วิกฤติบีบให้มิดฟิลด์หงส์ต้อง “ทำงาน ทำงาน ทำงาน” ให้หนักขึ้น
#SSxKMD | อาจเป็นแง่มุมดีเล็กๆสำหรับเดอะค็อปเนื่องจากลิเวอร์พูลมีโอกาสได้มิดฟิลด์สองคนคืนสนามทันใช้งานวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม ซึ่งพวกเขาจะเปิดประตูแอนฟิลด์ต้อนรับไบรท์ตันหลังจากติเอโก อัลคันตารา เพิ่งกลับมาในแมตช์ที่แพ้นาโปลี 1-4
คนแรกคือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่หายหน้าไปตั้งแต่ 31 สิงหาคมเพราะบาดเจ็บแฮมสตริง ซึ่งนำมาสู่การยืมตัวอาร์ตูร์ เมโล อีกคนคือ นาบี เคอิตา ที่พักรักษาต้นขาตั้งแต่ 21 สิงหาคม ทีมแพทย์หงส์แดงประเมินว่ามิดฟิลด์ทีมชาติกีนีน่าจะคืนสนามในเดือนพฤศจิกายนเป็นอย่างช้า แต่กาบา เดียวารา ผู้จัดการทีมชาติกินี ให้สัมภาษณ์ว่าสภาพร่างกายของเคอิตาดีขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ จึงได้ใส่ชื่อไว้ในทีมชาติชุดล่าสุดด้วย
อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ที่บาดเจ็บแฮมสตริงมาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม คาดว่าอาจเป็นเดือนตุลาคมแต่เยอร์เกน คล็อปป์ มองโลกแง่ร้ายไว้ก่อนว่ามีโอกาสนานกว่านั้นเพราะระดับความเสียหายของแฮมสตริงจากเกมอุ่นเครื่องกับพาเลซค่อนข้างรุนแรง ส่วนเคอร์ติส โจนส์ ที่บาดเจ็บน่องต้นเดือนกันยายนทั้งที่เพิ่งคืนสนามได้นัดเดียวในแมตช์ที่เฉือนนิวคาสเซิล ทำให้เขาพลาดแมตช์กับเอฟเวอร์ตันและนาโปลี ทีมแพทย์ยังไม่ได้ระบุกำหนดเวลาคืนสนาม
ถ้ามองแบบเผื่อใจมากที่สุด เมื่อพรีเมียร์ลีกกลับมาเตะหลังโปรแกรมทีมชาติน่าจะมีเฮนเดอร์สันให้คล็อปป์เลือกใช้งานแดนกลางเพิ่มคนเดียวจากปัจจุบันคือ ฟาบินโญ, ติเอโก, อาร์ตูร์, เจมส์ มิลเนอร์ และฮาร์วีย์ เอลเลียต ในวัยเพียง 19 ปี ซึ่งเล่นได้ทั้งปีกและมิดฟิลด์
การที่คล็อปป์เจอปัญหาหนักกับตำแหน่งมิดฟิลด์อย่างไม่คาดฝันทำให้ต้องเร่งพลักดันเอลเลียตแม้ถูกมองว่ายังดิบและอ่อนประสบการณ์เกินไป
คล็อปป์ใส่ชื่อมิดฟิลด์วัย 19 ปีเป็นตัวจริงถึง 6 นัดจากทั้งหมด 7 นัดรวมทุกรายการในซีซันนี้ เทียบกับการลงสนามทั้งหมด 11 นัดในซีซันที่แล้ว ซึ่งเป็นพรีเมียร์ลีก 6 นัด ส่วนซีซัน 2020-21 เอลเลียตไปเล่นให้แบล็คเบิร์นด้วยสัญญายืมตัว ได้เล่นแชมเปียนชิพถึง 41 นัด ทำ 7 ประตู
ไม่มีใครสงสัยพรสวรรค์ของเอลเลียต คล็อปป์เคยพูดไว้ในเดือนสิงหาคมเมื่อครั้งลิเวอร์พูลต่อสัญญากับมิดฟิลด์อนาคตไกลว่า “แน่ชัดอยู่แล้วว่า ฮาร์วีย์เป็นนักฟุตบอลที่เก่ง แต่เขาต้องก้าวทีละขั้นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเติบโต นี่เป็นสิ่งที่ฮาร์วีย์ต้องทำ”
แต่ดูเหมือนสถานการณ์ไม่ได้เปิดโอกาสให้คล็อปป์ค่อยๆฟูมฝัก รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยต้นอ่อนที่ชื่อว่า ฮาร์วีย์ เอลเลียต เติบโตตามธรรมชาติ
เฟลิกซ์ คีธ นักข่าวของหนังสือพิมพ์ The Mirror ชี้ว่าจุดอ่อนของเอลเลียตอยู่ที่ ball-winning เขาเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้เฉลี่ย 9 ครั้งในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเท่ากับผู้เล่นส่วนใหญ่ของลิเวอร์พูล เข้าปะทะและแย่งบอลได้น้อยกว่าสองมิดฟิลด์ที่อายุขึ้นเลข 30 อย่างเฮนเดอร์สันและเจมส์ มิลเนอร์ อีกทั้งยังประสบความสำเร็จในการพยายามแทคเกิลแค่ 18.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ตัวเลขสถิติบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเอลเลียต ซึ่งอาจตรงกับที่ แกรม ซูเนสส์ ตำนานกองกลางลิเวอร์พูล เคยให้สัมภาษณ์ไว้กว้าง ๆ ถึงขุมกำลังแดนกลางของสโมสรเก่า
“ผมมองว่าเป็นเรื่องของมิดฟิลด์จำพวกบ้าพลังบ้างานที่สามารถจ่ายบอลได้สวยๆด้วย ย้อนกลับไปยุคที่ลิเวอร์พูลมีขุมกำลังแดนกลางที่ดีมากๆเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว จินี ไวจ์นัลดุม เป็นพวกเวิร์คกะฮอลิค เจมส์ มิลเนอร์ ก็มีนิสัยเวิร์คกะฮอลิค จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็อีกคน พรสวรรค์อาจไม่ได้หมายถึงการจ่ายบอลงามๆแต่เป็นพวกบ้างานที่กัดไม่ปล่อยไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆมากกว่า สำหรับผมแล้ว การสร้างสรรค์เกมมาจากฟูลแบ็คและกองหน้า”
บางทีซูเนสส์อาจกำลังบอกให้มิดฟิลด์รุ่นน้องด้วยวลีที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง “ทำงาน ทำงาน ทำงาน”
SoccerSuck x ไข่มุกดำ
เรียบเรียง : KMD Content Team
แก้ไขล่าสุดโดย nnan_ps เมื่อ Mon Sep 12, 2022 12:34, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