ไล่กัลลาเกอร์! บุญส่ง 'สิงห์' ยังรอด ราฮีมเบิ้ลชนะหืดจิ้งจอก 2-1
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
สิงห์บลูส์ เชลซี เจองานยากต้องเล่น 10 คนอยู่ 1 ชั่วโมง หลัง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ถูกไล่ออกตั้งแต่นาที 28 แต่สุดท้ายได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง รับบทฮีโร่ทำคนเดียว 2 ประตูต้นครึ่งหลังให้ทีมเบียดชนะ จิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ในเกมที่เจ้าถิ่นทำบุญมาดีโดนกดดันหนักแต่ไม่ถูกตีเสมอ
เชลซี
Starting Formation: 3-5-2
32.
มาร์ค คูคูเรญ่า

90+2'
7
5.
จอร์จินโญ่

75'
6.5
19.
เมสัน เมาท์

46'
6.5
17.
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

75'
8
ตัวสำรอง
28.
เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า

46'
6.5
21.
เบน ชิลเวลล์

90+2'
6
8.
มาเตโอ โควาซิช

75'
6
10.
คริสเตียน พูลิซิช

75'
6
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2565
กรรมการ พอล เทียร์นี่ย์
เชลซี
2
1
เลสเตอร์ ซิตี้
1-0 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 47'
2-0 ราฮีม สเตอร์อล่ง 63'
2-1 ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ 66'
เชลซี ไม่มี โธมัส ทูเคิล คุมทีมที่ข้างสนามจากโทษแบน 1 นัดหลังไปทะเลาะกับอันโตนิโอ คอนเต้ เกมเสนอสเปอร์ส 2-2
เอดูอาร์ เมนดี้ ยังได้รับไว้วางใจให้เฝ้าเสาต่อไปแม้จะทำพลาดเกมแพ้ลีดส์ 3-0 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนเลสเตอร์ เปลี่ยน 7 ตำแหน่งจากเกมดวลจุดโทษชนะสต็อคปอร์ท ในคาราบาว คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ โดย วิลเฟรด เอ็นดิดี้ มีชื่อเป็นตัวสำรอง ให้ บูบาการี่ ซูมาเร่ ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวโฮลดิ้งบอล
ชีคหลุดโล่งยิงติดบล็อคประตู
เชลซีดีกว่าตั้งแต่เริ่ม จังหวะนี้ สเตอร์ลิ่ง จ่ายให้ ลอฟตัส-ชีค หลุดโล่งทางขวา ต้องชม วอร์ด ที่ขยับออกมาปิดมุมได้ไว สามารถบล็อคลูกยิงช่วยทีมไว้ได้หวุดหวิด
ล้ำหน้าช่วยเลสเตอร์รอดจุดโทษ
ผู้ตัดสินเป่าให้เชลซีได้จุดโทษจังหวะ ทีเลอม็องส์ไปทำฟาวล์ใส่ลอฟตัส-ชีค
แต่สุดท้ายต้องกลับคำตัดสินให้ VAR ย้อนหลังตัดสินใจให้ฮาแวร์ตซ์ ล้ำหน้าไปตั้งแต่ต้องขึ้นเกมแล้ว
เกมเชลซีดีกว่าเยอะ
ผ่าน 15 นาที เชลซี ยังเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า ได้เดินเกมรุกกดดันแนวรับเลสเตอร์อย่างต่อเนื่อง
เชลซีเหลือ 10 ตัวหลังกัลลาเกอร์ไล่ออก
เชลซีต้องมาเหลือแค่ 10 คน หลังกัลลาเกอร์ ไปตัดฟาวล์รุนแรงใส่บาร์นส์ ที่กำลังโต้กลับ เปาเทียร์นี่ย์ ให้เป็นใบเหลืองที่สองถูกไล่ออกจากสนามไป
บาร์นส์โขกเข้าแต่ถูกจับฟาวล์เมนดี้
ตัวน้อยกว่า เชลซี โดนสอยประตูจนได้ จากลูกเตะมุม บาร์นส์เบียดเมนดี้ ได้โขกจ่อๆเข้าประตูไป
