โดย : เบียร์ หลังหนาม
หลังจากที่พุธที่แล้วเราพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 4 ทีมชาติในกลุ่ม A กันแล้ว พุธนี้จึงเป็นคิวของกลุ่ม B
ถึงแม้มองจากภาพรวมแล้ว กลุ่ม B อาจจะเป็นกลุ่มที่ดูไม่ค่อยหวือหวา แต่การมีทีมขวัญใจมหาชนอยู่ในกลุ่ม อาจจะเรียกร้องความสนใจให้กับแฟน ๆ อยู่มากพอสมควร และดีกรีความมันส์สะเด็ดของกลุ่ม B นั้นก็ถือว่าไม่น้อยหน้ากลุ่มอื่น ๆ เลย
กลุ่ม B ประกอบไปด้วย : อังกฤษ , อิหร่าน , สหรัฐอเมริกา , เวลส์
1.อังกฤษ
‘ทีมชาติอังกฤษ’ เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ในฐานะแชมป์ของกลุ่ม I ในการคัดเลือกโซนทวีป พวกเขาเป็น 1 ใน 13 ทีมตัวแทนจากทวีปยุโรป
.
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 5
.
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : แกเร็ธ เซาธ์เกต / สัญชาติอังกฤษ
สำหรับใครที่ติดตามฟุตบอลอังกฤษหรือชมพรีเมียร์ลีกอยู่บ่อย ๆ น้อยคนที่จะไม่รู้จัก ‘แกเร็ธ เซาธ์เกต’ กุนซือใหญ่ของทีมชาติอังกฤษ เพราะเขาคนนี้มักไปปรากฏตัวอยู่ข้างสนามรายการเล็ก-ใหญ่เป็นประจำ เพื่อส่องฟอร์มการเล่นของลูกทีม
‘แกเร็ธ เซาธ์เกต’ เริ่มต้นการเป็นผู้จัดการทีมกับสโมสร ‘มิดเดิลสโบรห์’ ก่อนจะเข้ามาคุมทัพสิงโตคำรามรุ่น U-21 ในปี 2013 และขึ้นแท่นมาเป็นเฮดโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา เขาสามารถพาอังกฤษไปจบที่อันดับ 4 ในฟุตบอลโลกปี 2018 และเป็นรองแชมป์รายการฟุตบอลยูโรปี 2020
แต่ในช่วงระยะหลังมานี้เซาธ์เกตก็มักถูกเหล่าแฟนบอลและสื่อวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง เพราะการตัดสินใจของเขาที่ค้านสายตาต่อคนส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดตัวผู้เล่น หรือการแก้เกมระหว่างการแข่งขัน และผลลัพธ์ในช่วงที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยน่าพึงพอใจเท่าไหร่สำหรับทีมชาติอังกฤษ เพราะในรายการ ‘ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก’ ทีมชาติอังกฤษของเซาธ์เกตตกรอบด้วยการรั้งท้ายในกลุ่ม ไม่สามารถเอาชนะใครได้เลยตลอดการแข่งขัน 6 นัด ทั้ง ๆ ที่ในทีมเองก็มีนักเตะระดับสตาร์อยู่มาก...น่าสนใจว่าในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ เซาธ์เกตจะแก้มือกับทีมของตัวเองอย่างไร?
ส่วนแบบแผนที่เซาธ์เกตถนัดนั้น มีตั้งแต่ 3-4-3 , 3-4-2-1 , 4-3-3 หรือแม้กระทั่ง 4-2-3-1 ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะสามารถยืดหยุ่นแผนของเขาได้มาก ขึ้นอยู่กับรายชื่อนักเตะที่มีอยู่ผนวกกับทีมตรงข้าม
.
