เปิดเส้นทาง ‘เบนเซม่า’ กว่าจะได้บัลลงดอร์ | #SSColumn
โดย : เบียร์ หลังหนาม
ไม่มีพลิกโผสำหรับ ‘คาริม เบนเซม่า’ กับรางวัล ‘บัลลงดอร์ ปี 2022’ ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้เมื่อมองภาพรวมจากสิ่งที่เกิดขึ้นในฤดูกาล 2021/2022
หากมองไปยังตัวรางวัลบัลลงดอร์ในช่วง 10 ปีให้หลัง ทุกคนก็ล้วนทราบกันดีว่า ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’ และ ‘ลิโอเนล เมสซี่’ คือ 2 นักเตะระดับโลกที่แทบจะทำสัมปทานผูกขาดกับตัวรางวัลไปแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความแพรวพราวเจิดจรัสจนยากที่จะหาคนมาเทียบรัศมี อีกส่วนหนึ่งคือรางวัลบัลลงดอร์ที่ว่า มันคู่ควรกับนักฟุตบอลที่ถูกจัดให้เป็นระดับสุดยอดจริง ๆ ซึ่งเบนเซม่าทำได้!
แต่กว่าที่เบนเซม่าจะมายืนอยู่ในจุดนี้ ตัวเขาเองก็ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองมานักต่อนัก ซึ่งเราจะย้อนกลับไปดูกันว่า เส้นทางที่เบนเซม่าเดินมา ตัวเขานั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง?
⚽️
จุด Start
ถึงแม้ว่าคาริม เบนเซม่าจะเกิดที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ทว่าตัวเขานั้นมีเชื้อสายแอลจีเรียจากครอบครัวที่อยู่ในสถานะผู้อพยพเข้ามาในประเทศ ทำให้ในวัยเด็กของเบนเซม่านั้นมักถูกเพื่อน ๆ กลั่นแกล้งและเหยียดหยามอยู่เป็นประจำเพราะความแตกต่างของหน้าตาที่ไม่เหมือนคนฝรั่งเศสจริง ๆ ผนวกกับรูปลักษณ์ที่อ้วนท้วมด้วยแล้ว ชีวิตของเบนเซม่าแทบไม่ได้เป็นปกติสุขเลย
กระทั่งเมื่อเข้าวัย 8 ขวบ ด้วยความที่คลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอล เบนเซม่าตัดสินใจหยิบสตั๊ดและเริ่มใช้ชีวิตกับลูกฟุตบอลอย่างจริงจัง เขาเข้าไปเล่นฟุตบอลอยู่ในอาเคเดมี่เล็ก ๆ ของบ้านเกิด ความสามารถทางด้านกีฬาที่เผยออกมา ทำให้เขาไม่โดนกลั่นแกล้งและเหยียดหยามอีกต่อไป และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของเขา
⚽️
กลายเป็นเด็กเก็บบอล
พอเบนเซม่ามีอายุ 10 ขวบ สโมสรดังในฝรั่งเศสอย่าง ‘โอลิมปิก ลียง’ ตัดสินใจคว้าตัวเขาเข้ามาเป็นเด็กฝึกของสโมสร เขาได้เรียนรู้โลกของฟุตบอลอย่างเต็มตัวที่นั่น เมื่อเริ่มเข้าทีมชุดเยาวชนของลียง เบนเซม่าได้มีโอกาสเป็นเด็กเก็บบอลข้างสนามให้กับทีมชุดใหญ่ การได้เห็นการแข่งขันอย่างมืออาชีพติดขอบสนาม มันทำให้ไฟในใจของเขาถูกเติมเชื้อเพลิงครั้งแล้วครั้งเล่า!
