'โด้' ปลดล็อก! 'ซานโช' ยิงด้วยผีอัดไม่พลาดอัดเชริฟฟ์ 2-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่พลาดให้กับการมาเยือนทีมที่เป็นรองโดยพวกเขาคุมได้และออกนำจาก เจดอน ซานโช ก่อนที่ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ จะยิงจุดโทษปลดล็อกลูกแรกของซีซั่นให้ตัวเอง ปีศาจแดง คว้าชัยเหนือ เชริฟฟ์ 2-0
เชริฟฟ์
Starting Formation: 4-3-3
7.
อาบู อวตตาร่า

73'
5.5
61.
อิบราฮิม ราชีด

73'
5.5
80.
อิยายี่ อาเตียมเวน

81'
6.0
ตัวสำรอง
17.
ซาลิฟู มูดาซิรู

81'
-
28.
แปร์นัมบูโก้

73'
6.0
11.
เฟลิเป้ วิเซอู

73'
6.0
ฟุตบอลยูโรป้าลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป อี
สนาม สตาดิโอนูล ชิซิเนา
วันที่ 15 กันยายน 2565
กรรมการ พาเวล รัคซ์คอฟสกี้
เชริฟฟ์
0
2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
0-1 ซานโช 17'
0-2 โรนัลโด้ 39' (Pen.)
เชริฟฟ์ เลือกที่จะจัดนักเตะชุดเดียวกับนัดชนะ โอโมเนีย ในเกมก่อนลงสนามตามเดิม
ส่วนทางด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ให้ โรนัลโด้ ยืนค้ำหน้าอีกครั้งหลังกองหน้าขาดแคลน ส่วนที่เหลือก็ยังเป็นนักเตะชุดหลักออกสตาร์ท
โด้ ถามหาจุดโทษแต่เปาไม่แจก
เริ่มมาช่วงแรกยังไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ ยกเว้นจังหวะที่วางบอลให้ โรนัลโด้ ตามไปไปในเขตโทษพยายามแต่งบอลด้วยหัวแล้วโดน กิกี้ ชนจนล้มลุกมาฟ้องเอาฟาวล์แต่เปาเฉย
ผีมาแล้ว! อิริคเซ่น จ่ายให้ ซานโช ล็อกยิงส่งนำ
แล้วพอ แมนฯ ยูไนเต็ด หาโอกาสลุ้นได้ก็ออกนำทันทีกับจังหวะต่อบอลกันมาหน้าเขตโทษแล้ว อิริคเซ่น หักจ่ายให้กับ ซานโช ทำท่าจะยิงด้วยขวาก่อนล็อกหลอกเข้าซ้ายแล้วค่อยสับไกไม่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0
เชริฟฟ์ตอบโต้ อาเตียมเวน ยิงไกลหลุดเสาแรกไปหน่อย
เชริฟฟ์ หาทางตอบโต้ได้เหมือนกันหลังจากดักบอลกลับมากลางสนามแล้วมาเคาะกันริมเส้นซ้ายก่อนจ่ายมาที่ อาเตียมเวน พยายามเลี้ยงตัดเข้าในแล้วยิงเองหลุออกเสาแรกแบบได้ลุ้น
อาเตียมเวน ปั่นฟรีคิกก็ยังหลุดกรอบไม่ไกล
เป็นโอกาสให้ เชริฟฟ์ ลุ้นตีเสมอด้วยฟรีคิกเยื้องทางซ้ายระยะได้ลุ้นประมาณ 25 หลา อาเตียมเวน เป็นคนจัดการวิ่งมาปั่นหลุดออกหลังไปไม่ไกล
ผีลุยใหม่ แอนโทนี่ ตักบอลให้ โด้ ตามไปยิงข้ามคาน
กลับมาเป็น ปีศาจแดง ลุ้นประตูเพิ่มบ้างด้วยฟรีคิก แอนโทนี่ เล่นไวเปิดขึ้นหน้าให้ โรนัลโด้ โฉบตามบอลเข้าเขตโทษต้องรีบยิงส่งบอลพุ่งข้ามคาน
น่าสอง! แอนโทนี่ จ่ายถึง ซานโช ยิงเจอเคลียร์บนเส้น
หวิดเป็นประตูสองให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าแล้วจากจังหวะ เชริฟฟ์ เคลียร์บอลกันไม่ดีพอ แอนโทนี่ ดักได้หน้าเขตโทษส่งต่อ ซานโช ทางซ้ายว่างในกรอบได้ยิงบอลผ่าน โควัล ไปแล้วแต่ยังมีตัวสไลด์สกัดบนเส้น
