หลังรั่วจัด! ซาก้า ซัดโทษ”ปืน”เบียดหงส์ 3-2 คืนฝูง
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ลิเวอร์พูล ยังแนวรับเหวอะอย่างต่อเนื่องโดยตกเป็นฝ่ายตามหลัง อาร์เซนอล 2 ครั้ง 2 คราและสุดท้ายไม่รอดสันดอนเสียจุดโทษก่อนหมดเวลา 14 นาทีก่อน ซาก้า ยิงนำชัยให้ “ปืนใหญ่” เบียดเฮหวุดหวิด 3-2 กลับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงส่วน “หงส์แดง” 8 นัดเพิ่งชนะแค่ 2 อยู่อันดับ 10 อยู่เหนือโซนตกชั้นแค่ 4 แต้มเท่านั้น
อาร์เซนอล
Starting Formation: 4-1-4-1
8.
มาร์ติน โอเดการ์ด

82'
7.5
9.
กาเบรียล เชซุส

90+1'
7
11.
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่
7.5
7.
บูกาโย่ ซาก้า

90+4'
8
ตัวสำรอง
21.
ฟาบิโอ วิเอร่า

90+4'
6
23.
อัลเบิร์ต แซมบี้ โลกองก้า
3.
คีแรน เทียร์นี่ย์

82'
6
14.
เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเทียห์

90+1'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2565
กรรมการ ไมเคิล โอลิเวอร์
อาร์เซนอล
3
2
ลิเวอร์พูล
1-0 มาร์ติเนลลี่ 1'
2-1 ซาก้า 45+5'
3-2 ซาก้า 76' (Pen.)
1-1 นูนเญซ 34'
2-2 ฟิร์มิโน่ 53'
ลิเวอร์พูล มาเยือนอาร์เซนอล ด้วยระบบ 4-2-3-1 แบ็กซ้าย คอนสแตนตินอส ซิมิคาส ตัวจริงก่อน แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ยังไม่ฟิต ขณะที่แดนกลาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เล่นคู่กับ ธิอาโก้ อัลคานทาร่า แนวรุกใช้ หลุยส์ ดิอาซ, ดิโอโก้ โชต้า, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยืนอยู่หลัง ดาร์วิน นูนเญซ
อาร์เซนอล วันนี้มาในระบบ 4-1-4-1 จัดเต็มด้วยผู้เล่นตัวหลัก จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยแค่ตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ให้ ทาเกฮิโร่ โทมิยาสุ เล่นแทนที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่บาดเจ็บ
อึ้งทั้งสนาม มาร์ติเนลลี่คมกริบซัดนำแต่ไก่โห่ 1-0
เริ่มเกมนาทีเดียว อาร์เซนอล ขึ้นนำ 1-0 จากเกมโต้กลับ ซาก้า จ่ายบอลให้ โอเดการ์ด แทงทะลุช่องตัดหลังเทรนท์ เข้าทางปืน มาร์ติเนลลี่ ซัดผ่านมือไปแบบอึ้งทั้งสนาม ทำไมรวดเร็วอย่างนี้
ซาก้าซัดเน้นๆให้อลิสซอนเซฟ
อาร์เซนอล หวาดเสียวอีกครั้งจาก ลูกเปิดเรียดทางขวาของ ไวท์ เข้าทางปืน ชาก้า ซัดเน้นๆ ให้ อลิสซอน ต้องออกแรงเซฟ ก่อนมีธงล้ำหน้าตามหลังมาอีกที
เทรนท์เจ็บต้องหยุดเกมดูอาการ
เกมต้องหยุดไปพักใหญ่ให้ ทีมแพทย์มาดูอาการ เทรนท์ ที่เจ็บหลังโดนมาร์ติเนลลี่ ยันไปที่ข้อเท้า จังหวะศูนย์หน้าปืนครอสบอลที่สุดเส้นหลัง
นูนเญซอัดเต็มข้อติดเซฟแรมส์เดล
ลิเวอร์พูล มีโอกาสจบสกอร์ จาก นูนเญซ วิ่งฉีกรับบอลที่ว่าง ก่อนซัดเต็มข้อให้ แรมส์เดล ต้องออกแรงปัดทิ้ง
ซาลิบาเกือบทำเข้าประตูตัวเอง
ซาลิบา สกัดบอลเกือบเข้าประตูตัวเอง ยังดีที่ แรมส์เดล ยังตามกลับมาช่วยเซฟบอลไว้ได้ทัน
ดิอาซจ่ายให้นูนเญซตามตีเสมอ 1-1
