[RE: สอบถามเรื่องแบตรถไฟฟ้า]
BUGHUM พิมพ์ว่า:
Pekkie พิมพ์ว่า:
Batt คือระเบิดเวลาครับ จะช้าจะเร็ว ยังไงก็เสื่อม จะบอกว่าไม่กังวลเลยคือไม่ใช่เลยครับ ยิ่งใช้เยอะก็ชาร์จเยอะ ก็ยิ่งเสื่อมไว
พอ Health มันเสื่อมชาร์จเต็มร้อย ระยะวิ่งก็ไม่เท่าเดิมแล้วครับ แล้วพอระยะมันวิ่งได้น้อยท่านยังอยากใช้อยู่มั้ย เพราะมันมีแค่ 2 ทางเลือก เปลี่ยน กับขายทิ้ง แล้วไอ้ที่ประหยัดค่าน้ำมันไปทั้งหมด มันมาเอาคืนตอนนี้ครับ
พวกช่อง EV ไม่ค่อยพูดถึงจุดนี้ แต่ผมเจอมากับตัวแล้ว ประสบการณ์จริง ถ้าจะซื้อเพราะประหยัดอย่าซื้อครับ ให้ซื้อเพราะชอบหรือแรงหรือเหตุผลอื่นครับ
ใช่รถ EV รุ่นไหนอยู่เหรอครับ
ผมไม่ใช้รถ EV แต่มีเพื่อนคุณพ่อที่สนิทมากๆ ใช้ BYD E8 รุ่นที่ทำ All Thai Taxi อ่ะครับ เค้าใช้มา 6 หรือ 7 ปี แล้ว Batt Health เหลือ 50% คือชาร์จเต็มแต่วิ่งได้ไม่ถึง 100 โลแล้ว สองทางเลือกที่ผมบอก จะเปลี่ยนแบต ก็เปลี่ยนไม่ได้ มันเก่าแล้ว พาร์ทแบตตัวนี้แกเช็คแล้วไม่มีของ หาไม่ได้ พอจะขาย ก็ไม่มีคนซื้อเลย แกเลยตัดปัญหาติดหัวชาร์จไว้ที่บริษัทอีกอันนึง จบไป แต่คันนี้คือใช้วิ่งได้แค่สั้นเท่าๆนั้น อันนี้คือผมเจอแกบ่อย เห็นแกทำแบบนี้จริงๆ และเป็นคนบอกผมเลยว่า รถ EV ไปเร็ว ยังไม่ต้องรีบซื้อ และยังไม่รู้จริงๆว่าใช่พลังงานที่คุ้มค่าหรือเปล่า
ส่วนที่ผมเจอเต็มๆคือ e300 Blutec ที่บ้าน รถปี 2016 แบตยังไม่เสื่อม แต่กำลังจะหมดประกัน ศูนย์ไม่ยอมให้เคลม ถือว่าแบตเสื่อมตามมาตราฐาน เลยขอเช็คราคาแบต สรุปทั้งโมดุล 8 แสน ผมเลยถามว่า แล้วที่ออกข่าวเมื่อหลายปีก่อนว่าแบตจะถูกแน่ๆ นี่คือถูกแล้ว???? ศูนย์เงียบไม่ตอบอะไร รถราคา 3 ล้านกว่า ขายมือถือไปแล้วเมื่อเดือนก่อน 7.7 แสน แต่ถ้าเป็นโมเดลปีเดียวกัน แต่เป็นเบนซิน หรือดีเซล แย่งกันซื้อที่ 1.6-1.7 ล้าน นี่ขนาดไม่ใช่แบตใหญ่ ไม่ใช่ EV ยังขนาดนี้ ถ้ายุโรป EV ล้วน จะขนาดไหน
ลองดูครับ เงินของแต่ล่ะท่าน ผมแค่มาแชร์ประสบการณ์ ซึ่งถามผม ผมตอบเลย ไม่ซื้อรถใส่แบตอีกแล้วครับ ส่วนที่ EV ใหม่ๆ มันยังใหม่อยู่ครับ มาคุยกันที่ 6-7 ปีครับ ตอนนั้นอะไรๆมันจะโผล่ออกมาแล้วเราจะเทียบได้ครับ แบบไหนคุ้มกว่า