ไม่พูดเยอะ! เบนซ์ ซัดนำร่อง "ราชัน" เด็ดขาดสอยบุญโยก 3-1 ทวงฝูง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ศึกเอล กลาสิโก้ เรอัล มาดริด ครองบอลและมีโอกาสยิงน้อยกว่า แต่พวกเขาอาศัยความเด็ดขาดเปิดบ้านเอาชนะ บาร์เซโลน่า 3-1 โดยได้ คาริม เบนเซม่า และ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ยิงขึ้นนำตั้งแต่ในครึ่งแรก ก่อนที่ท้ายครึ่งหลัง เฟร์ราน ตอร์เรส จะยิงตีไข่แตกให้ทีมเยือน แต่สุดท้ายเป็น โรดรีโก้ ที่เรียกจุดโทษแล้วซัดเองนาที 90+1 ทำให้ ราชันชุดขาว ยัดเยียดความปราชัยในลีกนัดแรกในฤดูกาลนี้ให้ทีมบุญโยก พร้อมกับทวงจ่าฝูงคืนได้สำเร็จด้วยความห่าง 3 แต้ม
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-3-3
2.
ดานี่ การ์บาฆาล

83'
6.5
10.
ลูก้า โมดริช

78'
6.5
9.
คาริม เบนเซม่า

88'
7
20.
วินิซิอุส จูเนียร์

85'
6.5
ตัวสำรอง
12.
เอตัวร์โด้ คามาวินก้า

78'
6
21.
โรดรีโก้

85'
7
11.
มาร์โก อเซนซิโอ้

88'
6
22.
อันโตนิโอ รูดิเกอร์

83'
6
ลาลีก้า
สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2565
กรรมการ โฆเซ่ ซานเชซ
เรอัล มาดริด
3
1
บาร์เซโลน่า
1-0 เบนเซม่า 12'
2-0 บัลเบร์เด้ 35'
3-1 โรดรีโก้ 90+1' (Pen.)
ราชันชุดขาวมีปัญหาที่นายด่านมือหนึ่งอย่าง คูร์กตัวส์ ยังไม่ฟิตทำให้เกมนี้ยังเป็น ลูนิน ที่ลงเฝ้าเสาต่อไป ในระบบ 4-3-3 แนวรุกไม่มีปัญหาทั้ง เบนเซม่า,วินิซิอุส,บัลเบร์เด้ ตรงกลาง โมดริช ฟิตกลับมายืนร่วมกับ ชูอาเมนี่,โครส แผงหลังซ้ายไปขวาเป็น เมนดี้,อลาบา,มิลิเตา,การ์บาฆาล
บุญโยกในระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน แนวรุกพวกเขายังมี เลวานดอฟสกี้ เป็นตัวความหวัง ราฟินญ่า,เดมเบเล่ คอยหนุนขนาบข้าง ตรงกลาง เดอ ยอง ฟิตกลับมายืนตัวจริงร่วมกับ บุสเกตส์,เปดรี้ แผงหลังได้ข่าวดีที่ คุนเด้ หายเจ็บกลับมายืนคู่เซนเตอร์กับ การ์เซีย โดยที่ บัลเด้,โรเบร์โต้ เป็นแบ็คซ้ายขวา ขณะที่ สเตเก้น เฝ้าเสาตามเดิม
• ทั้งคู่เป็นสองทีมที่ยังไม่แพ้ใครในลาลีก้าฤดูกาลนี้ ชนะ 7 เสมอ 1 มี 22 แต้มเท่ากัน
• บาร์เซโลน่า ชนะในลีก 7 นัดติด และเก็บคลีนชีตได้ 6 นัดติด
วินิซิอุสซัดแฉลบหลุดกรอบ
โอกาสลุ้นทักทายครั้งแรกในเกมนี้เป็นของฝั่งมาดริด จังหวะที่วินิซิอุสรับบอลจากเมนดี้ริมกรอบฝั่งซ้าย ก่อนจะล็อคเข้าซ้ายแล้วซัดเร็วแฉลบปลิ้นหลุดกรอบไป
ราชันเฮก่อน!เทพอุสยิงติด เบนซ์ซ้ำเน้นๆไม่เหลือ 1-0
แล้วแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮกระหึ่มเมื่อมาดริดมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่โครสแทงบอลจากตรงกลางสนามให้วินิซิอุสสปีดหลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้าย เขาจิ้มไปติดเซฟสเตเก้นแต่บอลยังเด้งมาเข้าทางปืนเบนเซม่าที่แปซ้ำด้วยซ้ายไปแฉลบโรเบร์โต้ปลิ้นตุงตาข่ายไปเลย 1-0 ทันที
เลวานชาร์จเสาสองข้ามคานเหลือเชื่อ
บาร์ซ่าพยายามบุกเอาประตูทวงคืนแล้วจังหวะนี้น่าได้สุดๆ เปดรี้ไหลบอลออกไปทางกรอบฝั่งขวาให้ราฟินญ่าจับแล้วบรรจงเปิดเรียดไปหน้าประตู เดอ ยองพยายามชาร์จแต่เข้าไม่ถึงเลวานดอฟสกี้ที่ทิ้งตัวชาร์จที่เสาสอง แต่บอลพุ่งข้ามคานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เด็ดขาด!บัลเบร์เด้กดหาย 2-0 ราชันหนี
แล้วทำไปทำมาราชันชุดขาวได้เฮอีกครั้งจากจังหวะที่แนวรับบาร์ซ่าพลาดแล้ววินิซิอุสได้บอลหลุดมาที่หน้ากรอบเขตโทษ เขาดึงจังหวะรอเพื่อนก่อนหลอกคลึงบอลให้ชูอาเมนี่แปะออกทางซ้ายให้เมนดี้ที่สุดท้ายหักกลับมาที่หน้าหัวกะโหลกให้บัลเบร์เด้จับหนึ่งทีแล้วบรรจงแปด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งเรียดผ่านมือสเตเก้นเสียบเสาฝั่งซ้ายไปแบบเด็ดขาด 2-0
