กินกันไม่ลง! 'นาโปลี' บุกเจ๊าม่วง 0-0 อดชนะรวด
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
นาโปลี บุกไปเยือน ฟิออเรนติน่า เจอเกมที่สูสีสุดๆ โดยทั้งสองฝ่ายมีโอกาสพอกัน แต่สุดท้ายจบลงด้วยการเสมอแบบไม่มีประตู ส่งผลให้ยอดทีมจากเนเปิ้ลส์อดทำสถิติชนะรวด 3 นัดติด แต่ยังกลับไปนำเป็นจ่าฝูง เซเรีย อา ได้ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า
ฟิออเรนติน่า
Starting Formation: 4-3-3
28.
ลูคัส มาร์ติเนซ ควาร์ตา

69'
6
3.
คริสเตียโน่ บิรากี้

79'
6
5.
จานโคโม โบนาเวนตูร่า

69'
6.5
11.
โจนาธาน อิโคเน่

60'
6
11.
ริคคาร์โด้ ซอตติล

79'
7
ตัวสำรอง
15.
อเล็กซ่า เตอร์ซิช

79'
6
14.
ยูสเซฟ มาเลห์

69'
6
8.
ริคคาร์โด้ ซาโปนาร่า

79'
6
98.
อิกอร์ ฮูลิโอ

69'
6
99.
คริสเตียน คูอาเม่

60'
6.5
กัลโช่ เซเรีย อา
สนาม อาร์เตมิโอ้ ฟรานชี่
29 สิงหาคม 2022
กรรมการ ลิวิโอ มาริเนลลี่
ฟิออเรนติน่า
0
0
นาโปลี
ฟิออวันนี้ไม่มี กอนซาเลซ จากปัญหาความฟิต โดย อิตาเลียโน่ ใช้แผน 4-3-3 คู่เซนเตอร์เป็น ควาร์ต้า จับคู่ มิเลนโควิช โดยตรงกลางมีตัวใหม่อย่าง บารัค สามประสานแนวรุกเป็น อิโคเน่, ซอตติล และ โยวิช
ขณะที่ สปัลเลตติ ใช้ระบบและตัวผู้เล่นเดิมจาก 2 นัดแรก แผงหลังมี มิน แจ บัญชาการ ตรงกลางมี ซีลีนสกี้ สร้างสรรค์เกมให้แนวรุกอย่าง โลซาโน่, โอซิมเฮน และ ควิชา ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง
ช่วงต้นเกมตึงๆ
ผ่านไป 15 นาที สองทีมระวังตัวอย่างหนัก ทำให้เกมส่วนใหญ่สู้กันกลางสนามและตัดฟาวล์กันบ่อยคร้ัง โดย ฟิออ ครองบอลเหนือกว่าเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่มีจังหวะจบทั้งคู่
โอซิมเฮนได้ยิงจ่อๆ มิเลนโควิชบล็อคได้
โลซาโน่ เลี้ยงลุยมาทางขวาจนเกือบสุดเส้นแล้วเปิดเรียดเข้ากลางให้ โอซิมเฮน แปเน้นๆ ในกรอบ 6 หลา มิเลนโควิช ยังประกบดีตามมาบล็อคไว้ได้
ซอตติลตัดยิง เมเร็ตมีกระฉอก
ซอตติล ได้บอลที่ฝั่งซ้าย ลากตัดเข้าขวาก่อนถึงกรอบเขตโทษแล้วกดเรียดๆ บอลเหมือนไม่มีอะไรแต่ เมเร็ต ทำหวาดเสียวด้วยการรับบอลกระฉอกออกมาหน้าปากประตู ดิ ลอเรนโซ่ ลนลานเตะเคลียร์ออกมาเข้าทาง โบนาเวนตูร่า ได้ซ้ำอีกทีหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น
ซอตติลลากตัด ยิงอีกรอบ
ซอตติลใช้ความเร็วขึ้นมาทางซ้าย เลี้ยงตัดเข้ากรอบเขตโทษ โยกหลอก ดิ ลอเรนโซ่ หนึ่งที่แล้วกดด้วยขวา บอลตรงตัว เมเร็ต คราวนี้ไม่มีกระฉอก
โอซิมเฮนยิงเข้าแต่ธงขึ้น
มิน แจ วางยาวให้ ซิลินสกี้ เติมเข้าไปทางซ้ายในกรอบเขตโทษ แล้วเปิดเข้าไปหน้าประตู กอลลินี่ ตะครุบได้แต่เอาไม่อยู่กระฉอกมาที่ โลซาโน่ ยิงติดบล็อคบอลมาเข้าทาง โอซิมเฮน แปเข้าประตูไปแบบง่ายๆ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงบอกว่า โอซิมเฮน ล้ำหน้าไปก่อน
ราห์มานี่โขกข้ามคาน
