มันมี กฏหมายเรื่องการตรวจโครโมโซมของตัวอ่อน(หลังผสมแล้วยังไม่ได้ใส่ในมดลูก)จะทำได้เฉพาะเคสที่มีเงื่อนไขในความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่มาจากพันธุกรรม กับฝ่ายหญิงที่มีประวัติตั้งครรภ์แล้วแท้ง ซึ่งเวลาตรวจมันก็จะทราบเพศทันทีทางการแพทย์มักจะเรียกว่าผลพลอยได้ พ่อแม่ก็จะเลือกใส่ตัวอ่อนเพศที่อยากได้ ถามว่าผิดมั้ยก็พูดยากเพราะคนเสียเงินแล้วก็อยากเลี้ยงลูกตามที่ตั้งใจแหละ อย่างของผมที่ไปทำ icsi ตอนแรกได้ไข่สิบกว่าฟอง พอผสมได้ตัวอ่อนเหลือ 8ตัว พอตรวจโครโมโซมเหลือตัวที่ใส่ได้แค่ 2ตัว เพศชาย 1 หญิง 1 แต่ตัวเพศชายเกรดตัวอ่อนดีกว่าโอกาสติดมากกว่าก็ใส่ผู้ชายก่อน ตัวเพศหญิงก็ฟรีซไว้รอคนถัดไป อย่างกรณีถ้าไม่ตรวจโครโมโซมก่อนแล้วสุ่มตัวอ่อนใส่ไป อาจจะเป็นเด็กดาวน์ก็ได้ เพราะคนรู้จักใส่ตัวอ่อนโดยไม่ตรวจโครโมโซมก่อนท้องแต่เด็กไม่เจริญเติบโตก็ต้องเอาออก

ถ้าตอบในที่สาธารณะคือเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรง แต่หลังไมค์คือเลือกได้ถึงเพศเลย

ผมก็สงสัยตอนแรกว่าถ้าเราเลือกเพศได้มันจะทำให้อะไรในโลกมันผิดเพี้ยนไปรึป่าวตามธรรมชาติ เลยลองเสิร์ชดูก็เลยเห็นมันมีกฎหมาย แต่เรื่องแฝดเนี๊ยะผมก็หาไม่เจอว่าผิดป่าว

เหมือนมันมีมุมให้ดิ้นทางกฎหมายโดยการให้ความเห็นทางการแพทย์รึป่าวครับ ทำให้มันมีช่องตรงนี้เลยเกิดการเลือกเพศกันได้

เกี่ยวอะไรเหรอครับ
การมีลูกแฝดกับเงินซื้อได้ทุกอย่าง

ก่อนอื่นเลย ต้องเข้าใจก่อนว่าคนที่ไปคลินิกสำฟรับผู้มีบุตรยาก มีปัญหาการมีบุตรแตกต่างกันไป และระดับการรักษาจะแตกต่างกัน ขึ้นกับสภาวะคนไข้ ส่วนใหญ่ผู้ที่มาจะมีอายุเกิน30ปี

สำหรับคนไม่เคยท้อง คุณหมอจะให้ลองทำ IUI ก่อน (IUI คือ การนำเชื้ออสุจิไปฉีดใกล้ไข่ที่สุกแล้วมากที่สุด แน่นอนว่าเลือกเพศไม่ได้ โอกาสติดน้อยกว่า10%)

