“คึกคะนองกันมากพอแล้ว อย่าทำอย่างนั้นเลย จากใจนักเลงเก่า โอ๊ย!!” …เนื้อร้องท่อนแรกจากเพลง ‘นักเลงเก่า’ ของวง ‘ไททศมิตร’ ดูเหมาะควรกับ ‘มาร์โก อาร์เนาโตวิช’ อยู่ไม่น้อยหากเขาร้องภาษาไทยได้ เพราะเขาคือนักเลงเก่าตัวจริงที่เลือกอำลาวงการแก๊งสเตอร์และหันมาเอาด้านฟุตบอลจนได้ดิบได้ดี ปัจจุบันอาร์เนาโตวิชคือกองหน้า ‘โบโลญญ่า’ ที่มีอายุ 33 ปี และกำลังครองตำแหน่งดาวซัลโวของลีก ‘กัลโช่ เซเรีย อา’ อยู่! ขณะนี้เขายิงไปแล้ว 6 ประตูจาก 6 เกมในลีก จัดได้ว่าอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงแบบฉุดไม่อยู่



แฟนฟุตบอลชาวไทยหลายท่านคงคุ้นชื่ออาร์เนาโตวิชกันอยู่บ้างแล้ว เนื่องจากเขาเป็นนักเตะที่พาแข้งไปโลดแล่นอยู่กับทีมต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นทีมมีชื่อเสียงที่หลายคนรู้จัก และที่เป็นกระแสล่าสุดคือช่วงที่มีข่าวว่า ‘แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด’ มีความสนใจที่จะดึงตัวเขามาร่วมทีมด้วยก่อนที่ตลาดจะปิด แต่สุดท้ายแมนยูฯก็ถอนตัวจากดีลนี้ไป เพราะเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลและสื่อที่เห็นตรงกันว่า อาร์เนาโตวิชแก่เกินไป และพฤติกรรมเก่า ๆ ของเขาอาจหวนกลับมาอีกครั้งจนทำให้ทีมมีปัญหา...?

ย้อนกลับไปราว ๆ 20 กว่าปีก่อน ภายในเมืองแห่งเสียงดนตรีอย่างกรุงเวียนนา อาร์เนาโตวิชในวัยขบเผาะและผองเพื่อนของเขา รวมกลุ่มกันตั้งตนเป็นแก๊งอันธพาลเจ้าถิ่นสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนมาไม่นักต่อนัก อาร์เนาโตวิชเป็นนักเลงหัวไม้ที่มักมีเรื่องวิวาทและสร้างความปวดหัวให้พ่อกับแม่จนต้องเอามือมากุมขมับอยู่เสมอ แต่โชคดีที่มีอีกสิ่งหนึ่งที่อาร์เนาโตวิชทำได้ดีพอ ๆ กับการชกต่อย ซึ่งสิ่งนั้นก็คือฟุตบอลนั่นเอง...และฟุตบอลนี่แหละที่เป็นตัวนำพาเขาออกมาจากวงโคจรสีดำ

ถึงแม้ว่าฝีเท้าของอาร์เนาโตวิชจะเข้าไปเตะตาแมวมองจากหลาย ๆ ทีม ทว่านิสัยเลือดร้อนจากการเป็นนักเลงเก่าของเขาก็ยังคงติดตัวเขาไปยังทุก ๆ ที่ เขากลายเป็นนักฟุตบอลเยาวชนที่ต้องเปลี่ยนสโมสรเยาวชนมาแล้วถึง 7 ครั้งเพราะความเกเร ขาดวินัย และชอบเถียงคำไม่ตกฟากจนคนในทีมเอือมระอา...แต่ด้วยพรสวรรค์และความชอบฟุตบอลที่อยู่ในดีเอ็นเอ มันยังสามารถทำให้เขาพาตัวเองขึ้นมาเล่นในระดับอาชีพได้สำเร็จ

สมัยที่อาร์เนาโตวิชค้าแข้งอยู่กับอินเตอร์มิลาน เขามักมีปัญหากับ ‘โชเซ่ มูรินโญ่’ ที่เป็นกุนซือของทีมในช่วงเวลานั้น นี่ถือเป็นมวยเอกถูกคู่สำหรับอาร์เนาโตวิช เพราะอย่างที่หลายคนทราบกันดีว่ามูรินโญ่เป็นโค้ชที่ไม่ชอบปล่อยปละละเลยกับอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แถมเขายังมีฝีปากที่เอาเรื่องอยู่พอตัว



นิสัยเสียหลัก ๆ ของอาร์เนาโตวิชคือเรื่องที่เขาไม่ตรงต่อเวลา แถมยังชอบเถียงเวลาที่โดนต่อว่า เขาจึงกลายเป็นนักเตะคนหนึ่งที่มูรินโญ่พร่ำสอนหรือทำโทษใส่บ่อย ๆ และดูเหมือนว่าสิ่งที่มูรินโญ่กระทำต่ออาร์เนาโตวิชนั้น มันเป็นการบ่มเพาะวินัยบางอย่างโดยที่อาร์เนาโตวิชเองก็ไม่รู้ตัว

มีเรื่องตลกอยู่เรื่องหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นกับอาร์เนาโตวิชและมูรินโญ่ เมื่ออาร์เนาโตวิชมักถูกสั่งให้ไปแยกซ้อมอยู่คนเดียวเพราะโดนทำโทษที่ชอบมาสาย มันทำเขาเริ่มมีความคิดที่ว่าจะพาตัวเองกลับไปร่วมซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมให้ได้อีกครั้ง! และเขาต้องการจะพิสูจน์ให้มูรินโญ่ได้เห็นว่าตัวเขาก็เปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน!