เริ่้มครึ่งหลังมา นาโปลี ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะเปิดที่ ซีลินสกี้ เปิดฟรีคิกให้ ราห์มานี่ ได้ขึ้นโขก แต่บอลข้ามคาน
ลอเรนโซ่เติมมายิงไม่ตรงกรอบ
โอซิมเฮน เก็บบอลได้แล้วป้ายออกขวาให้ โลซาโน่ ใช้ความเร็ววิ่งมาเปิดเรียดๆ เข้ากรอบเขตโทษ เป็น ดิ ลอเรนโซ่ เติมมาแปเน้นๆ ที่เสาแรก แต่บอลไม่ตรงกรอบ
โลซาโน่โหม่งโล่งๆ หลุดกรอบอีก
ต้นครึ่งหลัง นาโปลี ดูคึกคักขึ้น และได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ ควิชา เปิดจากซ้ายไปที่เสาสองให้ โลซาโน่ สอดมาโขก กอลลินี่ ตามมาปิดมุมไม่ทันแล้วแต่ โลซาโน่ โหม่งโดนไม่ดีหลุดกรอบออกหลังไป
ซอตติลยิงอีกแล้ว เมเร็ตเซฟเหมือนเดิม
ซอตทิล มีพื้นที่ลองกดเรียดๆ อีกครั้ง บอลตรงตัวและเมเร็ตรับเข้าซองได้เหมือนเดิม
ทั้งสองทีมเริ่มเปลี่ยนตัว
สปัลเลตติ ถอดเอา ควิชา ที่วันนี้เล่นไม่ออกไปพัก แล้วส่งตัวใหม่อย่างราสปาโดรี่ ลงมาแทน ส่วนทาง อิตาเลียโน่ ก็เปลี่ยนเหมือนกันส่ง คูอาเม่ ลงมาแทน อิโคเน่
ฟิออได้ลุ้นจากบารัค
คูอาเม่ ปั้มบอลชนะ มินแจ ได้แถวกลางสนาม แล้วพาขึ้นมาเองจากนั้นจ่ายออกซ้ายให้ ซอตติล ลากตัดทำท่าจะยิง แต่หลอกจ่ายเข้ากรอบเขตโทษให้ บารัค มีช่องได้ซัดด้วยซ้าย บอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้น
โยวิชได้โขกยังเบาไป
บิรากี้ ครอสจากซ้าย โยวิช มีพื้นที่ได้โหม่งแบบไม่มีตัวประกอบ แต่ระยะค่อนข้างไกลแถมโหม่งเบาไป เมเร็ต รับสบาย
ราสปาโดรี่ได้โอกาส
นาโปลีทำเกมสวนขึ้นมา โปลิตาโน่ จ่ายให้ ราสปาโดรี่ ได้หลุดเข้ากรอบเขตโทษไปแต่ กอลลินี่ ออกมาไว บล็อคไว้ได้
ซอตติลได้ยิงติดเซฟอีก
มาเลห์ จ่ายให้ ซอตทิล ได้ยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลยังตรงตัว เมเร็ต อีกแล้ว
ราสปาโดรี่กดเรียด กอลลินี่ซูเปอร์เซฟ
โปลิตาโน่ พาบอลมาจากฝั่งขวาตัดเข้ากลางแล้วจ่ายให้ ราสปาโดรี่ มีพื้นที่ได้ยิงเรียดด้วยซ้ายจากแถวหัวกะโหลก บอลเกือบเสียบเสาไกลแต่ กอลลินี่ ล้มตัวปัดปลายมือ
มีเดือดท้ายเกม
รุย เข้าหนักใส่ โดโด้ และไม่เสียฟาวล์ คูเอาเม่ มาเอาคืนทำเอาทั้งสองทีมหัวร้อนใส่กัน แต่สุดท้ายเหตุการณ์ไม่มีอะไรบานปลาย
จบเกม นาโปลี บุกมาเสมอ 0-0 ได้กลับไปนำจ่าฝูงด้วยลูกได้เสีย กลางสัปดาห์เตรียมเปิดบ้านรับ เลชเช่ ขณะที่ฟิออจะออกไปเยือน อูดิเนเซ่
นาโปลี
Starting Formation: 4-2-3-1
20.
ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้

61'
6.5
68.
สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า

77'
6
11.
เออร์วิง โลซาโน่

71'
6
77.
ควิชา ควารัทสเคลเลีย

61'
6
9.
วิคเตอร์ โอซิมเฮน

77'
6
ตัวสำรอง
91.
ตองกี เอ็นดอมเบเล่

77'
6
7.
เอลลิฟ เอลมาส

61'
6
21.
มัตเตโอ โปลิตาโน่

71'
6.5
81.
จานโคโม ราสปาโดรี่

61'
6.5
18.
โจวานนี่ ซิเมโอเน่

77'
6
แก้ไขล่าสุดโดย 69_420 เมื่อ Mon Aug 29, 2022 04:00, ทั้งหมด 37 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