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
ทีมชาติอังกฤษไม่เคยขาด ‘นักเตะระดับสตาร์’ เนื่องด้วยลีกสูงสุดอังกฤษอย่างพรีเมียร์ลีกถือว่าเป็นลีกที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก และนักเตะอังกฤษส่วนมากก็ค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิดของตัวเอง
ทีมชาติอังกฤษนำทัพโดย ‘แฮรี่ เคน’ ศูนย์หน้าดาวเด่นและกัปตันทีมชาติ ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ‘ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์’ ตามมาด้วยผู้เล่นตัวรุกอย่าง ‘ฟิล โฟเดน’ กับ ‘แจ๊ค กรีลิช’ จาก ‘แมนเชสเตอร์ ซิตี้’ ‘บากาโย ซากา’ จาก ‘อาร์เซน่อล’ , ‘ราฮีม สเตอร์ลิง’ และ ‘เมสัน เมาท์’ จาก ‘เชลซี’ นอกจากนี้ยังมีกองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงที่เป็นข่าวกับเหล่าทีมดังอย่าง ‘จู๊ด เบลลิงแฮม’ ที่อยู่ในสังกัด ‘โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์’
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง นักเตะในตำแหน่งต่าง ๆ ของทีมชาติอังกฤษที่ยังไม่ได้กล่าวถึง ก็ถือว่าเป็นระดับสตาร์และค้าแข้งอยู่ในทีมชั้นนำของลีกทั้งสิ้น
ดังนั้นถ้าพูดถึงความพร้อมของทีม ก็เรียกได้ว่าพร้อมสุด ๆ เพียงแต่ว่าเซาธ์เกตโค้ชของพวกเขา จะสามารถดึกศักยภาพของแต่ละคนออกมาใช้งานได้มากน้อยแค่ไหน และทำอย่างไรให้ทุกคนเล่นกันเป็นทีมกว่าที่ควรจะเป็น
.
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
ผลงานที่ผ่านมาของทีมชาติอังกฤษนั้น อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น ซึ่งภายในช่วงเวลาก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น เซาธ์เกตต้องทำการบ้านอย่างหนักกับทีมตัวเอง
ถึงอย่างไร เมื่อมองเทียบชั้นกับอีก 3 ชาติร่วมกลุ่ม มองว่าอังกฤษยังกุมความได้เปรียบไว้อยู่ หากพวกเขาเค้นฟอร์มดีกลับมาได้ ตำแหน่งอันดับ 1 ของกลุ่มก็คงได้มาไม่ยาก
2.อิหร่าน
เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 โดยการจบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม A ในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 โซนเอเชีย ถือว่าเป็น 1 ใน 6 ทีมตัวแทนจากทวีปเอเชีย
.
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 20
.
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : คาร์ลอส เคยรอซ / สัญชาติ โปรตุเกสโมซัมบิก (*แอฟริกาตะวันออกของโปรตุเกส ปัจจุบันประกอบขึ้นเป็นสาธารณรัฐโมซัมบิก)
‘คาร์รอส เคยรอซ’ พึ่งกลับมาคุมทีมชาติอิหร่านอีกคำรบหนึ่ง จากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยเป็นกุนซือใหญ่ของอิหร่านเมื่อช่วงปี 2011-2019 เคยพาอิหร่านไปเล่นฟุตบอลโลกมาถึง 2 ครั้ง คือปี 2014 และปี 2018 แต่ครั้งนี้เขาได้เข้ามารับช่วงต่อจาก ‘ดราแกน สโคซิซ’ ที่เป็นคนคว้าตั๋วฟุตบอลโลกปี 2022 มาได้ ดังนั้นทั้งเรื่องของวิธีการเล่นและรูปแบบแผนของอิหร่านในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย คงต่างออกไปจากรอบคัดเลือกอยู่ระดับหนึ่ง
ที่ผ่านมาในฟุตบอลโลก คาร์ลอส เคยรอสไม่สามารถพาอิหร่านผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้สักครั้ง และนี่ก็เป็นโอกาสอีกครั้งให้เข้าได้แก้มือ
รูปแบบแผนการเล่นที่เคยรอสถนัดเป็นรูปแบบ 4-3-3 แต่บางครั้งเขาก็เลือกใช้เป็น 4-1-4-1 ตามสถานการณ์
.