แต่สุดท้ายไม่ได้ประตู หลังผู้จัดสินเป่าฟาวล์ กีดขวางการเล่นของผู้รักษาประตู
เจมส์ซัดเน้นๆชนสามเหลี่ยม
เชลซี น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดจากเจมส์ ที่ิวิ่งเข้ามาหวดทางขวา บอลพุ่งผ่านมือวอร์ดไปแล้ว แต่ดันแม่นสามเหลี่ยมไม่ได้ประตู
วาร์ดี้ทิ้งโอกาสทองยิงหลุดเสาไกล
เลสเตอร์มีโอกาสทองอีกครั้งจาก วาร์ดี้ หลุดเข้าไปยิงตามน้ำ บิดข้อเท้ามากไปบอลวิ่งหลุดเสาไกลออกหลัง
เชลซีแก้เกมส่งเดฟแทนเมาท์
เชลซีแก้เกมถอดเอา เมาท์ ออกส่งอัซปิลิกวยต้า ลงสนาม
สเตอร์ลิ่งยิงฮุคเสียบใต้คาน 1-0
เริ่มเกมไปได้แปปเดียว เชลซี ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก สเตอร์ลิ่ง ซัดนอกกรอบไปแฉลบปลายสตั๊ดอามาร์ตี้ย์ บอลม้วนฮุคเสียบใต้คานเข้าประตูไป และเป็นลูกแรกที่ยิงให้ทีมใหม่ด้วย
สเตอร์ลิ่งยิงชนเสาน่าบวกเพิ่มอีกลูก
สเตอร์ลิ่ง น่าบวกเพิ่มอีกลูก จากเกมโต้กลับ บอลไปจบที่เขายิงติดเซฟปลายเท้าวอร์ด ลูกเปลี่ยนทางไปชนโคนเสา
เลสเตอร์เปลี่ยนอโยเซ่กับอิเฮียนาโช่มาแก้เกม
ตัวมากกว่าแต่โดนนำ รอดเจอร์สไม่มีทางเลือกต้องส่งตัวรุกลงมากู้สถานการณ์อย่าง อโยเซ่ เปเรซ และอิเฮียนาโช่
สเตอร์ลิ่งชาร์จจ่อๆหนีห่าง 2-0
เกมเลสเตอร์กดดันไม่ได้มากนัก และต้องมาโดนประตู 2-0 จากลูกเปิดที่สุดเส้นหลังของเจมส์ ผ่านหน้าปากประตูมาเข้าทาง สเตอร์ลิ่งแทปอินง่ายๆเข้าไป
บาร์นส์ยิงมุมแคบให้เกมยังไม่ขาด 2-1
เกมยังไม่จบ วาร์ดี้้ทำชิ่งให้ บาร์นส์ หลุดทางซ้ายยิงยัดเสาแรกเข้าประตูไป เลสเตอร์ปลุกความหวังไล่มา 2-1
เลสเตอร์กดดันหนักมาก
เลสเตอร์กดดันหนัก น่าตีเสมอได้จากลูกยิงบาร์นส์ และชาโลบาห์ที่เกือบสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง
เมนดี้ช่วยเซฟลูกยิงวาร์ดี้
โอกาสทองของเลสเตอร์ จากทีเลอม็องส์ วางบอลให้ วาร์ดี้ ดูดบอลลงไม่ล้ำหน้า แต่สุดท้ายยิงไปติดเซฟเมนดี้ ที่ขยับออกมาปิดมุมได้ไว
เมนดี้หลุดเดี่ยวแต่ยิงไม่เข้า
วาร์ดี้ เอาชนะชาโลบาห์ หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับเมนดี้ แต่จังหวะสุดท้ายล็อคหลบมุมเหลือน้อยยิงหลุดกรอบเข้าข้างตาข่ายไป
เชลซียังรอด อโยเซ่ ยิงชนคาน
เชลซียังรอด อโยเซ่ สบโอกาสได้ยิงจ่อๆ ลูกก็ดันแม่นคานอีก
เลสเตอร์ขยี้หนักมาก แต่เชลซียังรอด หมดเวลาการแข่งขันเบียดเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ หืดจับ 2-1
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-5-1
22.
คีแรน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์
6
26.
เดนนิส ปราท

55'
6
42.
บูบาการี่ ซูมาเร่

55'
6
8.
ยูริ ทีเลอม็องส์

89'
8
ตัวสำรอง
25.
วิลเฟรด เอ็นดีดี้

89'
6
14.
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

55'
6
17.
อโยเซ่ เปเรซ

55'
7
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Sat Aug 27, 2022 23:45, ทั้งหมด 21 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