'มิคกี้' ฮีโร่นาทีบาป! งูใหญ่บุกเฉือนฟิออสุดดราม่า 4-3
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โชว์ผลงาน 2 ประตู 1 แอสซิสต์ ให้ อินเตอร์ มิลาน ขึ้นนำถึงสองครั้งสองครา แต่ ฟิออเรนติน่า ไม่ยอมแพ้ตามตีเสมอได้ในนาทีสุดท้าย เกมทำท่าว่าจะจบตรงนั้น แต่ช่วงทดเจ็บ เฮนริค มคิทาร์ยาน เป็นฮีโร่ ยิงให้ทีมบุกไปชนะแบบสุดดราม่า 4-3 คว้าชัยเกมลีคสามนัดติด รั้งอันดับ 7 ของตาราง
ฟิออเรนติน่า
Starting Formation: 4-3-3
28.
ลูคัส มาร์ติเนซ ควาร์ต้า
5.5
3.
คริสเตียโน่ บิรากี้

83'
6
2.
โดโด้

83'
5.5
34.
ซอฟยาน อัมราบัท

83'
6
32.
อัลเฟรด ดันแคน

52'
5.5
5.
เจียโคโม โบนาเวนตูร่า
6.5
22.
นิโคลัส กอนซาเลซ

9'
6
ตัวสำรอง
23.
โลเรนโซ่ เวนูติ

83'
5
7.
ลูก้า โยวิช

52'
7
15.
อเล็กซ่า แตร์ซิช

83'
6
11.
โจนาธาน อิโคเน่

9'
7
72.
อันโตนิน บารัค

83'
6
กัลโช่ เซเรีย อา
สนาม อาร์เตมิโอ ฟรังคี่
22 ตุลาคม 2565
กรรมการ เปาโล วาเลรี่
ฟิออเรนติน่า
3
4
อินเตอร์ มิลาน
1-2 คาบราล 33' (Pen.)
2-2 อิโคเน่ 60'
3-3 โยวิช 90'
0-1 บาเรลล่า 2'
0-2 เลาตาโร่ 15'
2-3 เลาตาโร่ 72' (Pen.)
3-4 มคิทาร์ยาน 90+5'
อินเตอร์ ยังตัวผู้เล่นชุดเดิมจากนัดที่แล้ว โดยมีเปลี่ยนคือ ดาร์เมียน ได้ลงวิงแบ็คขวา และ คอร์เรอา ลงมายืนหน้าคู่ เลาตาโร่ แดนกลางยังคงไม่มี โบรโซวิช จึงใช้ บาเรลล่า, มคิทาร์ยาน, ชัลฮาโนกลู แผงเซ็นเตอร์ยังคงเป็น เดอ ไฟรจ์, อแชร์บี้, สคริเนียร์ โดย โอนาน่า เฝ้าเสา
ฝั่งฟิออ แนวรับมี มิเลนโควิช บัญชาการ แดนกลางมี อัมราบัท, ดันแคน, โบนาเวนตูร่า ส่วน กอนซาเลซ กับ คูอาเม่ ทำเกมริมเส้นให้ คาบราล รอจบสกอร์
บาเรลล่า ดีดจ่อๆ! อินเตอร์นำอย่างไว
อินเตอร์ ต่อบอลกันขึ้นมา มิเลนโควิช ดักได้แล้ว แต่บอลแรกไม่ดีโดน เลาตาโร่ ฉกไปจากนั้นจ่ายเร็วให้ บาเรลล่า หลุดเข้ากรอบเขตโทษ ดีดด้วยขวาสวนตัว เตร์ราชชิโน่ งูใหญ่ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0
กอนซาเลซ เจ็บแต่หัววัน
ฟิออเจอปัญหาตั้งแต่ต้นเกมมีตัวสำคัญในแนวรุกอย่าง กอนซาเลซ มีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากจังหวะสปรินท์เล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยน อิโคเน่ ลงมาแทน