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะทีมชาติอิหร่านชุดนี้ออกไปค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปหลายคน ส่วนช่วงอายุก็ถือว่าอยู่ในช่วงที่กำลังเปล่งปลั่ง ไม่ได้สูงจนน่ากังวล ไม่ได้อ่อนถึงขั้นน้อยประสบการณ์
ดาวเด่นของทีมชาติอิหร่านคือ ‘ซาร์ดาร์ อัซมูน’ ดาวยิงอายุ 27 ปีจากทีม ‘ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น’ ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อฉีกขาด (คาดว่าน่าจะเป็นตอนซ้อม) คงต้องรอดูว่าจะหายทันฟุตบอลโลกหรือไม่? แต่ถ้าขาดผู้เล่นคนนี้ไป เท่ากับว่าอิหร่านขาดอาวุธที่อันตรายที่สุดไปเลย
ส่วนคนอื่น ๆ ที่น่าจับตามองคือ ‘เมห์ดี้ ทาเรมี่’ จาก ‘เอฟซี ปอร์โต้’ , ‘อลิเรซา จาฮานาบัคซ์’ กองกลางจาก ‘เฟเยนูร์ด’ , ‘ซามาน ก็อดดอส’ กองกลางมากประสบการณ์จาก ‘เบรนท์ฟอร์ด’ และกัปตันทีมชาติอย่าง ‘เอซาน ฮาจซาฟี’ กองหลังตัวเก๋าของ ‘เออีเค เอเธนส์’
สำหรับความพร้อมของทีม ภาพรวมถือว่าไม่แย่ อย่างที่บอกไปว่าต้องรอดูอาการของตัวผลิตประตูอย่างอัซมูน ส่วนที่เหลือดูไม่มีปัญหาอะไร และถึงแม้ผู้เล่นส่วนหนึ่งจะค้าแข้งอยู่ในยุโรป แต่อีกส่วนหนึ่งก็ค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิด ดังนั้นสิ่งที่โค้ชต้องทำให้ได้คือ การปรับจูนสไตล์การเล่นของนักเตะให้ไปในทิศทางเดียวกัน
.
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
ถึงแม้อิหร่านอยากจะก้าวข้ามกำแพงของตัวเองให้ได้ แต่เมื่อมองเพื่อนร่วมกลุ่มแล้ว อิหร่านถือว่ายังเป็นรองอยู่เยอะมาก คงต้องใส่ทั้งหมดที่มีสำหรับการคว้าตั๋วไปยังรอบต่อไป หวังว่าคาร์รอส เคยรอสจะสามารถใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวเองให้เป็นประโยชน์
3.สหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกา ผ่านเข้ามาเล่นในฟุตบอลโลกครั้งที่ 22 ได้ หลังจากที่คว้าอันดับ 3 ของกลุ่มในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ในโซนคอนคาเดฟ (อเมริกากลางและอเมริกาเหนือ) พวกเขากลับมาอีกครั้งหลังจากที่ชวดไปเล่นฟุตบอลโลกหนล่าสุดที่รัสเซีย
.
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 16
.
⚽️ โค้ช ปัจจุบัน : เกร็ก เบอร์ฮัลเตอร์ / สัญชาติอเมริกา
‘เกร็ก เบอร์ฮัลเตอร์’ เข้ามารับตำแหน่งกุนซือของอเมริกาตั้งแต่ปี 2018 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวคุมสโมสร ‘โคลัมบัส ครูว์’ ในลีกบ้านเกิด ซึ่งผลงานที่สำคัญของเจ้าตัวคือพาทีมชาติสหรัฐอเมริกาคว้าแชมป์คอนคาเดฟ เนชั่นส์ลีก 2019/2020 และแชมป์คอนคาเดฟ โกลด์คัพ 2021
ในเรื่องของแบบแผนการทำทีมของเบอร์ฮัลเตอร์นั้นจะถนัดไปทาง 4-3-3 เป็นส่วนใหญ่
.
