5 เรื่องราว “มาดริด ดาร์บี้” ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

#SSxLaLiga | ฟุตบอลลาลีกา สเปน นัดที่ 6 ของฤดูกาล 2022/23 ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่เกม “มาดริด ดาร์บี้” แอตเลติโก้ มาดริด จะเปิดซิบิตาส เมโทรโปลิตาโน่ รับการมาเยือนของเรอัล มาดริด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายนนี้

อักเซล วิตเซล มิดฟิลด์ของแอตเลติโก มาดริด ให้สัมภาษณ์กับลาลีกา เกี่ยวกับเกมดาร์บี้แมตช์ในสุดสัปดาห์นี้ ที่เจ้าตัวอาจจะได้โอกาสลงสนามพบกับเรอัล มาดริด เป็นครั้งแรกในชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ

“ผมอยากสัมผัสบรรยากาศที่สนามจริง ๆ ผมเคยเล่นในเกมดาร์บี้ที่ยอดเยี่ยมอย่างดอร์ทมุนด์ กับชาลเก้ 04 ซึ่งมีการแข่งขันที่ดุเดือดอยู่เสมอ หนึ่งในเหตุผลที่ผมอยู่ในวงการฟุตบอล คือการได้ลงเล่นในเกมแบบนี้”

“ผมตระหนักดีถึงสิ่งที่เราต้องทํา มีความกดดันมากมายในเกมดาร์บี้ และตลอดทั้งฤดูกาล แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับความกดดันนั้น ต้องเยือกเย็น เป็นตัวของตัวเอง และทําทุกอย่างเท่าที่เราจะสามารถทําได้”

“เมื่ออายุยังน้อย บางคนมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และลงเล่นในเกมแบบนี้ ในอาชีพการงานของผม เคยเจอกับบาร์เซโลน่า, เซบีย่า และบาเลนเซีย แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก ที่ผมได้เจอกับเรอัล มาดริด”

“พวกเขามีขุมกําลังที่ดีจริง ๆ มีดาวรุ่งมากมาย คาริม เบนเซม่า อยู่ในฟอร์มที่ไม่ธรรมดา เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมมาโดยตลอด และบางทีในปีนี้เขาอาจจะได้บัลลงดอร์ แต่เราก็มีขุมกําลังที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน เรามีสภาพร่างกายที่ดี ดังนั้นมันจึงขึ้นอยู่กับเรา ที่จะเล่นตามศักยภาพของเราและมอบทุกสิ่งที่เรามี”

การพบกันของ 2 สโมสรที่ดีที่สุดจากกรุงมาดริด ที่ต่างแย่งชิงความสำเร็จกันอย่างเข้มข้นทั้งในสเปน และยุโรป แต่ยังมี 5 ประเด็น เกี่ยวกับดาร์บี้แมตช์แห่งเมืองหลวง ที่แฟนลาลีกาอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน

แอต. มาดริด ก่อตั้งขึ้นโดยนักศึกษาชาวบาสก์

วันที่ 8 เมษายน 1903 มีกลุ่มนักศึกษาชาวบาสก์ที่อาศัยอยู่ในกรุงมาดริดกลุ่มหนึ่ง ได้เข้าไปชมการแข่งขันฟุตบอลโกปา เดล เรย์ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างแอธเลติก บิลเบา กับมาดริด เอฟซี (ปัจจุบันคือเรอัล มาดริด)

เมื่อพวกเขาได้ชมเกมคู่นี้แล้ว ก็มีความคิดที่จะสร้างทีมฟุตบอลทีมใหม่ เพื่อเป็นคู่แข่งกับเรอัล มาดริด และอีก 18 วันให้หลัง กลุ่มนักศึกษาเลือดบาสก์กลุ่มนี้ ก็ได้ก่อตั้งสโมสร “แอตเลติโก้ มาดริด” ขึ้นมา

