ในบ้านเอาไว้หุง อุ่น ต้มพอครับ อยากทอดหรืออื่นๆใดๆทำครัวแยกไว้นอกบ้านดีกว่านะ บ้านจะได้ไม่เหม็น

ครัวนอกบ้านแต่เก็บของในบ้าน

มันขึ้นอยู่กับใช้มากน้อยแค่ไหนครับ ต้มมาม่า ทอดไข่ดาว ครัวในบ้านสะดวก ไม่ต้องเดินไกล

ทำครัวจริงจัง ผัดกระเพรา ทอดปลา ครัวนอกเท่านั้น ถ้าไม่อยากให้บ้านเหม็น

ครัวใน
ข้อดี สะดวก สวย
ข้อเสีย กลิ่นติดตั้งแต่ชั้นล่างยันชั้นบน ต้องลงทุนสูง เพราะต้องมีเครื่องดูดควันและต้องสวย

ครัวนอก
ข้อดี ทำอาหารไทยได้ทุกอย่าง ต้มผัดแกงทอด ลงทุนน้อย ไม่ต้องมีเครื่องดูดควันก็ได้ถ้าไม่ไปรบกวนเพื่อนบ้าน
ข้อเสีย ไม่สวย สกปรกหมักหมมเพราะปกติเราจะใช้วัสดุทน และไม่ต้องโชว์ใครเลยดูแลน้อยกว่า

มีตังทำห้องแยกอยู่ข้างนอกไปเลย

ทำไมของผมครัวในบ้าน ทำครัวไทยก็บ่อย ทำไมไม่เคยเจอมีปัญญาพื้นมัน คราบน้ำมันกระเด็น หรือ กลิ่นเลยแฮะ
สัตว์อะไรก็ไม่มี
-
อาจเพราะ แยกขยะด้วย เศษอาหารไม่เทลงท่อ ทิ้งต่างหาก ฉีดน้ำยาพวกกันแมลงสาบหรือปลวกทุกปี หนูก็ไม่มี พื้นก็ถูทุกวัน พื้นเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนด้วยมั้งนะ ดูดควันก็ซื้อตัวแรงๆหน่อย แรงดูด 1500 cu.m/HR เวลาภรรยาทำกับข้าว นั่งอยู่ห้องนั่งเล่นก็ไม่ได้กลิ่นนะ

ปล.ตอนแรกจะทำครัวนอก แต่ทำเป็นที่ซักผ้าไปแล้ว ข้างบ้านก็ปลูกต้นไม้ไปแล้วทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งติดบ้านคนอื่นปลูกผักสวนครัว อีกฝั่งติดถนนปลูกต้นบังสายตา

ครัวในบ้านได้สวย แต่ถ้าทำอาหารกลิ่นแรงๆหรือควันเยอะๆพวกผัดสไตล์ไทย/จีนคือนรกมากครับ

ซึ่งควันระดับนั้น Hood ดูดควันสวยๆแบบฝรั่งเอาไม่อยู่นะครับ ต้อง Hood อุตสาหกรรมหรือไม่ก็พัดลมดูดอากาศดั้งเดิมเลย ก็กระทบกับความสวยของบ้านโดยรวมอีก

ถ้าทำอาหารจริงจัง ต้องเชียร์ครัวนอกบ้านครับ ตกแต่งออกแบบดีๆก็สวยได้เหมือนกันโดยกลิ่นไม่กระทบในบ้าน ลำบากหน่อยก็คือการทำความสะอาดพวกฝุ่นที่จะจับง่ายกว่าในบ้าน
ครัวในบ้านก็มีไวเทำอะไรเล็กๆน้อยๆเช่นอุ่นอาหาร ทำอาหารเบาๆแยกงานกันไป

แนะนำน้ายากันแมลงสาบกับปลวกหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ

ถ้าเป็นครัวในแบบปิดเลย ไม่มีช่องเปิด แล้วเราไม่เปิดครัวทิ้งไว้ ก็จะป้องกันสัตว์ได้ครับ