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกาในชุดนี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมีผู้เล่นหลายคนค้าแข้งอยู่ในลีกยุโรปและมีชื่อเสียงที่คุ้นหูแฟนบอลอยู่ไม่น้อย
ดาวเด่นดาวดังของสหรัฐอเมริกาที่ต้องพูดถึงเป็นคนแรกคือ ‘คริสเตียน พูลิซิซ’ กองกลางตัวรุกและปีกที่ได้ขนานนามว่า “กัปตันอเมริกา” (เพราะเป็นกัปตันทีมชาติด้วย) จากทีม ‘เชลซี’ เขาเป็นนักเตะสัญชาติอเมริกันที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าฟอร์มการเล่นกับทางต้นสังกัดจะไม่ได้ฉายแววมากนัก แต่ก็เป็นตัวสำคัญของทีมชาติเลยทีเดียว
สตาร์ดังคนอื่น ๆ ที่รองลงมาคือ ‘แมตต์ เทอร์เนอร์’ จาก ‘อาร์เซน่อล’ , ‘จิโอวานนี เรย์นา‘ ปีกตัวจี๊ดจาก ‘โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์’ , ‘แอนโทนี่ โรบินสัน’ จาก ‘ฟูแล่ม’ , ‘ทิโมธี เวอาห์’ จาก ‘ลีลล์’ หรืออย่าง ‘เวสตัน แม็คเคนนี่’ จาก ‘ยูเวนตุส’ และ ‘แซร์จินโย เดสต์’ จาก ‘บาร์เซโลน่า’ ที่กำลังถูก ‘เอซี มิลา’ ยืมตัว
.
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
ผลงานของสหรัฐอเมริกาในการแข่งขันนัดกระชับมิตรที่ผ่านมาดูไม่ค่อยเข้าตาเสียเท่าไหร่ สาเหตุอาจเป็นเพราะยังไม่ใช่ชุดจัดเต็ม แต่เมื่อมองจากรายชื่อนักเตะแล้ว ถือว่าสหรัฐอเมริกาเป็นอีกทีมที่มีโอกาสเข้ารอบอยู่ พวกเขาอาจจะต้องแย่งพื้นที่อันดับ 2 กับทีมชาติเวลส์อย่างเมามันส์
4.เวลส์
เวลส์ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกครั้งนี้มาได้โดยการจบเป็นที่ 2 ของ E ในโซนคัดเลือก จากนั้นก็สามารถเฉือนเอาชนะทีมชาติยูเครนมา 1-0 ประตู ได้ตั๋วใบสุดท้ายในฐานะ 1 ใน 13 ทีมจากทวีปยุโรปมาครอง นี่เป็นการกลับมาฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้งหลังจากที่หายไปนาน เพราะครั้งล่าสุดที่เวลส์เข้ามาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ ต้องย้อนไปปี 1958 โน่นเลย!
.
⚽️ อันดับ Ranking ใน FIFA : อันดับที่ 19
.
⚽️โค้ช ปัจจุบัน : ร็อบ เพจ / สัญชาติเวลส์
ในปี 2020 ‘ร็อบ เพจ’ เปลี่ยนบทบาทจากผู้ช่วยโค้มทีมชาติขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่แทน ‘ไรอัน กิ๊กซ์’ ที่มีปัญหาต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจากคดีทำร้ายแฟนสาวในตอนนั้น และกลายเป็นว่าผลงานของเพจที่ทำไว้กับทีมชาติก็ออกมาดีอย่างไม่น่าเหลือเชื่อ เขาพาทีมคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลกได้สำเร็จในรอบหลายปี นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เพจได้นั่งเก้าอี้กุนซือต่อยาว ๆ
แบบแผนการทำทีมที่ร็อบ เพจถนัด จะเป็นการเล่นในรูปแบบ 3-4-2-1 บ้างก็จะใช้ 5-3-2
.