ลิเวอร์พูล ที่กดดันหนักมากขึ้นมาตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากเทรนท์ วางบอลยาวขึ้นหน้า กาเบรียลเคลียร์บอลทิ้งพลาดโดน ดิอาซ ตัดบอลฉีกออกจากก่อนจ่ายตัดเข้าในให้ นูนเญซ จิ้มบอลผ่านมือแรมส์เดลเข้าไป
เป็นลิเวอร์พูลที่ครองบอลดีกว่า
หลังจากตีเสมอได้ เกมยังเป็นของลิเวอร์พูล ครองบอลได้ดีกว่า ไม่เปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นได้เล่นเกมของตัวเอง
ดิอาซเจ็บเปลี่ยนฟิร์มิโน่แทน
ดิอาซเจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนฟิร์มิโน่ลงทำเกมรุกแทน
ปืนเกมรุกคมมาก ซัดหนี 2-1 จากซาก้า
ครึ่งแรก ทดเจ็บ 5 นาที เป็นช่วงที่อาร์เซนอล ยกระดับเกมของตัวเองขึ้นมาได้กดดันลิเวอร์พูลอย่างหนัก และมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง จากลูกจ่ายสุดคมของ มาร์ติเนลลี่ มาที่เสาสองให้ ซาก้า เข้าฮอร์สปิดจ็อบสวยงาม
ครึ่งหลังหงส์เปลี่ยนเทรนท์ออก
ลิเวอร์พูล ถอดเอา เทรนท์ ออกส่ง โจ โกเมซ ลงมายืนแบ้กขวาแทน
ปืนลุยใส่ทันทีตั้งแต่เริ่ม
ออกสตาร์ตครึ่งหลัง เป็นอาร์เซนอล ที่ทำเกมรุกได้ดีกว่า แต่แนวรับลิเวอร์พูล ก็ยังช่วยกันเล่นเอาตัวรอดออกมาได้
หงส์ตามตีเสมอ 2-2 อีกครั้งจากฟิร์มิโน่
บทจะได้ก็ได้ง่ายๆ โชต้า จ่ายบอลไปที่ว่างให้ ฟิร์มิโน่ วิ่งฉีกรับบอลก่อนซัดหนีมือ แรมส์เดล เข้าเสาไกล ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ 2-2 อีกครั้ง
หงส์งานชุกโดนปืนบุกหนักมาก
หลังโดนตีเสมอ อาร์เซนอลก็เปิดเกมรุกใส่ลิเวอร์พูลอย่างหนัก เกมรับหงส์งานหนักมากกับการต้านทานเกมรุกเจ้าถิ่น
หงส์ถอดซาล่าห์ออกปรับเล่น 4-3-3
ลิเวอร์พูลเปลี่ยน 2 ตัว เอาซาล่าห์ ออกส่ง ฟาบินโญ่ มาแล้วปรับกลับไปเล่น 4-3-3
ส่วนอีกครั้งให้โคนาเต้เล่นแทน มาติป
ปืนกดดันหนักก่อนได้จุดโทษ
อาร์เซนอลบุกหนักมาก มีโอกาสยิงจ่อๆ ในกรอบอยู่ 2-3 หน ติดบล็อคหมด ก่อนที่สุดท้ายผู้ตัดสินจะให้จุดโทษจังหวะ ธิอาโก้ ไปเตะเชซุส
ปืนนำอีกครั้งจากจุดโทษซาก้า
ซาก้า รับหน้าที่สังหารจุดโทษ เลือกยิงเรียดไปทางซ้าย อลิสซอนเดาทางถูกแต่พุ่งไปเซฟไม่ทัน
หงส์กดดันไม่มากพอจะลุ้นตีเสมอ
เข้าช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูลไม่สามารถกดดันได้มากพอที่จะตามตีเสมอ
ทดเจ็บ 5 นาที ลิเวอร์พูลพลิกเกมไม่สำเร็จ อาร์เซนอลเปิดบ้านชนะเกมใหญ่ 3-2 คว้า 3 แต้มเต็มนำจ่าฝูงต่อไปอีกสัปดาห์
ลิเวอร์พูล
Starting Formation: 4-2-3-1
32.
โจเอล มาติป

49'
6
66.
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

46'
6
20.
ดิโอโก้ โชต้า

81'
7
23.
หลุยส์ ดิอาซ

42'
6.5
11.
โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

69'
6.5
ตัวสำรอง
3.
ฟาบินโญ่

69'
6
19.
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

81'
6
9.
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่

42'
6.5
2.
โจ โกเมซ

46'
6.5
5.
อิบราฮิม่า โคนาเต้

49'
6
แก้ไขล่าสุดโดย เบน ฟรีคิก เมื่อ Mon Oct 10, 2022 03:22, ทั้งหมด 15 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