ก่อนพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022/2023 จะเริ่มขึ้น ‘สกาย เบต’ บ่อนการพนันถูกกฎหมายในประเทศอังกฤษวางให้ ‘แฟรงค์ แลมพาร์ด’ กุนซือของ ‘เอฟเวอร์ตัน’ เป็นตัวเต็งที่จะโดนสโมสรปลดออกจากการเป็นโค้ชเป็นคนแรกของพรีเมียร์ลีก หลังจากนั้นลำดับของตัวเต็งก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่เรื่อยตามสถานการณ์

และในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งสื่อและแฟนบอลพรีเมียร์ลีกต่างก็จับจ้องไปยัง ‘สตีเว่น เจอร์ราร์ด’ นายใหญ่ของ ‘แอสตัน วิลล่า’ หลังจากที่ตำนานลิเวอร์พูลพาทีมพ่ายแพ้ให้กับ ‘เวสต์แฮม ยูไนเต็ด’ คาบ้าน ทำให้แฟนบอลสิงห์ผงาดออกมาเรียกร้องให้สโมสรปลดเจอรร์ราร์ดออกจากทีมทันที เจอร์ราดมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเป็นโค้ชที่ถูกปลดคนแรกของลีก ทว่าในท้ายที่สุดหวยดันไปออกที่ สก็อต พาร์กเกอร์!

ค่ำคืนวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม ‘ลิเวอร์พูล’ มอบความปราชัยให้แก่ ‘เอเอฟซี บอร์นมัธ’ ไป 9 ประตูต่อ 0 เหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าแฟนบอลเดอะเชอรร์รีส์ช็อคเป็นอย่างมาก ไม่มีใครรับได้กับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น ความผิดหวังถูกผสมไปด้วยคำถามที่มากมาย...และหนึ่งในคำถามที่เกิดขึ้นคือ เรื่องนี้เราต้องโทษใคร?



เมื่อวานนี้มีข่าวสายฟ้าผ่าเปรี้ยง เมื่อเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรบอร์นมัธออกมาแถลงว่าได้ทำการปลดพาร์กเกอร์ออกจากการเป็นกุนซือของสโมสรแล้ว ข่าวนี้สร้างความตกใจปนสงสารกับผู้คนเป็นอย่างมาก หลาย ๆ คนมองว่าสโมสรตัดสินใจเร็วเกินไป เพราะการแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นได้แค่ 4 นัด พาร์กเกอร์ควรได้โอกาสอีก 2-3 นัดเป็นอย่างน้อย

ในข่าวการปลดเก้าอี้ของพาร์กเกอร์ ‘แม็กซิม เดมิน’ หนึ่งในเจ้าของสโมสรเอเอฟซี บอร์นมัธได้ให้การณ์ทำนองว่า ทั้งตัวเขาและสโมสรจะยังคงจดจำผลงานที่พาร์กเกอร์และทีมงานร่วมทำกันมา การที่บอร์นมัธได้เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งถือเป็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร แต่งานในพรีเมียร์เป็นงานที่ยาก สิ่งที่พวกเขาได้ตัดสินใจและกระทำไปนั้น ทั้งหมดก็เพื่อความก้าวหน้าของทีม



ด้วยคำแถลงการณ์ของทางฝั่งบอร์ดบริหารของบอร์นมัธ ทำให้เราสามารถตีความเนื้อหาได้ว่าพาร์คเกอร์อาจจะยังไม่เก่งพอกับการรับมือพรีเมียร์ลีก

คำถามคือ...เรื่องที่เกิดขึ้นกับพาร์คเกอร์นั้น เป็นเพราะว่าเขาไม่เก่งจริง หรือเป็นเพราะความโชคร้ายที่เขาต้องพาบอร์นมัธไปเจอกับทีมใหญ่ของพรีเมียร์ลีกในช่วง 4 นัดแรกของฤดูกาล

ก่อนหน้านี้พาร์กเกอร์เคยออกมาบ่นบอร์ดบริหารเรื่องที่ไม่สนับสนุนเงินสำหรับการซื้อนักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีม ประเด็นนี้อาจจะเป็นตัวแปรที่ทำให้พาร์กเกอร์กับบอร์ดบริหารของบอร์นมัธบาดหมางกัน? และส่งผลให้พาร์กเกอร์ถูกปลดออกอย่างง่ายดายด้วยหรือเปล่า?