⚽️
เริ่มสร้างชื่อที่ลียง
หลังจากที่โชว์ทักษะที่ฝึกฝนมาข้ามวันข้ามปีกับทีมชุด U-16 ของสโมสร เบนเซม่ากลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่สโมสรถือโอกาสหยิบจับมาใช้งานตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเขามีอายุได้เพียงแค่ 17 ปี ลียงก็ผลักดันให้เบนเซม่าก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เขาเป็นหนุ่มน้อยมากความสามารถที่เล่นได้ทั้งตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าและปีก
ชื่อของคาริม เบนเซม่าเริ่มถูกพูดถึงมากขึ้น เมื่อช่วงฤดูกาล 2005/2006 หลังจากที่โอลิมปิก ลียงตัดสินใจส่งเขาลงไปสัมผัสเวทียูฟ่าแชมป์เปียนส์ลีกครั้งแรกของชีวิต และตัวเขาก็สามารถทำประตูได้ทันทีในนัดนั้น ทั้งสื่อและทีมใหญ่หลายทีมทั่วทั้งยุโรปเริ่มเหลียวตามามองมาที่เขาอยู่หน่อย ๆ
ในวัย 20 ปี คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมไปครอง หลังจากที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นในสนาม เขาได้รับสมญานามว่า ‘นิว ซีดาน’ จากนั้นเบนเซม่าสร้างชื่อให้กับตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเริ่มถูกพูดถึงเป็นวงกว้าง ในฤดูกาล 2007/2008 เข้าซัดไป 31 ประตูจากการลงเล่นเพียงแค่ 52 นัดในทุกรายการ
และตลอดที่ค้าแข้งอยู่กับโอลิมปิก ลียงนับตั้งแต่ปี 2005 ถึงปี 2009 เบนเซม่าลงเล่นไป 148 นัด ยิงไป 66 ประตู และจ่ายแอสซิสต์ให้เพื่อนอีก 27 ประตูตลอดทุกรายการ
⚽️
ความท้าทายครั้งใหม่ แต่ใต้เงา CR7
ชื่อเสียงของเบนเซม่าไม่สามารถทำให้ ‘เรอัล มาดริด’ เมินเฉยได้อีกต่อไป ในปี 2009 ทัพราชันชุดขาวตัดสินใจทุ่มเงิน 35 ล้านปอนด์ดึงตัวเบนเซม่ามาจากโอลิมปิกลียง เขาเข้ามาอยู่ในทีมที่ถูกเรียกว่า ‘กาลาคติกอส ชุดที่ 2’ หรือที่เข้าใจง่าย ๆ คือ ‘ทีมรวมดาว’ นี่คือความท้าทายและบททดสอบครั้งใหม่ของเบนเซม่าในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ
ถึงแม้ว่าเบนเซม่าจะเคยสร้างชื่อให้กับตัวเองโด่งดังจนแฟนบอลทั่วโลกสนใจ แต่ทว่าเมื่อมาอยู่เรอัล มาดริด เบนเซม่าดูไม่ต่างจากนักแสดงสมทบหลักเสียเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่เขาก้าวเข้ามาอยู่ในทีมได้ไม่นาน เรอัล มาดริดก็เริ่มคว้านักเตะระดับสตาร์เข้ามาในทีมมากขึ้นเรื่อย ๆ และกำแพงสูงใหญ่ที่สุดที่วางอยู่ตรงหน้าของเบนเซม่าชื่อว่า ‘คริสเตียโน่ โรนัลโด้’
ถึงอย่างไร สิ่งที่เบนเซม่าทำ ไม่ใช่การทำทุกวิถีทางเพื่อก้าวข้าม CR7 แต่สิ่งที่เขาทำ คือการก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เขาไม่สนใจถ้าผู้คนไม่เห็นทองที่เขาปิดตรงหลังพระ ทุกอย่างที่เบนเซม่าทำก็เพื่อความสำเร็จของทีม
⚽️
ผู้ต้องหา ‘Sex tape’ จนโดนสังคมประณาม
ในปี 2015 เบนเซม่าก้าวพลาดเข้าสู่จุดที่เรียกว่าหลุมดำของชีวิต เขาเข้าไปมีส่วนพัวพันกับคดี ‘คลิปเซ็กส์ฉาว’ ของ ‘มาติเยอ วัลบูเอนา’ อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติฝรั่งเศส เบนเซม่าถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานสมคบคิดกับเพื่อนอีกคนเพื่อแบล็คเมล์วัลบูเอนา ในตอนนั้นผู้พิพากษาตัดสินให้เบนเซม่ารับโทษจำคุก 1 ปี แต่ให้ลงอาญา และสั่งให้จ่ายค่าปรับ 75,000 ล้านยูโร
ข่าวใหญ่กระแสดัง ทำให้ผู้คนประณามเบนเซม่าจนเป็นเรื่องใหญ่โต เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ของเบนเซม่าเกือบจะดับลงในช่วงเวลานั้น
เบนเซม่าต้องแบกรับความผิดที่ว่าอยู่พักใหญ่ จากนักฟุตบอลชื่อดัง กลายมาเป็นผู้ต้องหาคดีใหญ่ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลแบบไม่ทิ้งช่วง ทำให้ชื่อของเบนเซม่าถูกทีมชาติตัดสิทธิ์ไม่ให้ไปเล่นในฟุตบอลโลกปี 2018