สำหรับคนที่เคยท้องแต่แท้งมาหลายครั้ง หรือทำ IUIหลายครั้งแล้วไม่ติด ถ้าอยากเดินหน้าต่อ จะต้องเป็นการทำเด็กหลอดแก้ว IVF หรือ ICSI
วิธีการคือจะกระตุ้นไข่ให้สุก เก็บไข่ออกมาผสมกับอสุจิตัวที่เลือกมาแล้วว่ารูปร่างสมบูรณ์ จากนั้นรอระยะฟักตัว 5-6วัน เพื่อดูว่าจะสามารถเติบโตเป็นตัวอ่อนระยะบาสโตซิสต์ได้กี่ตัวอ่อน ตรงนี้บางคนเก็บไข่ได้10ใบ ผสมออกมาก็มีโอกาสได้บลาสตัวเดียวหรือไม่ได้เลยก็มี หลังจากได้ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ซึ่งคลินิกจะมีกล้องส่องดูจากวิวัฒนาการการแบ่งเซลส์แต่ละวันของไข่ที่ได้รับการผสมตั้งแต่วันที่1-6 ทำให้สามารถแบ่งตัวอ่อนเป็นเกรดได้
ขั้นตอนต่อไปคือ การตรวจนี้จะทำให้ทราบล่วงหน้าว่าตัวอ่อนที่ได้มานั้นมีความผิดปกติในการเติบโตต่อไปหรือไม่ เช่น อวัยวะจะครบไหม มีโอกาสเป็นดาวน์ซินโดรมไหม โดยดูโครโมโซมคู่ไหนหายไปหรือขาด ถ้ามีคู่ไหนขาดไปแม้แต่คู่เดียว ตัวอ่อนนั้นจะไม่ถูกใส่ให้คนไข้เด็ดขาดเพราะเสี่ยงแท้งหรือเด็กเกิดมาไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นปัญหาภายหลัง
หลังตรวจตรงนี้จากบลาสโตซิสต์ที่เหลือน้อยอยู่แล้ว โอกาสที่จะได้ตัวอ่อนที่สมบูรณ์น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง
ข้อดีการตรวจโครโมโซมนี้นอกจากจะทำให้ได้ตัวอ่อนที่โอกาสผิดปกติน้อยลงแล้วยังมีผลพลอยได้คือรู้เพศด้วยว่าตัวอ่อนนั้นๆมีโครโมโซม XX หรือ XY
หลังจากตรวจแล้วมีตังอ่อนที่ผ่านกี่ตัว เพศอะไรบ้าง ก็แล้วแต่ดวงจริงๆนะครับ บางคนได้มา3 แต่เป็นชายล้วน บางคนหญิงล้วน บางคนได้มา1เดียวก็มี เอาจริงๆคุณไม่มีสิทธิ์เลือกใดๆยกเว้นคุณได้ตัวอ่อนสมบูรณ์ทั้งชายและหญิง แต่....การคัดสรรจากธรรมชาติยังไม่หมดเท่านี้

คนไข้ต้องเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมสำหรับใส่ตัวอ่อนต่ออีก ซึ่งหลังใส่ตัวอ่อนคนไข้ต้องพยายามอยู่นิ่งๆ ลดการขึ้นลงบันไดไปอีกหลายวัน ห้ามเครียด ซึ่งหลายๆเคสใส่ตัวอ่อนเข้าไปไม่ติด เนื่องจากผนังมดลูกไม่พร้อม คุณแม่เครียด ฯลฯ ดังนั้น ผมอยากจะบอกว่ากว่าจะได้มีโอกาสเลือกเพศก็โคตรยากแล้ว และถึงคุณจะได้มีโอกาสเลือกเพศในการใส่ตัวอ่อน ก็ไม่ได้รับประกัน100%ว่าจะติดอีก
ปกติการทำเด็กหลอดแก้วถ้าตัวอ่อนที่สมบูรณ์มีมากกว่า2ตัว คุณหมอจะถามว่าจะใส่1หรือ2 ซึ่งทั่วๆไปใส่2 เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ เพราะส่วนมากมักจะติดแค่1 ดังนั้นแล้วผมอยากจะบอกว่า เงินไม่สามารถกำหนดเพศลูกได้100% มันแค่เพิ่มโอกาสให้แค่นั้น คิดดูว่า ไข่10ใบ อาจจะได้ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์4ตัว ซึ่งไม่รู้เพศและความสมบูรณ์ ส่งตรวจโครโมโซมผ่านแค่ 2-3 ตัว ถึงจะรู้เพศ อาจจะมีชาย1หญิง2 หลังจากนั้นใส่กลับเข้าไปในตัวของแม่ ถ้าอยากได้ลูกชายก็ต้องมาลุ้นอีกว่าใส่ไปชาย1หญิง1 จะติดแฝดหรือไม่ ถ้าไม่ติดแฝด ก็วัดดวงว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

พวกที่บอกว่าเลือกเพศได้ จริงครับ เลือกได้ แต่จะสำเร็จไหม สุดท้ายก็ต้องวัดดวงเอานะครับ

ผมไม่ได้หมายความว่าเอาเงินซื้อแฝดครับ (แฝดนั้นคือเรื่องบังเอิญ ซึ่งปกติก้อไม่ได้ใส่กันตัวอ่อนตัวนึงต่อครั้งอยู่แล้ว) ผมจะหมายถึงว่า เมืองไทย เรื่องไหนยากก้อแค่ใช้เงิน ผมเว้นวรรคคำผิดเอง ขอโทษครับ