อันที่จริงปัญหาที่ผมว่ามามันแก้ไขได้หมดครับ อยู่ที่ว่าเราสะดวกแบบไหน และที่สำคัญแปลนบ้านวางมาแบบไหน

- ถ้าทำครัวนอก ก็ขยันดักสัตว์พวกนี้บ่อยๆ เก็บวัตถุดิบ/เครื่องปรุง/เครื่องครัว/จานชาม ไว้ในบ้านเท่านั้น เหลือไว้แค่พวกเตา แล้วขยันจัดการเศษอาหารบ่อยๆ

- ถ้าทำครัวใน ก็ปิดให้มิดชิด โดยเฉพาะประตูครัวที่เชื่อมกับบ้าน จะช่วยเรื่องกลิ่นได้มากๆ แล้วหาที่ดูดควันดีๆ มาใช้ แค่ต้องขยันทำความสะอาดพื้น-ผนังครัวนิดนึง สภาพจะได้ไม่ดูแย่จนเกินไป 55

ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือการจัดการขยะครับ ถ้าแยกขยะ และจัดการขยะอาหารสดได้ดี บ้านคุณจะปลอดภัยจากกลิ่นและสรรพสัตว์ครับ

ผมจ้างบริษัทมาดูแลครับ โทรหาได้ตลอด เป็น บ.กำจัดปลวกกับแมลง เสียปีละ 6000 บาท บ.จะมาเช็คน้ำยาในท่อ+พ่นยารอบบ้านให้ทุก3เดือน
ครับ

ครัวนอกครับ ครัวในบ้านลื้อทิ้งวางห้องเก็บของไปนานละ ครับในบ้านมันครัวอุ่นมากกว่าสำหรับอาหารไทย ส่วนใหญ่ครัวในบ้านทำตามแบบฝรั่งกันมากกว่า อีกอย่างผมชอบทำอาหารที่ปรุงผ่านเตาถ่านมากกว่า หอมกว่า

ครัวนอกบ้าน
เหมาะสำหรับ ปิ้งย่าง อาหารใช้ไฟแรงๆ ทำอาหารชุดใหญ่เวลามีงานสังสรรค์คนมาเยอะๆ
ต้องรักษาความสะอาดมากกว่า ครัวในบ้าน ไม่งั้นจะดึงดูด มด หนู แมลงสาป มากันเพียบ
และอาจเป็นการรบกวนเพื่อนบ้าน ถ้านานๆทำที คงไม่เป็นไร

ครัวในบ้าน
เหมาะสำหรับ ทำอาหารเบาๆ สบายๆ ง่ายๆ ต้องการรวดเร็ว สามารถทำอาหารในเวลาค่ำคืน
หรือ ตอนฝนตกได้ ไม่มีปัญหาเรื่องยุงแมลงรบกวน ระหว่างทำอาหาร
ที่สำคัญ ควรมีเครื่องดูดควัน ไม่งั้นจะมีกลิ่นรบกวน

แนะนำว่า ควรมีทั้ง 2 แบบ
เพื่อสะดวกใช้ตามแต่ละสถานการณ์

แต่ถ้าจำเป็นต้องเลือกแค่อย่างเดียว
ครัวในบ้าน ตอบโจทย์หมด ใช้งานบ่อยกว่า

ถ้าทำอาหารไทยกินบ่อยๆ ก็นอกบ้านครับ

บางโครงการต้องให้สถาปนิกของโครงกานเขียนแบบให้
บางโครงการต้องเป็นช่างที่โครงการดีลไว้เ /กินหัวคิว

ลองถามดูครับ ผมว่าตัดสินใจ แล้วทำก่อนย้ายเข้าให้จบ ๆ ก็สะดวก
ดีกว่ามาต่อเติมภายหลังครับ

ในบ้านผมใช้แต่พวกเตาไฟฟ้า นอกบ้านใช้เตาแก๊ส เหตุผลคือกลัวไฟไหม้เวลาลืมปิดแก๊สปิดเตา

เตาไฟฟ้า แบบนิสัยบ้านผมคือต้องดึงปลั๊กออกตลอด
แต่แก๊สเนี่ยพลาดที บึ้ม ไม่ไหว 555