อิโคเน่ ลงมาตัดยิงได้ลุ้น
คูอาม่า วางบอลยาวให้ อิโคเน่ หลุดไปทางขวาของเขตโทษ ลากตัดเข้าซ้ายแล้วปั่นโค้งๆ บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียว
อิโคเน่ วอลเล่ย์จ่อๆ แต่โดนไม่ดี
คูอาเม่ ทำชิ่งกับ ดันแคน หลุดไปถึงเส้นหลัง ตักกลับมาหน้าเขตโทษ อิโคเน่ มีพื้นที่ได้ง้างวอลเลย์แถวกรอบ 6 หลา แต่บอลไปโดนแถวหัวเข่าทำให้บอลไม่มีน้ำหนักและไม่ตรงกรอบ
เลาตาโร่ คมกริบ! โยกหลบก่อนยิงเสียบมุม
โดโด้ จ่ายคืนหลังในแดนตัวเองน้ำหนักเบาไป โดน เลาตาโร่ ฉกได้ จากนั้นลากจี้ใส่ กวาร์ต้า แล้วโยกหลบก่อนยิงด้วยซ้ายเน้นๆ จากแถวหัวกะโหลก บอลพุ่งเสียบมุม อินเตอร์ ขึ้นนำ 2-0
โบนาเวนตูร่าชาร์จจ่อๆ ไม่ตรงกรอบ
บิรากี้ ครอสจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาหน้าประตู โบนาเวนตูร่า เติมมาเข้ามามีพื้นที่เหยียดขาเข้าชาร์จจากกรอบ 6 หลา บอลไม่ตรงกรอบ
ดิมาร์โก เสียโทษ! ฟิออตีตื้น
จังหวะที่ โบนาเวนตูน่า เข้าชาร์จ ปรากฏว่า ดิมาร์โก ที่พยายามขวางดันเข้าพรวด เปิดปุ่มยันใส่หน้าขาเต็มๆ ผู้ตัดสินดูจอข้างสนามแล้วให้ ฟิออ ได้จุดโทษ คาบราล รับหน้าที่สังหารยิงไปทางขวา โอนาน่า พุ่งผิดทาง เจ้าบ้านไล่มา 2-1
เกมเริ่มเดือด จารย์แจกฝั่งละเหลือง
ดิมาร์โก หลุดเข้ากรอบเขตโทษไปจิ้มหัวเกือก ติดเซฟ เตร์ราชชิโน่ แล้วพยายามฟ้องจะเอาจุดโทษแต่กรรมการยังนิ่ง บอลถูกสกัดออกมาแล้วมีจังหวะผู้เล่น ฟิออ เข้าหนักจนทั้งสองฝ่ายโวยวายใส่กัน สุดท้ายเหตุคลี่คลายโดย โบนาเวนตูร่า และ อแซร์บี้ รับไปคนละเหลือง
บิรากี้ฟรีคิกไม่เข้าเป้า
คูอาเม่ เรียกฟาวล์จาก มคิตาร์ยาน ได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา บิรากี้ ปันโค้งด้วยซ้ายข้ามกำแพงแล้วแต่บอลไม่ตรงกรอบ
เตร์รัชเชียโน่ เซฟรัวๆ
เริ่มครึ่งหลังมา อินเตอร์ เดินเครื่องใส่ทันที ดิมาร์โก เติมขึ้นมาทางซ้าย เปิดแฉลบโดโด้แล้วบอลเกือบมุดเข้าเสาแรก แต่ เตร์รัชเชียโน่ ยังสติดีพุ่งปัดออกหลัง
จังหวะเตะมุม ดิมาร์โก เปิดมาหน้าประตู เลาตาโร่ สลัดตัวประกบได้โขกเน้นๆ บอลเกือบเสียบใต้คาน แต่ เตร์รัชเชียโน่ บินปัดปลายมือ
อิโคเน่ ซัดหาย! ฟิออไล่เจ๊าจนได้
