ผมเรียนจบทำงานเป็นSite engineer ได้2ปี

แล้วรู้สึกว่าไม่ชอบงานสายนี้เพราะจบโครงการก็ต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ

(ผมชอบงานที่อยู่กับที่มากกว่าเลยคิดว่าน่าจะชอบสายออกแบบ)

ตอนนี้ผมลาออกจากงานมาเรียน วศ.โยธา ปโท เป็นภาคเสาร์-อาทิตย์

ทีนี้ผมอยากจะหางานทำแต่หายากเหลือเกินงานที่ทำแค่ 5 วัน

ผมลองหางานเกี่ยวกับ design ก็รับคนมีประสบการณ์อีก

แล้วด้วยเกรดวิชาออกแบบผมตอนปตรี มากสุดแค่ C ด้วยก็เลยไม่รู้จะหางานทำได้มั้ย

สมัครไปหลายที่แล้วก็ไม่มีติดต่อกลับมา มีแต่พวกsite eng. ซึ่งก็ทำงาน6วันอีก

เลยอยากสอบถามควรพัฒนาตรงไหนหรือเริ่มทำอะไรดีครับ

หรือมาช่วยแชร์สำหรับคนที่คนที่เกรดน้อยแต่ทำสายออกแบบหน่อยครับ

ผมเรียนจบมาตอนปี 2547 เป็น Site Engineer ในบริษัทรับเหมาท๊อป3ของประเทศได้เกือบๆ 3 ปีสายงาน Infrastructure ครับ
แล้วช่วงนั้นบริษัทกำลังจะ Build ทีมออกแบบ จับผลัดจับผลูยังไงไม่รู้มาเลือกผมไปร่วมทีมอเวนเจอร์ซะงั้น เห็นว่าเลือกจากเกรดเฉลี่ยตอนจบป.ตรี แต่บริษัทก็ถามความเห็นนะครับไม่ได้บังคับ

ผมถามไปว่าได้อยู่ตาม Site เหมือนเดิมไหม เพราะผมชอบฟีลนี้ครับ ได้ไปรู้จักร้านอาหาร Local ตามที่ๆเราย้ายไป ได้เปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อยๆไม่เบื่อดี แต่ตอนนั้นแอบคิดว่ายังเร็วไปที่จะไปอยู่สาย Design ครับ เพราะบางครั้งประสบการณ์หน้างานจะทำให้เรามีไอเดียในการ Design ที่ดีกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ สุดท้ายยอมไปเพราะตอบโจทย์ที่ว่ายังได้ไปอยู่ตาม Site และยังสามารถออกไปดูงานหน้างานได้ด้วย แค่ไม่ต้องไปคุม ไปดูเพื่อให้เห็นจริง ดูความสอดคล้องในสิ่งที่เราออกแบบกับพื้นที่หน้างาน รวมถึงเอามาเขียน Method Statement ประมาณนี้ครับ

ส่วนคำถามท่านผมคิดว่าที่เหมาะที่สุดและเป็นไปได้ที่สุดตอนนี้สำหรับท่านน่าจะลองไปสมัครบริษัท Consult ดูก่อนครับ เพราะงาน Consult ส่วนใหญ่จะตรวจงานคนอื่นได้ ต้องแม่น Spec หรือ Code มากๆครับ รวมถึงการดูแบบอ่านแบบ ซึ่งมันจะทำให้ไปต่อยอดงานออกแบบได้ง่ายกว่างานผู้รับเหมาครับ และส่วนใหญ่สาย Consult งานจะไม่ยุ่งเท่าผรม.ก็อาศัยอ่าน Code รับงานนอกออกแบบเล็กๆน้อยๆ สร้าง Spreadsheet เก็บไว้เรื่อยๆครับ พอไปสายออกแบบจะได้มีอาวุธพร้อมมือก่อนไปครับ

>> เป็นปกติครับ ถ้ามองภาพกว้างๆ มันมีปัจจัยอยู่ 2-3 อย่าง อย่างเช่นเรื่องกฏหมายแรงงาน, ค่าแรงของวิศวกร, productivity rate ของงานครับ เลยกลายเป็นว่าต้องมาทำงานกัน 6 วันแบบที่เห็นนั่นแหละ