หลังจากที่ข่าวของพาร์กเกอร์ออกมาสู่สาธารณชน ‘เจเก้น คล็อปป์’ เฮดโค้ชของลิเวอร์พูลได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า “ตอนที่ผมรู้ข่าว ผมเองก็ตระหนักได้เลยว่าการมีเจ้าของสโมสรฟุตบอลที่ดี มันมีความสำคัญขนาดไหน”



จากนั้นคล็อปป์ก็พูดถึงรูปแบบการบริหารของทีม ก่อนจะปิดท้ายประเด็นของพาร์กเกอร์ว่า “3 ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ใช้เงินเสริมทัพนักเตะอย่างหนัก ซึ่งฟูแล่มเองก็ไม่ต่างกัน แต่ผมดันจำไม่ได้ว่าบอร์นมัธเสริมใครเข้ามาบ้าง ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ยากนะสำหรับโค้ช ผมเข้าใจความรู้สึกของสก็อตเป็นอย่างดี”

ตอนนี้ยังไม่ได้มีบทสัมภาษณ์อย่างจริงจังออกมาจากทางฝั่งของพาร์กเกอร์ เราจึงไม่รู้อย่างแน่ชัดได้ว่าเขามีมุมมองอย่างไรกับการเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ถึงแม้ว่าตัวเขากับทางสโมสรจะหาทางร่วมกันได้แล้วก็ตาม

หลังจากนี้พาร์กเกอร์คงได้มีเวลาให้พักผ่อนและคำนึงถึงทิศทางอนาคตของตัวเอง ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขามันนั้นมันเป็นเพราะความโชคร้ายหรือเพราะความสามารถของเขาเอง แต่ถ้าเขายังไม่ยอมแพ้ไปง่าย ๆ เราอาจจะได้เห็นเขาอีกครั้งหนึ่ง...ในฐานะเฮดโค้ชที่เก่งกว่าเดิม

_______________________
SoccerSuck พร้อมนำเสนอรายการที่ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล!
ผ่านทุกช่องทางของ SoccerSuck TH แล้วที่
Facebook: https://bit.ly/3DeU6BX
Instagram: https://bit.ly/3xzln0z
YouTube: https://bit.ly/3reBi3f
TikTok: https://bit.ly/3Oq18JC
Blockdit: https://bit.ly/3qU7B5G

โชคร้ายครับ แพ้แค่ทีมใหญ่ เจอทีมระดับกลางก็ชนะได้

บอร์ดน่าจะหาเรื่องเขี่ยทิ้งเพราะมีปัญหามากกว่า
4 นัด 3 แต้ม ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

มองว่า ทีมคงมอง ตกชั้นไม่เป็นไร ดีกว่าไปเสี่ยงเสริมทัพแล้ว ก้อยังตกชั้นเหมือนเดิม แค้พาร์กเกอร์ อยากทำทีมให้ดีกว่าเดิม เมื่อความเห็นต่างกัน สุดท้ายก้อต้องแยกย้าย

แค่ 4 นัด ตัดสินอะไรไม่ได้ว่าโชคร้าย/ไร้ความสามารถ (คงมีปัญหากะบอร์ดอยู่ก่อนแล้ว) ... จะบอกว่าโชคร้ายก็ไม่เชิงเจอ แมน ซิ อาเซน่อล ลิเวอร์พูล ซึ่งแพ้ทั้ง 3 นัดก็ไม่เป็นไร แต่มันก็แพ้เยอะไปหน่อย 4:0 3:0 9:0 เทียบกะน้องใหม่ด้วยกันอย่างฟูแล่ม 4 นัดแรกก็หนัก ทั้งลิเวอร์พูล กะ อาเซน่อล เสมอ 1 แพ้ 1 สู้ได้ดี แพ้ก็แพ้สูสี ... แค่ 4 นัด ปลดซะแล้ว ใจร้ายจริง แต่ตัวเต็งต่อไป เฮียเจิด กะ ป๋าแลมป์ น่าเป็นห่วงจริง จะรอดไหม

ตอนแรกคิดว่าซวย เจอ 3 ทีมใหญ่ถล่มยับ

แต่พออ่านข่าวนี้ บอร์ดบริหารห่วย

ไปดูฟูลแล่มสิ ตัวชุดเดิมๆจากเมื่อสองปีที่แล้ว แต่วิธีการเล่นต่างกันชัดเจน จากที่เล่นใครเล่นมันทีมเวิร์คไม่มี ไลน์การวิ่งไม่มี เปลี่ยนเป็นบอลมีระบบมีเพรสซิ่งมีทีมเวิร์คโดยที่นักเตะก็ชุดเดิมๆ