คือมีหมายจากตำรวจมาให้เข้าไปเพื่อสอบสวนในฐานะพยาน
เนื่องจาก ททท ยื่นฟ้อง รร. ทีเราไปพักมาจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ว่าทาง รร.ทุจริต
โทรถาม รร.แล้วว่าเป็นเรื่องจริง ตำรวจจะสุ่มโทรจากรายชื่อผู้เข้าพัก
แต่ทาง รร.บอกว่าไม่ต้องไปก็ได้ เขาเตรียมทนายไว้สู้แล้ว แต่ผมยังไม่ได้โทรหา สภ.นะ

ผมอยู่กรุงเทพแต่หมายมาจาก สภ.ภูเก็ต ให้ไปให้ปากคำที่ภูเก็ต บ้าไปแล้ว

คำถามคือผมต้องโทรไปแจ้งตำรวจว่าอะไรครับ หรือถ้าเงียบปล่อยผ่านไปเลยจะเป็นอะไรมั้ย?

คิดว่าต้องไปนะครับ ไม่ไปอาจมีความผิดได้นะครับ

ไม่ต้องสนใจครับ จะบ้าหรอ ให้ถ่อไปถึงภูเก็ต อยากรวบรวมข้อมูลก็ทำกันเองดิ ปัญญาอ่อน

ถ้าเป็นพยานแล้วเราไม่สะดวกไปก็แจ้งเค้าได้นะครับ เค้าก็น่าจะหาทางอื่นเช่นขอสืบสวนทางโทรศัพท์แทน

ไม่น่าจะมีความผิดอะไร เพราะขนาดพยานในชั้นศาลบางทีเจอยัดตังจนหายไปเลยก็มี

ถ้าตามหลักในคดีอาญาแล้วจะต้องไปไม่งั้นมีความผิด ถ้าไม่สะดวกหรือมีเหตุต้องแจ้งให้ศาลทราบก่อนวันนัด เป็นหนังสือหรือมอบฉันทะอะไรก็ว่าไป

แต่ในเคสแบบนี้มันจะมีกรณีที่ว่าเค้าไม่ได้สนใจเราขนาดนั้นเรียกสุ่มๆไป เพื่อนผมเคยโดนเรียกเพราะตำรวจรวบเวปบอล แล้วสุ่มเรียกจากยูสเซอร์ กลายเป็นเพื่อนผมโดนเรียกไป สุดท้ายไม่ไปก็ไม่เป็นไรเค้าไปหาพวกคนบิ๊กๆมากกว่า

ตามหลักการแล้ว มีหมายเรียกอย่างเป็นทางการ ก็ต้องไปครับ
ส่วนโรงแรม ไม่แปลกที่เขาจะบอกให้ละเลย เพราะยิ่งละเลยมากยิ่งได้ประโยชน์กับเขา

ต้องถามก่อนว่าท่านมีส่วนร่วมในการทุจริตของโรงแรมด้วยป่าว

หรือไปพักแบบปกติไม่ได้ร่วมใช้โครงการเราเทียวด้วยกัน

ไม่ไปอาจเจอหมายจับครับ ต้องลองโทรประสานศาลดู ว่าจะวิดีโอคอนได้มั้ย

เข้าพักผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันจริงๆครับ



อันนี้ไปให้การที่โรงพักครับ น่าจะยังไม่ถึงศาล

ไม่สะดวกไปก็โทรแจ้งตำรวจเลยครับ ดีกว่าเงียบหายไปเฉยๆครับ

บอกเค้าว่าเราไม่สะดวกเดินทางไปครับ ขอความร่วมมือให้ปากคำ สน ใกล้บ้านครับ

ทางตำรวจจะทำหนังสือขอความร่วมมือมาเองครับ

ถ้าชั้นสอบสวนก็ง่ายหน่อยครับ คุยกับตำรวจได้ครับ

ของผม สภ.ภุเก็ต ทำหนังสือขอความร่วมมือ สภ.ในอำเภอที่ผมอยู่ไปให้ปากคำ

มีค่าเครื่องบินไหมล่ะครับ ถ้ามีค่อยไป

พ่อผมก็โดนนะ แต่หมายเรียกจะส่งมาที่สถานีตำรวจในภูมิลำเนา ก็ไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจอำเภออ่ะ ไม่ได้ไปจังหวัดอื่นนะ ปล.โรงแรมอยู่เชียงใหม่