[RE: พึ่งรู้จักคำว่า "ตกเขียว" แล้วก็โคตรหดหู่]
บิดาแห่งความเชื่อ พิมพ์ว่า:
debua พิมพ์ว่า:
บิดาแห่งความเชื่อ พิมพ์ว่า:
debua พิมพ์ว่า:
บิดาแห่งความเชื่อ พิมพ์ว่า:
มันคือการค้ามนุษย์ ซึ่งโทษตอนนี้หนักขึ้นมาก เลยไม่มีใครกล้าทำ
อีกอย่างพ่อแม่ก็จะโดนด้วย
ที่ผมดิ่งคือ พ่อแม่ก็รู้ด้วยนะ ว่าเขาให้เงินมาเพื่ออะไร แล้วลูกสาวตัวเองจะถูกกระทำแบบไหน
ความจนมันน่ากลัวครับ สมัยก่อนแค่ผ่าไส้ติ่ง 500 ไม่มีเงินยังจะหามลูกกลับไปตายบ้านเลย
อีกอย่างพวกที่ทำแล้วมีเสี่ยเลี้ยง ก็เอาเงินเอาความร่ำรวยมาล่อให้เด็กคนอื่นเข้าวังวนอีก หรืออาจจะโดนพวกนั่นบอกให้ทำก็ได้ มันก็เลยวนไปเรื่อยๆอยู่เป็นหลักหลายสิบปี
บ้านเกิดผมอยู่เหนือพวกพี่เลี้ยงผมบางคนยังสมัครใจทำเลย กลับมาสวยขึ้นมาก คนแถวบ้านรู้แต่ไม่ท้วงอะไร
ส่วนพวกตกเขียวมันน่าจะนานมากแล้วล่ะ ก่อนหรือระหว่างสมัยชาติชายนู่นแหละมั้ง ตอนนั้นญวน ลาว อพยพเยอะ พวกล่าหัวมันก็เลยเฟื่องฟู
แฟนผมบอกว่าอันที่จริงมันเหมือนเป็นเรื่องที่ดีลลงตัวกันทุกฝ่าย ทั้งพ่อแม่ ได้เงิน
ลูกได้ตอบแทนบุญคุณ เพราะบางคนเขาบอกว่าเป็นเรื่องปกติ
นายหน้า ได้เงิน
ลูกค้าได้ ...
แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
มันคือมายา พ่อแม่ก็คิดว่าลูกอาจไปได้ดีในเมืองก็ได้ เพราะพวกล่าหัวบอก เนี่ย เห็นไหมไปทำแล้วแต่งตัวสวย มีเงินส่งให้พ่อแม่เอามาทำบ้านใหม่ มีเสี่ยเลี้ยง
มันก็ไม่ต่างจากสมัยนี้ พริตตี้เป็นเด็กเสี่ย ทำไซด์ไลน์ เก็บเงินได้ทำธุรกิจโดยเสี่ยหนุนให้ แต่ก่อนก็เป็นร้านเสริมสวย
แต่ถามว่าพวกที่ไปแล้วแย่มีไหม มันก็เหมือนปัจจุบัน
คือต้องเข้าใจก่อนว่า
1. ระบบการขายบริการทางเพศของไทยไม่เคยเปลี่ยนมาหลายยุค ยกเว้นยุคที่มีอินเตอร์เนตเข้ามานี่แหละที่บางคนสร้างรายได้หลักแสนหลักล้านได้เองโดยไม่ต้องผ่านเอเยนต์
2. ระบบการหลอกคนมาทำก็ยังเหมือนเดิม เอาความร่ำรวยเข้าล่อ
3. พ่อแม่ที่ไม่มีการศึกษาก็ยังโดนหลอกง่ายเหมือนเดิม
ผมว่ามันต่างกันนิดนึงนะฮะคือ
ตกเขียวเนี่ย คนมาซื้อลูกสาวกับพ่อแม่ ลูกสาวมีสถานะเป็นเพียงแค่วัตถุ พ่อแม่มีสิทธิขายได้แบบวัวแบบควาย
ต่างกับสมัยนี้ตรง ลูกสาวยอมไปด้วยเจตจำนงค์ของตัวเอง โอเคแหล่ะพ่อแม่กดดันหรืออะไรก็เรื่องนึงแต่ก็ไม่มีสิทธิขายแล้ว ตัวลูกสาวเท่านั้นที่ตัดสินใจ
น้อยที่สุดเธอก็มีสิทธิในชีวิตตัวเอง ไม่ได้เป็นวัวเป็นควายแบบสมัยก่อนแล้ว(อาจจะยังมีเหลือ เมื่อวันก่อนก็เพิ่งมีข่าว แต่นั่นก็เด็กหญิงอายุสิบขวบเอง)
ส่วนที่เหลือก็ตามกระบวนการที่ท่านว่า ความรวย ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมันก็ยังเป็นตัวดึงดูดให้คนเข้ามาทำเหมือนเดิม พ่อแม่ที่ไม่มีการศึกษาไปจนถึงรักสบายก็ยังคงถูกภาพมายาในสังคมชักจูงให้กดดันลูกได้เหมือนเดิม
เอาจริงงานแบบนี้ถ้ามองว่ามันคืองานมันก็คืองาน ถ้าไปด้วยความเต็มใจ มันก็วิน-วินกันทุกฝ่าย
แต่สำหรับผมที่มันจะไม่วินนี่คือ พ่อแม่กดดันให้ต้องทำเพื่อที่ตัวเองจะไม่ต้องทำงานแล้ว เอาเงินลูกมาละลายกับความอยากได้อยากมีของตัวเอง หยั่งงี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรในสมการเลย มันก็แมงดาชนิดนึงอ่ะ