#โกดังหนังเล่าเรื่อง 23 ตุลาคม วันนี้เมื่อ 15 ปีก่อน โอปปาติก เกิดอมตะ หนังแอ็คชั่นแฟนตาซี เข้าฉายโรงเป็นครั้งแรก
.
หนังที่หยิบพระเอก หนุ่มหล่อแแถวหน้าวงการบันเทิงไทย มาขึ้นจอบู๊กันเต็มสูบ ไม่ว่าจะเป็นพี่เต๋า สมชาย, ชาคริต แย้มนาม, ลีโอ พุฒ, เรย์ แมคโดนัลด์
และ บอล อธิป นานา โปรเจ็คที่ธนกร พงษ์สุวรรณ ใช้เวลาทำอยู่นาน 3 ปี ทำไปพร้อมๆกับ Fake โกหกทั้งเพ ผลงานสร้างชื่อของเขา
.
"แรงบันดาลใจในการทำเรื่อง โอปปาติก คือตอนที่ผมทำเรื่อง Fake โกหก...ทั้งเพ ผมมีไอเดียและสคริปต์หลายเรื่อง ผมเขียนไว้อยู่เรื่องหนึ่งซึ่งก็คือเรื่อง อวตาร ช่วงนั้นผมได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับพุทธศาสนาค่อนข้างเยอะ ทีนี้พอมาเจอคำๆ หนึ่งอย่าง โอปปาติก ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งตามหลักพุทธศาสนา คือพุทธศาสนามีมาเป็นสองพันกว่าปี มีมานานมาก โอปปาติก ความหมายของมันก็คือ ผุดและเกิดขึ้นมาทันที โตเต็มวัยขึ้นมาทันที อันนี้ก็จะรวมเรียกพวกภูติผีปีศาจ เทวดา เทพยดา สัมภเวสี อสูรกายต่างๆ ตามความเชื่อของคนไทยแล้วแต่จะเรียก ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ"

"บวกกับโดยส่วนตัวผมเองชอบทำหนังที่เน้นในเรื่องของคาแร็กเตอร์อยู่แล้ว และก็อยากจะลองทำหนังแอ็กชั่นในแบบที่ผมอยากทำบ้าง ผสมกับการที่ถ้าหากจะมีหนังไทยซักเรื่องที่รวบรวมนักแสดงชั้นนำ ซึ่งมีคาแร็กเตอร์ที่แปลกใหม่ให้มาอยู่ในเรื่องเดียวกันก็คงจะน่าสนใจดี อันนี้เป็นที่มานะครับ หลังจากนั้นผมจึงคิดพล็อตขึ้นมาสนับสนุนไอเดียนี้อีกทีหนึ่ง ก็เลยออกมาเป็นเรื่องราวของเหล่าโอปปาติก ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถพิเศษ นอกจากที่พวกเขาต้องต่อสู้กันเองแล้ว พวกเขายังต้องต่อสู้กับตัวเองอีกด้วย" ผู้กำกับกล่าวไว่ในช่วงปี 2006
.
หนังที่หยิบเรื่องความเชื่อทางศาสนา แนวคิดแบบพุทธศาสนาที่ใกล้เคียงกับวิถีชีวิตคนไทยมาโดยตลอด ร่างกายชีวิตที่เรามีอยู่ก็เพียงแค่มาอาศัยเท่านั้น คนเราทุกคนชอบหาคำตอบให้ชีวิต เรื่องความเป็นอมตะ ที่ใครๆก็อยากเป็น แต่ถ้ามีแล้ว กลับเป็นทุกข์ สร้างความลำบากให้ชีวิต การไม่มีวันตายก็เป็นบาดแผลให้ชีวิตได้เหมือนกัน และมันคือผลร้ายที่เหล่าโอปปาติก ต้องเจอ หนังนำมาผสมผสานกับฉากแอ็คชั่นที่เดือดผ่านการแสดงของดาราคุณภาพ น่าเสียดายที่ผลตอบรับจากหนังเรื่องนี้ขาดทุนไม่เป็นอย่างที่หวัง กวาดเงินไป 37.8 ล้านบาทจากทุนสร้าง 80 ล้านบาท
.
ขอบคุณข้อมูลประกอบ Siamzone และนิตยสาร Bioscope
.
#โกดังหนัง #Sahamongkolfilm

https://www.facebook.com/1685775051701783/posts/pfbid02Sv6SB3GEFZDBtVJ6uvam1cAE11hWXwuF3UJBkdAq9NNmyBR5PZoSZLonfdKV5pLrl/

ปล.ตกใจทั้งเรื่องทุนสร้างและรายได้เลยแหะ ไม่นึกว่าทุนสร้างจะเยอะขนาดนี้ในสมัยนั้น ถึงว่าทำไมถึงไม่ทำต่อ

ถ้าไทยจะสร้างหนังฮีโร่ ผมว่าเอาตัวละครพวกนี้มาทำยังดีกว่าอีกนะดูแบบมีมิติมีพลังมีจุดอ่อน

ทำแนวดาร์คๆ อะไรงี้ไปเลย ไม่ใช่ไปวนเวียนแค่กับสักยันต์อะไรแบบนี้โครตล้าหลัง

เปนหนังดีเรยนะ แหวกแนวดี เหมาะกับ คนไทย เสียดายจบง่ายไปหน่อย

ควรทำไตราคมาก ต่อยอดได้เยอะแยะจัดๆ

อยากให้มีภาคต่อนะ แต่เหลือพี่เต๋าคนเดียวนี่ดิ

ตอนนั้นคือว้าวกับแนวคิดการเขียนบทแหวกแนวอันนี้มาก ไม่คิดว่าคนไทยจะทำ


อันนี้ควร remake พอๆกับอินทรีแดงอะ

คอนเซปหนังดีมาก สปินออฟได้อีกเยอะ เสียดายมาก

เสียดายรายได้ไม่ปัง เป็นเรื่องที่ชอบเรื่องนึงเลย ดูในโรงด้วย

สมัยก่อนมีพวก 7ประจันบาน มือปืนโลกพระจัน โอปปาติก นี่ละที่น่าดู

วัตถุดิบดีมากนะ เสียดายการเล่าเรื่อง การตัดต่อ

ตัวละครที่เป็นตำรวจ มัดผมรวบเป็นหางม้า ที่ตอนสุดท้ายเหลือแขนข้างเดียว หายไปไหนอ่ะ

หนึ่งในหนังในดวงใจ ที่อยากให้มีภาคต่อ หรือรีเมค หรือเอามาทำซีรีส์ก็ได้

โคตรอยากดูอีก

ตอนเด็กๆใครเคยอ่านว่า โอบ ปา ติก มั่งสารภาพมาซะดีๆ

แก่ชิบหายเลยกู