะการซื้อไปเก็บเป็นทุนสำรอง ผมไม่เห็นด้วยมากๆ อยากเสนอมุมมองอีกแบบนะ

เวลาประเทศส่งออก หรือนำเข้า มันจะมีคำว่าเกินดุล ขาดดุลอยู่ ประเทศที่เกินดุลนั่นแหละคือสะสม usd ไปเยอะ เช่นจีน หรืออย่างไทย ก็เกินดุลบริการ(ก่อนหน้า covid) เพราะเรามีเงิน usd จากนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่าที่ออกไป

เงิน usd พวกนี้มันคือสื่อกลางแลกเปลี่ยน เป็นค่าเงินที่ธนาคารกลางที่มีระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบไม่ถึงกับปล่อยเสรีมาก ก็จะเอาไปเก็บเป็นทุนสำรอง ซึ่งไม่ได้แปลว่าเขาจะเก็บเป็น usd นะครับ เขาเอา usd อันเนี่ยไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไว้ แปลว่าเงิน usd จริงๆมันไม่ได้ถูกเก็บไว้จนหายไปหมดนะ มันก็หมุนเวียนในระบบแหละ ประเทศนึงอาจจะมีเงินสำรองเป็นเงินจริงๆ 10-20% แต่ที่เหลือก็เป็นรูปพันธบัตรทั้งนั้นแหละ

ที่ usd มันแข็งค่ามันต้องเพราะว่าต้นทุนของการถือเงิน usd มันสูงขึ้นซิครับ เพราะดอกเบี้ยมันขึ้น แปลว่าแรงจูงใจในการถือสกุลเงินอื่นมันลดลง เพราะถ้าคุณกลับมาถือ usd return แบบไม่มีความเสี่ยงมันจะสูงขึ้น แต่ละประเทศที่กลัวจะค่าเงินอ่อนค่าเร็วมากๆ เขาถึงต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจูงใจให้เงินมันไหลออกไม่เร็วนัก ทีนี้เวลานักลงทุน นักเก็งกำไร กองทุนทั้งหลายจะเปลี่ยนเป็นเงิน usd กันหมด ความต้องการ usd มันสูงขึ้น มันก็ทำให้ค่าเงินแข็งค่าซิ

ถ้าสมมุติฐานว่า usd แข็งค่าเพราะธนาคารกลางซื้อเก็บกันหมดเป็นจริง มันก็ขัดกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้นตอนนี้ซิ เพราะทุกประเทศทุนสำรองลดลงหมด เพราะว่าจริงๆธนาคารกลางพยายามขาย usd ออกมาเพื่อพยุงค่าเงินตัวเองทั้งนั้น ดูญี่ปุ่นก็ได้

นอกจากเรื่องของการค้าการลงทุนแล้ว พวกเรื่อง flow การกู้เงิน การชำระเงินต่างๆมันก็ใช้ระบบของเงิน usd เป็นหลักกันทั้งนั้น ระบบ swift ที่ใช้ sanction ประเทศที่ไม่ยอมตามสหรัฐก็ใช้ usd เป็นหลัก

เรื่องดอลลาร์กระดาษเอาจริงๆมันก็อ่อนค่ามาตลอดอยู่แล้วนะ เงิน 1 usd จากปี 1900 ถือไว้เฉยๆ ปี 2020 มันก็เหลือมูลค่า 10cent เองมั้ง เงินอื่นๆทั่วโลกก็เหมือนกัน อยู่ที่ว่าเราเอาเงินเทียบกับอะไรอะ ถ้าดอลลาร์กระดาษ แล้ว เยน ยูโร บาท จะเป็นยังไงอะ

หลายๆประเทศคงจะกระจายความเสี่ยง ไปถืออย่างอื่นบ้าง ไรบ้าง ดอลลาร์คงไม่พังไปง่ายๆ แต่คงมีคู่แข่งอย่างอื่นมาแย่งตลาด

ขึ้นอยู่กับอำนาจของอเมริกาในอนาคต

ส่วนตัว สกุลเงินที่ไม่น่าเก็บกว่า USD คือ Euro

พังยากมากครับ

ถ้าเทียบกับสกุลเงินทั้งโลก

ดอลล่าน่าจะเป็นแบงก์กงเต็กใบสุดท้ายที่ยืนหยัดหลงเหลืออยุ่

แต่จะแข็งขึ้นไปเว่อๆแบบ ดอลละ 40 บาทก็ยาก พอๆกัน

"อนาคตอาจจะมีคริปโตหรือสกุลเงินดิจิตัลมาหนุนก็เป็นได้"

ระดับพรี่กัน เค้าจะอ้างอะไรก็ได้

น่าจะยากมาก เพราะมันต้องมีการปฎิวิติ หรือวิกฤตการณ์ไรสักอย่าง ที่เปลี่ยนขั้วอำนาจของโลก

เช่น สเปน เป็นเจ้าอาณานิคมแรกๆของโลก เงินเหรียญสเปน จึงเป็นสื่อกลางของโลกในช่วงนั้น ที่ไว้ใช้แลกเปลี่ยนข้ามทวีป

ต่อมา จักรวรรดิอังกฤษ ปฎิวัติอุตสาหกรรมสำเร็จ ก็เป็นเงินปอนด์ ที่เป็นสกุลหลักของโลก

จากนั้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง จักรวรรดิอังกฤษตกต่ำลง ก็เป็น ดอลล่าสหรัฐ ที่มาแทนที่เงินปอนด์ และเป็นสกุลเงินหลักของโลก จนถึงทุกวันนี้

.