เกมของ อินเตอร์ เริ่มตื้อลงไป จังหวะนี้ คูอาเม่ วางยาวตั้งแต่กลางสนามให้ อิโคเน่ เอาบอลลงที่ริมเส้นฝั่งขวา แล้วใช้ความเร็วลากจี้ใส่ อแซร์บี้ จากนั้นตัดเข้าซ้ายแล้วปั่นโค้งๆ จากแถวเส้นเขตโทษ บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมอย่างสวยงาม โอนาน่า หมดสิทธิ์ ฟิออ ไล่มา 2-2
บาเรลล่าหลุดเดี่ยวยิงติดเซฟ
อินเตอร์ ทำเกมสวนกลับมา เซโก้ พักได้แล้วป้ายออกขวาให้ บาเรลล่า ใช้ความเร็วหลุดเข้ากรอบเขตโทษ ยิงเน้นๆ แต่บอลตรงตัว เตร์รัชเชียโน่ ทุบทิ้งได้
เลาตาโร่ เรียกจุดโทษ! อินเตอร์ขึ้นนำอีกครั้ง
เชโก้ จ่ายทะลุช่องให้ เลาตาโร่ หลุดเดี่ยวแตะหลบ เตร์รัชเชียโน่ แล้วโดนรวบล้มลงไป ตอนแรกมีการจับล้ำหน้าก่อน แต่ดู VAR แล้วไม่ล้ำ ผู้ตัดสินจึงให้ อินเตอร์ ได้จุดโทษ เลาตาโร่ ลุกขึ้นมาสังหารเอง ยิงไปทางขวาอย่างเฉียบคม งูใหญ่นำอีกรอบ 3-2
ฟิออได้เสียวจาก คูอาเม่
คาบราล ถอยลงมาพักบอลที่ริมเส้นฝั่งซ้าย จ่ายต่อมาหน้ากรอบเขตโทษให้ คูอาเม่ แต่งหนึ่งทีแล้วมีพื้นที่กดด้วยขวาเต็มหลังเท้า บอลหลุดกรอบไปนิดเดียว
โยวิช ทำได้! ฟิออตีเสมออีกรอบ
บิรากี้ เปิดเตะมุมจากฝั่งขวามาที่หน้าประตู มิเลนโควิช โหม่งตั้งต่อให้ โยวิช ปล่อยบอลไหลแล้วกลับตัววอลเล่ย์ด้วยขวาแบบเต็มข้อแถวกรอบหกหลา บอลพุ่งแรงเข้าไปตุงตาข่าย ฟิออ ตีเสมอ 3-3
นาทีบาป! มคิทาร์ยานสะกิดบอลเข้า
เกมทำท่าจะจบแต่จังหวะนี้ิ ดุมฟรีส์ วางยาวขึ้นมา เชโก้ พักได้แล้วป้ายออกขวาให้ บาเรลล่า หลุดเดี่ยวไปทางขวาของเขตโทษ จากนั้นป้ายเข้ากลางทันที เวนูติ สกัดทิ้งแต่ไม่ทันมอง มคิทาร์ยาน โฉบมาข้างหลังสะกิดบอลเข้าประตูไป อินเตอร์ นำอีกรอบ 4-3
จบเกม อินเตอร์ บุกเฉือนสุดมันส์ 4-3 ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ตามหลังจ่าฝูง 5 คะแนน ส่วนฟิออเรนติน่า รั้งอันดับ 11
อินเตอร์ มิลาน
Starting Formation: 3-5-2
32.
เฟเดริโก้ ดิมาร์โก้

67'
6
36.
มัตเตโอ ดาร์เมียน

67'
6.5
11.
ฮัวกิน คอร์เรอา

61'
6
10.
เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

85'
9
ตัวสำรอง
2.
เดนเซล ดุมฟรีส์

67'
6
8.
โรบิน โกเซนส์

67'
6
12.
ราโอล เบลลาโนว่า

85'
6
9.
เอดิน เชโก้

61'
6.5
แก้ไขล่าสุดโดย 69_420 เมื่อ Sun Oct 23, 2022 04:40, ทั้งหมด 38 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