แอต. มาดริด ไม่เคยชนะในดาร์บี้แมตช์ นานถึง 14 ปี

ในช่วงระหว่างปี 1999 ถึง 2013 แอตเลติโก้ มาดริด เคยสร้างสถิติไม่ชนะเรอัล มาดริด ติดต่อกันนานถึง 25 เกม แต่การเข้ามาของดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ได้เข้ามาปลดล็อกสถิติอันเลวร้ายได้สำเร็จ

เฮดโค้ชชาวอาร์เจนไตน์วัย 52 ปี มีสถิติคุมทีมลงสนามใน “มาดริด ดาร์บี้” ทั้งหมด 36 นัด (รวมทุกรายการ) ชนะ 10 เสมอ 11 แพ้ 15 แต่ถ้านับเฉพาะลาลีกา “เอล โชโล่” มีสถิติชนะ 5 เสมอ 8 และแพ้ 5

แอต. มาดริด คือทีมต้นแบบการฉลองแชมป์ที่น้ำพุ Cibeles

ที่ผ่านมา แฟนบอลเรอัล มาดริด มักจะมาเฉลิมฉลองความสำเร็จที่น้ำพุซิเบเลส (Cibeles) อยู่บ่อยๆ แต่ความจริงแล้ว แอตเลติโก้ มาดริด คือทีมแรกที่เริ่มต้นการฉลองแชมป์ที่น้ำพุใหญ่ใจกลางกรุงแห่งนี้

หลังจากแอต. มาดริด คว้าแชมป์ลาลีกามาครองในปี 1977 ก็เป็นช่วงเวลาที่เรอัล มาดริด ครองความยิ่งใหญ่ตลอดช่วงทศวรรษที่ 1980s แฟนบอลเรอัล มาดริด ก็ได้เดินทางมาฉลองแชมป์ที่ซิเบเลส บ่อยมากขึ้น

จนกระทั่งในปี 1991 แอต. มาดริด คว้าแชมป์โกปา เดล เรย์ กองเชียร์ของสโมสรได้ตัดสินใจย้ายสถานที่ฉลองชัยชนะ ไปที่น้ำพุเนปตูโน่ (Neptuno) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 600 เมตรแทน และกลายเป็นสถานที่ประจำในที่สุด

แอต. มาดริด คือทีมเพื่อนบ้านที่น่ารำคาญในสมัยก่อน

ปัจจุบัน ทีมคู่ปรับตลอดกาลของเรอัล มาดริด คือบาร์เซโลน่า แต่ในช่วงทศวรรษแรกของการก่อตั้งลาลีกา ดาร์บี้แมตช์แห่งกรุงมาดริด ถือเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการฟุตบอลสเปน ซึ่งอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ อดีตแข้งตำนานราชันชุดขาว เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ลืมบาร์เซโลน่าไปซะเถอะ ทีมที่สร้างความรำคาญให้กับเราได้จริง ๆ คือแอตเลติโก้ มาดริด ต่างหากล่ะ”

แอต. มาดริด ได้แชมป์โคปา เดล เรย์ 9 ครั้ง ที่เบอร์นาเบว

“ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว” คือสนามที่ถูกโฉลกกับแอตเลติโก มาดริดมากที่สุด เมื่อลงแข่งขันโคปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศ เพราะจาก 10 ครั้งที่คว้าแชมป์รายการนี้ มีถึง 9 ครั้ง ที่ได้ฉลองโทรฟี่ในสนามเหย้าของเรอัล มาดริด คู่ปรับร่วมเมือง ส่วนอีก 1 ครั้ง “ตราหมี” ได้ไปชูถ้วยที่สนาม “ลา โรมาเรด้า” ของเรอัล ซาราโกซ่า หลังเอาชนะบาร์เซโลน่า 1 - 0 เมื่อปี 1996
ดาร์บี้แมตช์ แม้จะเป็นเพียงการแข่งขันฟุตบอลแมตช์หนึ่งประจำฤดูกาล แต่ถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถยอมกันได้ ชัยชนะของทีมใดทีมหนึ่งในเมือง จะยิ่งใหญ่เป็นพิเศษอย่างแน่นอน

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

Royal Madrid , ๐mC๐ , nokkhao , Milintobon

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