เฟรงกี้ได้ยิงติดเซฟ
บาร์ซ่าพยายามจะเอาประตูตีไข่แตก จังหวะนี้เดอ ยองรับบอลจากราฟินญ่าแล้วได้่ช่องซัดจากทางกรอบฝั่งขวา แต่บอลก็ไปติดเซฟลูนิน
สุดท้ายจบครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นอย่างมาดริดที่ออกนำไปก่อนถึง 2-0 จากการยิงของ เบนเซม่า และ บัลเบร์เด้
โครสซัดเหินข้ามคาน
โอกาสแรกในตรึ่งหลังเป็นของมาดริด เบนเซม่าฉีกออกไปรับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วเลี้ยงจี้มาริมกรอบเขตโทษก่อนจะไหลให้โครสวิ่งมาแปด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งแรงข้ามคานไป
เบนซ์ซัดตุงเฮเก้อ
เบนเซม่าได้โอกาสซัดบอลตุงตาข่ายอย่างสวย แต่กลายเป็นเฮเก้อเพราะสุดท้าย VAR ให้สัญญาณว่าเขาล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
บุญโยกยังไม่มีโอกาสจะแจ้ง
เกมผ่านครึ่งทางครึ่งหลังมาแล้วบาร์ซ่ายังไม่มีวี่แววว่าจะได้ประตูตีตื้น แถมจังหวะนี้ยังเป็นมาดริดที่ได้ลุ้นจบ โดยเบนเซม่าตวัดวอลเลย์หน้ากรอบเขตโทษแต่บอลพุ่งแรงข้ามคานไป
เลวานปั่นฟรีคิกติดกำแพง
บาร์ซ่าได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางขวา เป็นเลวานดอฟสกี้ที่ยืนจ้องอยู่นานแต่สุดท้ายปั่นไปติดกำแพงเต็มๆ
ฟาติได้ปั่นยังติดเซฟลูนิน
บาร์ซ่าเกือบได้ประตูจากจังหวะที่ตัดบอลได้หน้าบ้านมาดริด แล้วเป็นฟาติที่ได้โอกาสวางเท้าปั่นด้วยขวาโค้งตรงกรอบแต่ยังไปติดเซฟลูนิน
เอาแล้ว!เฟร์รานชาร์จจ่อ 2-1 บุญโยกมีฮึด
แล้วในที่สุดบาร์ซ่าก็มาทำประตูตีไข่แตกไล่มาเป็๋น 2-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ฟาติได้บอลแล้วโชว์กระชากหนีบัลเบร์เด้หลุดเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายก่อนปาดเรียดไปตรงกลางให้เลวานดอฟสกี้พยายามแล้วโดนไม่เต็มแต่กลายเป็นดีเพราะบอลเลยไปถึงเฟร์รานที่โฉบมาชาร์จโล่งๆไม่เหลือ
ฟาติได้ซัดเกือบเจ๊า
บาร์ซ่าน่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จังหวะที่เฟรงกี้ตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วโรเบร์โต้โผล่มาโหม่งติดบล็อค ก่อนที่บอลจะมาเข้าทางฟาติที่กระโดดวอลเลย์ด้วยขวาแต่โดนไม่เต็มทำให้กลิ้งหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
โรดรีโก้เรียกโทษซัดเอง 3-1 ราชันตอกฝาโลง
แล้วมาดริดมาได้ประตูที่น่าจะตอกฝาโลง จากจังหวะที่โรดรีโก้ได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษก่อนจะโดนการ์เซียสกัดคว่ำ ผู้ตัดสินเช็ค VAR ก่อนชี้เป็นจุดโทษ
ในสนามไม่มีเบนเซม่าแล้ว ทำให้โรดรีโก้รับหน้าที่สังหารเอง เขาแปไปทางขวามือ สเตเก้นพุ่งไปถูกทางและปัดโดนด้วย แต่บอลยังแรงเข้าประตูไป 3-1
ราชันซิวบุญโยก 3-1 ทวงฝูง
สุดท้ายจบเกมเป็นมาดริดที่เปิดบ้านเอาชนะไป 3-1 ทำให้พวกเขายัดเยียดความปราชัยนัดแรกในลีกให้บาร์ซ่าได้ พร้อมกับแซงขึ้นไปนำจ่าฝูงห่าง 3 คะแนน
บาร์เซโลน่า
Starting Formation: 4-3-3
1.
มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้น
5.5
28.
อเล็กซ์ บัลเด้

60'
6
5.
เซร์กิโอ บุสเกตส์

60'
6.5
8.
เปดรี้

83'
6
9.
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
6.5
7.
อุสมาน เดมเบเล่

72'
6.5
22.
ราฟินญ่า

60'
6.5
ตัวสำรอง
10.
อันซู ฟาติ

72'
6
30.
กาบี้

60'
6
11.
เฟร์ราน ตอร์เรส

60'
7
18.
จอร์ดี้ อัลบา

60'
6
19.
ฟรองก์ เคสซี่

83'
6
แก้ไขล่าสุดโดย MEGITSAMA เมื่อ Sun Oct 16, 2022 23:24, ทั้งหมด 12 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