เช้าวันหนึ่ง…อเนาร์โตวิชรีบลุกขึ้นจากที่นอนเพื่อรีบไปซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม ทว่าเมื่อหันไปมองนาฬิกา เขากลับพบว่าตัวเองกำลังสายเหมือนเคย! ถึงอย่างไรอาร์เนาโตวิชก็ยังไม่ละทิ้งความพยายาม เขารีบไปที่สนามซ้อมโดยเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าไม่มีรถของเพื่อนร่วมทีมจอดอยู่เลยสักคัน!? อาร์เนาโตวิชรู้สึกแย่กับตัวเองและคิดในใจว่าการซ้อมในช่วงเช้าได้จบลงไปแล้ว และนี่คงเป็นอีกครั้งที่เขาทำให้มูรินโญ่ผิดหวัง!

ทันใดนั้นเองมูรินโญ่และทีมงานที่อยู่ที่สนามซ้อมก็เดินออกมาปรบมือให้กับอเนาร์โตวิชกันยกใหญ่ และมูรินโญ่ก็พูดว่า “อาร์เนาโตวิชของฉัน! นี่แกมาซ้อมก่อนเวลาตั้ง 5 ชั่วโมงเลยเหรอ! ฉันโคตรรักแกเลยว่ะ ขอยกนาฬิกาเรือนนี้ให้แกไปเลย”...จากนั้นมูรินโญ่ก็ถอดนาฬิกาข้อมือของตัวเองให้กับเขา



อาร์เนาโตวิชได้ออกมาพูดกับสื่อภายหลังว่า เขายังคงเก็บนาฬิกาข้อมือเรือนนั้นที่มูรินโญ่ให้เป็นอย่างดี และมันก็เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจให้เขาเป็นคนที่ตรงต่อเวลามากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มูรินโญ่จะเป็นหนึ่งในคนที่พยายามขัดเกลานิสัยของเขาให้ดีขึ้น แต่มันก็เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้อยู่ร่วมกัน ความคึกคะนองของความเป็นนักเลงเก่าไม่ได้จางหายกันไปได้ง่าย ๆ เขายังคงมีนิสัยเกเรหลุดออกมาให้สื่อได้โจมตีอยู่ตลอด กระทั่งวันหนึ่งที่เขาได้กลายเป็นพ่อคน...ตอนนั้นแหละที่หลายคนเริ่มพูดว่า “เขาเป็นคนที่ดีขึ้น”

ถ้าเราไล่ดูความเป็นไปของอาร์เนาโตวิชตั้งแต่เริ่มแรก เราจะเห็นว่าอาร์เนาโตวิชเป็นนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์ หากเขาได้เรียนรู้และปรับปรุงนิสัยไม่ดีของตัวเองได้เร็วกว่านี้ บางทีเขาอาจจะอยู่ในจุดที่ดูดีกว่าที่เขาเป็นอยู่

พูดกันถึงเรื่องที่กำลังเกิดในปัจจุบัน อาร์เนาโตวิชในวัย 33 ปี กำลังพิสูจน์ตัวเองให้โลกได้เห็นอีกครั้งว่าเขาเจ๋งแค่ไหน ถึงจะเป็นนักเลงเก่า แต่ตำแหน่งดาวซัลโวเขาเองก็คว้ามันมาได้ ต่อให้เป็นคนที่ชอบมาสาย แต่มันไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเปลี่ยนแปลง



เขากำลังเป็นตัวอย่างให้กับอีกหลาย ๆ คนได้เห็นว่า คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ตลอดเวลา...หวังว่าเขาจะถือครองตำแหน่งดาวซัลโวของลีกไปได้อีกนาน ๆ


_______________________
SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่
Facebook: https://bit.ly/3DeU6BX
Instagram: https://bit.ly/3xzln0z
YouTube: https://bit.ly/3reBi3f
TikTok: https://bit.ly/3Oq18JC
Blockdit: https://bit.ly/3qU7B5G

รับไม้ต่อเดอะแบก ต่อจากปาลาซิโอ้ ได้พอเหมาะพอเจาะ ฤดูกาลที่แล้วอาจจะยังพอถูๆไถ่ๆไปได้บ้าง
ฤดูกาลนี้สุดจริง เล่นดีมาก

ตอนแมนยูมีข่าวผมคนนึงมองต่างจากคนอื่นว่าอยากได้ เพราะศูนย์หน้าตัวจริงค่าตัวแพงปีนี้ไม่มีใครอยากมาทีมเรา อย่างน้อยเอามาหมุนเวียนไปก่อนยังไงแกก็ยอมสำรองอยู่แล้ว พี่โด้วไม่เข้าระบบเทนฮากอย่างแรง หมากเจ็บบ่อย แรซขึ้นๆลงๆ อเนาครองบอลดีเก็บบอลได้เทคนิคดีช่วยปีก2ข้างได้เยอะ เป็น1ตัวที่เทนฮากต้องการแต่โดนปฏิเสธทั้งบอร์ดทั้งแฟนบอล

ตัวแบกของทีมเลยตอนนี้

ตัวป่วนทีมใหญ่เลย เก็บบอลดี ลูกกลางอากาศก็ดี
เสียอย่างเดียวแกชอบยิงบอลเบาในจังหวะที่ควรใส่สกอร์ได้

อายุ 33 แล้วย้อนไป 20+ ปี ก้อเท่ากับ ห้าวตั้งแต่ 10 ขวบเลยเหรอ โหยยยยยยยยยย