พอ ๆ กับ Ghost Lap เริ่มดีแต่จบแบบ อิหยังวะ

เหมือนเอาหนัง 2 เรื่องมาต่อกัน ซึ่งถ้าแยกช่วงแรกกับช่วงหลังเป็นหนังคนละเรื่องไปเลยจะออกมาดีทั้งคู่

แต่พอมันอยู่ในเรื่องเดียวกันมันไม่เข้ากัน

ช่วงแรก เย็นๆ กดดัน หลอนแบบเนิบๆ

ช่วงหลัง เป็นหนังบู๊เอาตัวรอดไปเลย

ผมให้ทั้งเรื่อง 5/10 แต่ถ้าเอาแค่ถึงครึ่งเรื่องให้ 9/10

เสียดายมันควรจะทำได้ดีกว่านี้มาก เหมือนพยายามจะเอาทั้งสองทางจนมันพังไปเลย

หนังดีแค่ต้นเรื่องอะ ถ้าเป็น VCD เมื่อก่อน คือสามารถปาแผ่น 2 ทิ้งได้เลย

จบโคตรเลวร้าย
ได้แต่ด่าผกก. หลอกกุนั่งดูตั้งนาน สรุปเสียเวลา ดูรอบเดียวพอเลย

ฉากฉีกเสื้อ ทำผมตกใจเลย
จริงๆ มันไม่ต้องเป็นบทแบบนี้ นะ
น้องเล่นเปลืองตัวไปหน่อย จริงๆ แค่การแสดง อยาางอื่นก็กินขาดละ

ตอนต้นเรื่องดูลึกลับดี
แต่ท้ายเรื่อง อิหยัง วะ
ถ้าไม่เป็นแบบซอมบี้ น่าจะหักมุม จบหลอนๆ ไปเลย หนังน่าจะปังกว่านี้

สำหรับผมค่อนข้างชอบนะครับ ตอนนั้นไปดูคนเดียวรอบประมาณสี่ทุ่ม ตอนดูในโรงหนังสร้างบรรยากาศให้รู้สึกกลัวโดยที่ไม่มีผีโผล่มาเลย ถึงหนังช่วงหลังๆจะออกแนวอะไรวะ แต่ก็ถือว่าสร้างความบันเทิงให้ผมได้ดีครับ

ไม่ชอบตอนจบ ยิ่งตากล้องยิ่งไปใหญ่ จะถ่ายจนกว่าจะตายไปเลยรึไง

มีจุดเอ๊ะๆไม่ชอบนิดหน่อย แต่ภาพรวมคือชอบมาก

ท้ายเรื่องกลายเป็นหนังซอมบี้เฉยเลย

ชอบมาก ไม่เคยมองหนังผีไทยน่ากลัวแม้แต่เรื่องเดียวที่คนว่าน่ากลัวๆ ชัตเตอร์ นู่นนี่ โคตรเฉย มีเรื่องนี้ได้ฟีลอยู่

สำหรับผมถือว่าดีมากๆ นะ ไม่เห็นหนังผีไทย ดีๆ แบบนี้มานานมากละ

ก็ชอบนะ แต่ชอบไม่สุด
หนังเปิดเรื่องมาแบบที่ไม่เคยเห็นหนังไทยทำแนวนี้มาซักเท่าไหร่
ไม่ต้องมีผีตุ้งแช่แบบหนังผีส่วนใหญ่ แต่การวางจากวางบทก็ทำเอาหลอนได้ ทำให้ช่วงแรกดูแล้วอินเลย
นักแสดงเล่นดีมาก ฉาก บท พล็อตคือเพอร์เฟ็ค

ซึ่งว่าจะว่ากันจริงๆ ช่วงแรกมันเป็นหนังของโต้ง บรรจง ช่วงหลังเป็นหนังของนาฮงจินชัดๆ
เสียดายที่โต้งบรรจงไม่ได้เป็นคนทำหนังเรื่องนี้เองทั้งหมด การเอามา mix แต่ไม่ match เสียดายของมากๆ

จุดเริ่มของครึ่งหลังสำหรับผม เอาชัดๆเลยก็คือช่วงปราบผี ฉากนั้นคือ signature ของนาฮงจินชัดๆ
แต่เฮียแกเล่นก้อปฉากไล่ผี จาก The wailing มาแบบ99%เลย น่าผิดหวังมากๆ

หลังจากนั้นความเลอะเทอะ ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ถึงจะบอกว่าความเลอะเทอะ เลือดสาดเป็น อีก signature นึง
สำหรับ The wailing, The chaser คือดี แต่พอมาร่างทรง เหมือนเอาชื่อเสียงมาทิ้งเลย ในช่วงหลังๆ

ถ้าตัดตั้งแต่ช่วงปราบผีออกไป แล้วให้โต้งเขียนบทเอง กำกับเองแบบ 100%
ผมว่าสามารถเป็นหนังขึ้นหิ้งได้สบายๆเลย ลองคิดดูว่าไม่มีผีเลอะเทอะวุ่นวาย ไม่มีซอมบี้หมานั่น
แล้วใช้สไตล์ของโต้งเอง อย่างพวกชัตเตอร์ สี่แพร่ง ห้าแพร่ง มาผสมเข้าไป น่าจะดีได้กว่านี้มากๆ

ชอบทุกอย่างยกเว้นพวกตากล้อง ตอนจะจบนี้อะไรของมันว่ะเนี่ย

ชอบแค่ครึ่งแรก ครึ่งหลังเลอะเทอะเกิน

หนังมันจะดีอยู่ละยกเว้นตอนจบคนไทยอย่างเราๆไม่อินเลย ทำไปแมวอะไร

แต่ต่างชาติชอบกันนะมันดูคาดเดาไม่ได้