ผีได้จุดโทษ! โด้ ยิงไม่พลาดปลดล็อกลูกแรก
หลังจากนั้น ยูไนเต็ด บุกต่อแล้วก็มาได้จุดโทษเข้าให้เป็นบอลจาก บรูโน่ ตักเข้าเขตโทษให้ ดาโลท์ สอดมาทางขวาถึงบอลก่อนแต่ถูก โปโซ สกัดล้มไปกรรมการเป่าให้
โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารแล้วก็ไม่พลาดพาทีมนำ 2-0 พร้อมปลดล็อกลูกแรกของฤดูกาล
เกือบสาม! ดาโลท์ เปิดเรียดมาถึง บรูโน่ ยิงไม่ผ่าน
กลับมาครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ลุยต่อแล้วก็ลุ้นเกือบได้ประตูสามเมื่อ ดาโลท์ มาทางขวาหักเรียดเข้าในเขตโทษจบด้วย บรูโน่ วิ่งมายิงติดเซฟ
เชริฟฟ์กะลักไก่ยิงข้ามหัว ลามะ แต่แรงไป
เชริฟฟ์ กะจะฉวยโอกาสเอาประตูตีไข่แตกสักหน่อยกับจังหวะบอลยาวขึ้นหน้าแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด โหม่งกันไม่ดี ราชีด เห็น เด เกอา ออกมาไกลเลยจะดีดข้ามหัวแต่แรงไปออกหลัง
ผีมาทำชิ่งก่อนจบด้วย โด้ ยิงหน้าเขตโทษพุ่งออกหลัง
แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาบุกหาโอกาสกันอีกครั้งหลังจากมาเคาะบอลทางซ้ายก่อนที่ ซานโช ลากตัดเข้าในกรอบจ่ายให้ บรูโน่ ชิ่งย้อนออกมาที่ มาลาเซีย ก่อนเบิ้ลให้ โรนัลโด้ หน้าเขตโทษยิงส่งบอลพุ่งหลุดกรอบ
บาโดโล่ ยิงไกลโดน ลามะ รับติดมือ
เจ้าบ้านบุกกลับมาหาโอกาสจบได้หลังตัดบอลริมเส้นขวาแล้วจ่ายเข้ากลาง บาโดโล่ ล็อกเข้าขวาก่อนยิงไกลแต่ เด เกอา ยังรับติดมือ
ท้ายเกมแล้วผียังคุมเกมได้
เข้าสู่ช่วงท้ายเกมเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ดูเป็นฝ่ายที่ยังคุมเกมไว้ได้เลยไม่ค่อยเล่นกันเร่งรีบเท่าไหร่ปล่อยไปตามจังหวะ
เชริฟฟ์ยังหวังประตูตีไข่แตก แปร์นัมบูโก้ ยิงฟรีคิกเรียดตรงตัว
ก่อนหมดเวลา เชริฟฟ์ ขอลุ้นตีไข่แตกอีกทีจากฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องทางขวาระยะอีกก้าวเดียวก็กรอบเขตโทษแล้ว แปร์นัมบูโก้ ขอจัดการเลือกยิงเรียดลอดกำแพงมาแต่บอลตรงตัว เด เกอา เลยรับเข้าซองไป
จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะเหนือ เชริฟฟ์ 2-0 นั่นทำให้พวกเขาคว้าสามแต้มแรกในยูโรป้าลีกรอบแบ่งกลุ่มรั้งรองจ่าฝูงหลัง โซเซียดาด มี 6 แต้มเต็ม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
Starting Formation: 4-2-3-1
6.
ลิซานโดร มาร์ติเนซ

89'
6.0
20.
ดิโอโก้ ดาโลท์

70'
7.0
39.
สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์

45'
7.0
21.
แอนโทนี่

90'
6.5
7.
คริสติอาโน่ โรนัลโด้

81'
6.0
ตัวสำรอง
5.
แฮร์รี่ แม็กไกวร์

89'
-
23.
ลุค ชอว์

70'
6.0
18.
คาเซมิโร่

45'
6.5
49.
อเลฮันโดร การ์นาโช่

90'
-
36.
อันโธนี่ เอลังก้า

81'
-
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Fri Sep 16, 2022 02:03, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