⚽️ สภาพความพร้อมของทีมและนักเตะดาวเด่น
นักเตะทีมชาติเวลส์กระจัดกระจายไปค้าแข้งตามทีมตาม ๆ ในลีกยุโรป ซึ่งส่วนมากก็จะอยู่กับทีมเล็ก ๆ ในสโมสรของเกาะอังกฤษ ถึงอย่างไร ชื่อชั้นชองนักเตะเวลส์ส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่เรียกว่าสตาร์
ดาวเด่นสูงสุดของเวลส์ ณ เวลานี้คงเป็นใครไปอีกไม่ได้นอกจาก ‘แกเรธ เบล’ กัปตันทีมชาติในวัย 33 ปีที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ‘แอลเอ เอฟซี’ ในลีกสหรัฐอเมริกา ถึงแม้เบลจะมีอายุที่ค่อนข้างมากแล้ว แต่ก็ยังถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทีมชาติเวลส์ขาดไปไม่ได้ อีกคนที่รองลงมาคือ ‘อารอน แรมซี่ย์’ ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ ‘นีช’ ในลีกเอิงของฝรั่งเศส ที่ซึ่งตอนนี้จะไม่ได้โดดเด่นมากแต่ก็ยังถือเป็นขุมกำลังหลักในทีมชาติอยู่ดี
ส่วนคนอื่น ๆ ที่น่าจับตามองคือ ‘เนโก วิลเลียมส์’ อดีตนักเตะ ‘ลิเวอร์พูล’ ที่ปัจจุบันอยู่กับ ‘น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์’ , ‘แดเนียล เจมส์’ นักเตะของ ‘ฟูแล่ม’ ที่ยืมมาจาก ‘ลีดส์ ยูไนเต็ด’ และ ‘คีฟเฟอร์ มัวร์’ กองหน้าจากทีม ‘บอร์นสมัธ’
.
⚽️ คาดการณ์ผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม
‘แกเรธ เบล’ และ ‘อารอน แรมซี่ย์’ ไม่ได้มีพิษสงอย่างที่เคยเป็น ด้วยอายุที่เดินทางไปตามเวลา ส่วนนักเตะคนอื่น ๆ ก็ยังไม่เข้าขั้นที่จะสามารถแบกทีมได้ แต่เมื่อมองจากประสบการณ์ของแต่ละคนที่โลดแล่นอยู่ในลีกยุโรปและเทียบกับนักเตะจากชาติอื่นในกลุ่มเดียวกัน คาดว่าทีมชาติเวลส์เองก็มีสิทธิได้ลุ้นเข้ารอบอยู่
--------------------
สรุปภาพรวมกลุ่ม B
หากไม่มีอะไรผิดพลาด ทีมชาติอังกฤษคงสามารถคว้าอันดับ 1 ของกลุ่มไปได้ แต่เมื่อมองไปยังอันดับ 2 แล้ว ยอมรับว่าน่าปวดหัวอยู่ไม่น้อย เพราะระหว่างทีมชาติสหรัฐอเมริกากับทีมชาติเวลส์ดูพอจะมีดีกรีกันทั้งคู่ แต่เมื่อมองจากภาพรวมในเรื่องของความพร้อมของทีมและรายชื่อนักเตะ ใจเอนเอียงไปทางสหรัฐอเมริกามากกว่า ทีมลุงแซมคงเป็นตัวแทนทีมที่ 2 ของกลุ่มนี้
ส่วนอิหร่านนั้นเปรียบเสมือนตัวม้ามืดของกลุ่ม ถ้าพวกเขาสามารถตัดแต้มชาวบ้านชาวช่องไปได้ ทำเป็นเล่นไป...อาจเข้ารอบ
_______________________
SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่
Facebook:
https://bit.ly/3DeU6BX
Instagram:
https://bit.ly/3xzln0z
YouTube:
https://bit.ly/3reBi3f
TikTok:
https://bit.ly/3Oq18JC
Blockdit:
https://bit.ly/3qU7B5G