ยิงไม่พัก! ฮาลันด์เบิ้ล 'เรือ' ฉลุยถล่มเซบีญ่า 4-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดตัวแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้แบบสุดหรู บุกไปยิง เซบีญ่า แบบสู้ไม่ได้ขาดลอย 4-0 โดยเป็น เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ คนดีคนเดิมยิง 2 ประตู และฟิล โฟเด้น กับรูเบน ดิอาสมายิงอีกคนละลูก ทำให้บุกมาคว้าสามแต้มในถิ่นราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน ก่อนไปเจอโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเกมหน้า
เซบีญ่า
Starting Formation: 4-2-3-1
18.
โธมัส เดลานี่ย์

46'
6
10.
อีวาน ราคิติช

46'
6
3.
อเล็กซ์ เตลเลส

57'
6
24.
ปาปู โกเมซ

73'
6
ตัวสำรอง
12.
ราฟา เมียร์

46'
5.5
8.
ฆวน ฆอร์แดน

46'
6
5.
แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก

57'
6
7.
ซูโซ่

73'
6
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มจี
สนาม ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน
อังคารที่ 6 กันยายน 2565
กรรมการ ดาวิเด้ มาซซ่า
เซบีญ่า
0
4
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
0-1 เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ 20'
0-2 ฟิล โฟเด้น 58'
0-3 เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ 67'
0-4 รูเบน ดิอาส 90+2'
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีปัญหาที่แนวรับ ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ จอห์น สโตนส์เจ็บ ทำให้เป็นโอกาสของเซร์คิโอ โกเมซ ได้ลงเล่นทางแบ็คซ้าย สำหรับแนวรุกวันนี้เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ยังค้ำหอกโดยมีแจ็ค กรีลิช กับฟิล โฟเด้น ทำเกมริมเส้น ด้านเซบีญ่า วางให้อิสโก้ ยืนตัวบนสุดโดยมี ปาปู โกเมซ ลงปีกขวาและอเล็กซ์ เตลเลส ยืนริมเส้นซ้าย
ฮาลันด์โฉบโขกเสาแรกบางไป
ซิตี้ เปิดเกมรุกเข้าใส่แล้วมีโอกาสก่อน เดอ บรอยน์ พาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนยกบอลมาที่เสาแรกให้ ฮาลันด์ ที่วิ่งโฉบมาสวยก่อนกระโดดโขกแต่โดนบอลบางเกินไปทำให้หลุดทางเสาไกลออกไป
กรีลิชกระชากยิงยังไม่ตรง
โอกาสอีกครั้งของทีมเยือน โกเมซ ให้บอลมาที่กรีลิช ลากบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนโยกหนีนาบาสแล้วตัดสินใจยิงยัดมาที่เสาแรกแต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปอีก
โฟเด้นไม่ได้ยิงอคุนญ่าเกี่ยวทัน
เรือใบสีฟ้า ยังเดินหน้าบุกฝ่ายเดียวคราวนี้บอลยาวให้ โฟเด้น เกี่ยวบอลลงสวยก่อนลากเข้ากรอบเขตโทษด้านขวากำลังจะยิงอยู่แล้วแต่อคุนญ่าตามมาแก้ตัวเกี่ยวบอลไปจากด้านหลังแบบหวุดหวิด
เปิดแผล! ฮาลันด์ชาร์จตุงเรือนำ 1-0
เซบีญ่า ต้านไม่อยู่แล้ว โฟเด้นไหลบอลให้เดอ บรอยน์ที่โฉบตัดหลังแบ็คได้สวยก่อนเปิดในกรอบเขตโทษด้านขวาบอลไปถึงฮาลันด์ กระโดดชาร์จทางเสาไกลไม่มีพลาด 1-0!!!
KDB ฟรีคิกเข้าหน้าต่าง
ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษมุมเขตโทษด้านซ้ายเข้าทางเท้าขวาของเดอ บรอยน์ ที่วิ่งเข้ามาปั่นเล็งที่เสาแรกแต่บอลหลุดไปชนแค่ข้างหน้าต่างโดยโบโน่พุ่งเช็คแล้ว
อคุนญ่าได้ส่องหลุดออกหลัง
โอกาสหนแรกของเซบีย่า เป็นการเตะมุมด้านขวาที่โยนเข้ามาแล้วกรีลิช โขกเคลียร์ออกมาไม่ขาดเข้าทางของอคุนญ่า ลากมาส่องเรียดนอกกรอบทว่าบอลหลุดเสาขวามืออกไป
โกเมซกระโดดยิงยังโด่งเกิน
เดลานี่ย์ให้บอลจังหวะเดียวมาถึงโกเมซหลุดเข้าช่องมาทางขวาก่อนตัดสินใจกระโดดยิงแบบไม่จับทว่ากดไม่ลงบอลหลุดออกหลังไป
KDB หลุดเดี่ยวยิงไม่ผ่านโบโน่
โอกาสทองของ ซิตี้ที่ได้สวนกลับแล้วฮาลันด์ขึ้นมากับ เดอ บรอยน์ แล้วเป็นจอมทัพเบลเยี่ยมหลุดไปล่อเป้าโบโน่แต่จังหวะยิงไปติดปลายมือของนายด่านเจ้าถิ่นก่อนหลุดออกหลังไม่ได้ประตูอย่างน่าเสียดาย
โฟเด้นยึกยักก่อนซัดตุงเรือหนี 2-0
เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูที่สอง คันเชโล่ เติมขึ้นมาในกรอบเขตโทษด้านขวาก่อนจ่ายมาให้ โฟเด้นลากบอลโยกไปโยกมาหน้าจุดโทษก่อนยิงด้วยซ้ายเหมือนบอลแฉลบกูเดลจ์ก่อนหนีมือของโบโน่ไปตุงตาข่าย 2-0!!!
กุนโดกันยิงเข้าโฟเด้นล้ำหน้าก่อน
ซิตี้ ส่งบอลเข้าประตูแต่ไม่ได้ คันเชโล่ ยกบอลมาให้โฟเด้นที่อยู่คนเดียวทางเสาไกลก่อนโหม่งชงมาให้ กุนโดกันตัวสำรองที่เพิ่งลงมายิงเข้าไปง่ายๆ แต่โฟเด้น ล้ำหน้าไปก่อนแล้วนิดเดียวเอง
ฮาลันด์ซ้ำโล่ง เรือหนีห่าง 3-0
เรือใบสีฟ้า ได้ประตูเพิ่มอีก เริ่มจากการยิงนอกกรอบของโฟเด้นแล้วโบโน่ ได้แต่ปัดบอลมาเข้าทางของฮาลันด์ ซ้ำโล่งๆ ไม่มีพลาดอยู่แล้ว 3-0!!!
คันเชโล่ลากยิงติดเซฟโบโน่
คันเซโล่ลากบอลมาจากกลางสนามก่อนถึงหน้าปากเขตโทษไม่มีใครเข้ามาประกบก่อนซัดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งตรงกรอบแต่โบโน่ยังไม่ยอมปัดทิ้งออกหลังไปก่อน
เมียร์โดนเหลืองคนแรก
เล่นมาเกือบจบเกมเพิ่งมีใบเหลืองแรก เมียร์ไปกระโดดเตะสูงใส่หน้าของอคันยี่จังหวะพยายามแย่งบอล กรรมการไมไมีทางเลือกต้องจดชื่อทันที ส่วนคนโดนเตะให้หมอดูอาการก่อนเล่นต่อไป
ดิอาสยิงเพิ่ม!เรือเปิดตัวสวยถล่ม 4-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ดิอาส มาชาร์จจ่อเป็นประตูที่ 4-0 ก่อนชนะไปด้วยสกอร์นี้พร้อมเตรียมเจอโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คู่แข่งในสัปดาห์หน้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
16.
โรดรี้

78'
6.5
17.
เควิน เดอ บรอยน์

78'
8
9.
เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

70'
8
10.
แจ็ค กรีลิช

62'
7
47.
ฟิล โฟเด้น

70'
8.5
ตัวสำรอง
19.
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ

70'
6
4.
คัลวิน ฟิลลิปส์

78'
6
26.
ริยาด มาห์เรซ

78'
6
8.
อิลกาย กุนโดกัน

62'
6.5
80.
โคล พาลเมอร์

70'
6
แก้ไขล่าสุดโดย ZONG'TEEN เมื่อ Wed Sep 07, 2022 03:55, ทั้งหมด 19 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