>> ผมว่าเกรดไม่เกี่ยวครับ ของทุกอย่างต้องมาเรียนรู้ มาดู concept กันใหม่หมด แต่ "ข้อได้เปรียบ" ของการมีประสบการณ์หน้างานไปทำ design คือ "คุณจะเห็นว่าของที่ design มามันสร้างกันยังไง" ครับ ซึ่งมันรวมไปถึง stage of construction ที่ต้องพิจารณาด้วย

ส่วนเรื่อง consult กับ contractor ผมว่ามันยากกันคนละแบบครับ (ไว้ว่างๆจะมาเล่าให้ฟัง)

แต่สิ่งที่ผมอยากแนะนำคือถ้าอายุงานไม่ถึง 5 ปีไม่แนะนำให้ไปทำ consult ครับ เพราะยังจับ concept จับ detail งานไม่ค่อยได้ครับ

ผมไฟฟ้านะครับ แต่น่าจะมีความคล้ายกันอยู่

ผมทำบริษัทออกแบบนี่แหละ มีพี่ที่ทำงานไฟฟ้าด้วยกัน ช่วงปีสองปีแรกแกก็เป็นsite engineerนี่แหละ แล้วค่อยขยับมาทำงานออกแบบ ๆม่แปลกอะไรฮะ

ถ้าจะย้ายสายตอนนี้เลยผมว่าได้นะ ลองยื่นดูเลยก็ได้ตรับ การทำงานsiteมาก่อนมีข้อได้เปรียบเล็กๆด้วยนะคือจะรู้ดีเทลงานติดตั้งดีกว่าสายออกแบบล้วนๆตั้งแต่แรกเลย อย่างพี่คนที่ผมว่าแกจะรู้ดีเทลการติดตั้งดีกว่าคนอื่นๆใรทีมชัดเจนเลย

แต่ก็ขึ้นชื่อว่าสายออกแบบสิ่งสำคัญจริงๆคือแม่นทฤษฏีกับมาตรฐานมากกว่าฮะ แต่พวกนี้เรียนรู้กันได้ครับไม่ต้องกังวล สายออกแบบทุกคนเลยไม่มีใครแม่นเป๊ะๆมาแต่แรกเลย มันมาเรียนรู้จากงานหมดฮะ แถมท่านได้เปรียบเล็กๆจากประสบการณ์siteด้วยฮะ

สไตล์นี้ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินแนะนำ ฮึดสู้อ่านหนังสือ สอบราชการกับรัฐวิ ครับ
ขออยู่หน่วยงาน design engineer

ผมแนะนำ ให้ฝึกพวกซอฟแวร์ดีไซน์ ให้คล่องๆไว้ก่อนครับ เวลาเขาสัมภาษณ์จะได้ตอบได้ หรือเอาไปใส่ใน cv ได้
ถ้าเกรดไม่สูง คำนวณไม่เก่ง ไม่จำเป็นต้องเป็น structure engineer ก็ได้ มาลองดูพวก designer 3D เน้นทำแบบ ทำdrawing ทำโมเดล3D งานเพียบ งานเยอะ ได้ทำงาน5วันด้วย โปรแกรมengineerก็พวก staad pro, sap2000
ส่วน designer ฝึกพวก revit, autocad, tekla,
ลองหางานพวกดีไซเนอร์ดูครับ จะคำนวณน้อยกว่า

ผมว่าถ้าพอมีประสบการณ์เป็น Site eng. ลองเปลี่ยนมาเป็น QS ดูมั้ยครับ แล้วค่อยต่อยอดไปเป็น design

หัด BIM (Revit) ก่อนเลยครับ
ภาษีจะดีกว่าคนอื่น
พวกโปรแกรมออกแบบใช้ให้คล่อง
ETABs
SAP2000
SAFE
Staad pro

แต่เอาจริงๆพวกนี้มีตัวเทพๆในวงการเยอะมาก
Meinhardt
Aurocon
และอื่นๆ
ถ้าจะเอา Pure design จริงๆ

ลองไปหา บ รับเหมา ที่ทำ Design ด้วย
หรือไม่ก้ให้อาจารย์ปโทช่วยดูให้ครับ น่าจะคอนเนคชั่นเยอะ