วิ่งประมาณ pace 6.20 - 6.30

สบายมากถ้าท่านร่างกายปกติ warm up,cool down เป็นประจำจะได้ไม่เจ็บครับ

เป็นช่วงระยะที่ผมคิดว่าเหมาะสมที่สุดในวัยทำงานละ ผมวิ่ง 5-6 โล pace 5.30-6.00 อาทิตย์ละ3ถึง4วันวิ่งจบเวลาจะอยู่ที่ประมาณครึ่งชั่วโมงไม่รวมวอมอัพ คูลดาวน์มันกำลังดีช่วงนี้อากาศดีวิ่งสบายๆเลยแต่ที่สวนยุงเยอะชิบ

สบาย ตอนฟิตๆ ผมวิ่งเช้า 5ก.ม. เย็น 5 ก.ม.
บางที เช้า 10 ก.ม. เย็น 5 ก.ม. วันอาทิตย์ - ศุกร์ พักแค่วันเสาร์อย่างเดียว

ผมว่า ถ้านอนพอ น่าจะได้ แต่พอวัยทำงาน บางทีมันนอนไม่ครบจริงๆ เลยคิดว่าต้องพักครับ
ถ้านอน 8-9 ชั่วโมง ผมว่าผมทำได้ แต่ถ้านอน 6-7 ชั่วโมง อาจจะเหลือ 5 วันต่อสัปดาห์

สบายๆครับ วันละ10ยังได้

เป็นระยะฝึกเบื้องต้นของคนฝึกเก็บฮาล์ฟมาราธอน ฟูลมาราธอร์นสบายๆเลยครับ

ขนาดผมเมื่อก่อนฝึกเก็บลงรายการ 10 km ผมวิ่งสัปดาห์ละ 20-25 km ติดต่อกันเกือบ 2 ปีก่อนยุคมีโควิด (วิ่งช้าสลับเร็ว 5 km 1 วัน interval 7 km 1 วัน, จ้อกชิลๆ 10-12 km วันนึง)

แต่ผมเพซ interval 5.30 เพซจ๊อก 6.30
ถ้าท่านร่างกายแข็งแรง 6.20 เป็นเพซจ๊อกได้ 5-6 วันสบายครับ

ปล.อย่างน้อยให้มีวันพักรางกาย 1-2 วันก็ยังดีครับ ไม่ควรวิ่งทุกวันแม้ว่าจะไหวก็ตาม

ไม่แนะนำให้วิ่งทุกวัน ควรวิ่งสัก 3-4 วันพักวันนึง

๕ โลวิ่งได้ทุกวันครับ สบายมาก ไม่ถือว่าเป็นการออกกกำลังกายอย่างหนักเลย

อยากวิ่งให้ได้บ้าง แต่กล้ามเนื้อขามีปัญหาอยู่ เพราะวิ่งๆได้โลนึง กล้ามเนื้อมันจะตึงๆ เหมือนไม่แข็งแรง พอวิ่งแล้วจะปวดตรงข้างๆเข่า ตอนแรกผมคิดว่าเป็นที่เข่าแต่มันไม่ใช่ มันมีช่วงที่วิ่งบ่อยๆอาการนี้จะหาย เพราะเหมือนกล้ามเนื้อมันเริ่มเข้าที่ แต่ปัญหาคือผมวิ่งไม่ต่อเนื่อง พอไม่วิ่งเว้นๆไป กลับมาวิ่งใหม่ก็อาการเดิม

วิ่งได้ทุกวัน แต่ไม่ควรวิ่งทุกวัน
ยังไงก็ต้องมีช่วงพักบ้าง สักอาทิตย์ละ3วัน ตกวิ่งวันเว้นวัน ไรงี้

ได้ครับ เมื่อก่อน เคยวิ่งลู่ เช้าเย็น รวมๆวันนึง10โล แต่ พอติดต่อกันทุกวันนานๆจะเริ่มบาดเจ็บ วิ่งๆไป บางทีเข่า สะดุด

วิ่งได้ทุกวัน แต่ควรจัดตารางวันพักและวันเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่าครับ

ผมวิ่ง เช้า 3 เย็น 3 ทุกวันครับ บางครั้งสาวๆ เยอะหน่อยก็ปาไป 4-5 โลก็มี 5555

อาทิตย์ก่อนวิ่ง 7 วันติดเลย พอเจออากาสหนาวๆไปสองวัน พอก่อน อากาศน่านอนมากกว่า