ทว่าสิ่งที่เขาทำกับเรื่องราวเหล่านี้คือการกระทำที่ไม่ต่างจากวิถีการเล่นฟุตบอลของเขา เบนเซม่าพยามพิสูจน์ตัวเองอย่างถึงที่สุด สุดท้ายเขาก็ได้หลักฐานที่ทำให้ตัวเองรอดพ้นจากมลทิน หลังจากนั้นเบนเซม่าก็กลับมาทุ่มเทชีวิตให้กับฟุตบอลอย่างเต็มตัวอีกครั้ง
⚽️
ชีวิตหลังไม่มีกำแพง
หลังจากที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้แยกทางกับเรอัล มาดริด ใครต่อใครต่างก็มองหาผู้เล่นใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ตำนานเบอร์ 7 ส่วนเบนซาม่าเป็นคนที่อยู่นอกเหนือสายตา เนื่องด้วยตัวเลขของอายุที่มีเลข 3 นำหน้า ไม่มีใครคิดว่าเบนเซม่าจะเป็นตัวความหวังของทีม
เบนเซม่าทำลายความเชื่อนั้นทิ้ง ด้วยการพยายามทำทุกอย่างเพื่อทีมอย่างที่ทำเสมอมา และการทำเพื่อตัวเองมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ผลงานที่ปรากฏอยู่สนามก็เป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีว่าคาริม เบนเซม่าเป็นนักฟุตบอลที่อยู่ในระดับสุดยอดมากแค่ไหน เขาไม่ได้เพียงแต่เป็นแค่ตัวความหวังเท่านั้น เพราะเวลาที่ทีมต้องประสบกับปัญหาหรืออยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เบนเซม่ายังถือว่าเป็นตัวแบกของทีมอีกด้วย
⚽️
ฤดูกาล 2021/2022 สู่รางวัล ‘บัลลงดอร์’
.
ในฤดูกาล 2021/2022 ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของคาริม เบนเซม่าเลยก็ว่าได้ เขาซัดประตูไป 44 ประตู และแอสซิสต์อีก 15 ประตู จากการลงเล่น 46 นัดรวมทุกรายการ คิดเป็นค่าเฉลี่ยการยิงประตูในทุก ๆ 66.42 นาที
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับเบนเซม่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว คือการที่เขาพาเรอัล มาดริดโกงความตายครั้งแล้วครั้งเล่าในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก เขาพาทัพราชันชุดขาวเอาชนะทีมเต็งแชมป์อย่าง ‘ปารีส แซงต์ แชร์กแมง’ มาได้ในรอบ 16 ทีม จากนั้นก็พาทีมชนะ ‘เชลซี’ ในรอบ 8 ทีมทั้ง ๆ ที่ตอนแรกทีมกำลังเสียเปรียบ จากนั้นก็ยิ่งแล้วใหญ่ในรอบรองชนะเลิศ เบนเซม่าช่วยทีมเอาชนะ ‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ มาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ในตอนนั้นโอกาสชนะของเรอัล มาดริดที่มีแค่ 1% เท่านั้น (จากการคำนวณของซุปเปอร์คอม) และท้ายที่สุดเขาก็พาทีมเอาชนะ ‘ลิเวอร์พูล’ ในนัดชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
คาริม เบนเซม่า จบฤดูกาลด้วยการเป็นดาวซัลโวของทีม , เป็นดาวซัลโวของลาลีก้า , เป็นดาวซัลโวของยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก , พาทีมคว้าแชมป์ลาลีก้า , พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีก ฯลฯ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลเลยที่รางวัลบัลลงดอร์ของปี 2022 จะหลุดมือผู้ชายคนนี้ไป
⚽️
เส้นชัย?
รางวัลบัลลงดอร์อาจเป็น 1 ในรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฐานะนักฟุตบอล แต่มันก็ยังไม่ใช่เส้นชัยสุดท้ายของชายที่คาริม เบนเซม่า
ปัจจุบันเบนเซม่ามีอายุ 34 ปี และดูเหมือนว่าเส้นทางของเขาในฐานะนักฟุตบอลอาชีพจะยังไม่จบลงง่าย ๆ เขายังคงทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัด ยังคงไล่ล่าความสำเร็จ ยังมีโอกาสที่จะได้จูบถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกในปลายปีนี้ และถ้าทำได้จริง ๆ เผลอ ๆ ไม่แน่...ฤดูกาลหน้าเราอาจจะได้เห็นเขารับรางวัลบัลลงดอร์ไปอีก 1 สมัย
_______________________
SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่
Facebook:
https://bit.ly/3DeU6BX
Instagram:
https://bit.ly/3xzln0z
YouTube:
https://bit.ly/3reBi3f
TikTok:
https://bit.ly/3Oq18JC
Blockdit:
https://bit.ly/3qU7B5G