[RE: สอบถามช่างทำเฟอร์นิเจอร์หน่อยครับ]
เรื่องเนื้อไม้
Particle : เศษไม้มาอัดกาวเป็นแผ่น
MDF : ขี้เลื่อยอัดแผ่น
ถ้าพูดถึงเรื่องทนน้ำ เอาจริงๆขึ้นชื่อว่าไม้อัดถ้ามีกาวมาเกี่ยวข้องมันก็ไม่ทนทั้งนั้นแหละครับ แต่ทนได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง อย่างพวก particle ,MDF มันโดนน้ำบ่อยๆก็บวมปูด แต่พวกนี้มันมีข้อดึคือ มันปิดผิวได้หลายลายมาก ปิดได้ทั้งเป็นเมลานีน หรือ ปิดผิวลามิเนต
เอาจริงๆถ้าถามผมตรงๆนะ เรื่องความทน MDF, กับ Particle ก็ไม่ได้ต่างกันมากหรอก พวก Furnitureบ้านผมที่เป็น Particle ที่เป็นพวกโต๊ะคอม ใช้มา20ปีวางจอคอมมาตั้งแต่สมัยจอตู้หนักๆ ตัว Topผมเมลานีนมันยังไม่แตกเลย
ข้อดีของ MDF ที่ผมเห็นว่ามันเหนือกว่า Particleแบบจริงๆจังๆคือเรื่องของการอัดลายเนี่แหละ มันสามารถให้โรงงานที่ผลิตไม้ทำออกมาเป็นลายได้แบบตามรูปนี้ (อันนี้เป็นงานที่บ.ที่บ้านผมผลิตแล้วไปติดตั้งมา)
อะมาพูดถึงเรื่องความทนทานก่อน , อย่างที่บอก ขึ้นชื่อว่าไม้อัด มีกาวเข้ามาเกี่ยวเจอน้ำเข้าไปยังไงก็บวมครับจะไม้อัดอันไหนก็เหอะ มันอาจจะไม่บวมทันที แต่ถ้าเจอบ่อยๆติดๆกันซักปีสองปี ยังไงก็ไม่รอดครับ คือถ้าคุณเอาน้ำเย็นใส่แก้วมาวางทีโต๊ะคอม ต่อให้มีจานรองแก้วมันก็ยังมีความชื้นที่ลงไปถึงอยู่ ต่อให้มันไม่บวมปูดจนทำผิวแตก แต่เวลาลูบๆยังไงๆก็สัมผัสได้ถึงความบวมที่เกิดขึ้นอยู่ดีแหละครับ บางทีก็ทำผิวเมลานีนเสียไปเลยก็มี (ถ้าเป็นผิว Gross แล้วเสีย ลองลูบๆดูจะเห็นว่ามันสากและขรุขระขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด)
อยากได้ไม้ที่ทนน้ำจริงๆไม่บวม ต้อง Plywoodเลยครับ แต่พวกนี้ก็จะแพงยับๆเลยนะ แล้วก็ไม่สามารถเล่นลูกเล่นเรื่องสีผิวหน้าหรือลายได้เท่าพวก Particle กับ MDF ด้วย
ผิวไม้ : อันนี้ต้องแยกก่อน คือผิวปิดไม้พวกนี้มันมี 4แบบหลักๆคือ
ผิวกระดาษธรรมดา : ข้ามไปเหอะครับ กากสรัดๆ
PVC : หนา แต่ให้สัมผัสแบบ plastic เรื่องลูกเล่นความสวยงาม ผมว่าสู้ เมลามีน หรือลามิเนตไม่ได้ แต่เรื่องทนกับรอยขีดข่วนดีกว่าเมลานีน
เมลานีน : ข้อดีคือมีลายต่างๆให้เลือกเยอะมาก ถ้าอยากได้พวกผิว Grossingก็ต้องตัวนี้แหละ ลายมีเยอะมาก ไม่ว่าจะลายไม้หรือลายหินอ่อน แต่เรื่องผิวสัมผัสถ้าอยากได้เป็นแบบลายไม้ที่สัมผัสแบบไม้จริงๆ สู้ลามิเนตไม่ได้ ที่สำคัญคือ เมลานีนมันทนกับรอยขีดข่วนไม่ค่อยได้
Laminate : คนแก่ๆในวงการบ้านเราชอบเรียกติดปากว่า โฟเมก้า ,จริงๆแล้วโฟเมก้าแม่งเป็นชื่อบ. ที่ผลิตผิวลามิเนตนะ , ข้อดีของพวกลามิเนตคือ ทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่า เมลานีน (เมลานีนโดยทั่วไปคือมันบางมาก) กันน้ำได้ดีกว่า ที่สำคัญคือถ้าอยากทำขอบไม้เป็นมนๆโค้งๆแล้วปิดผิวด้วย ลามิเนตมันทำได้ แต่ข้อเสียคือมันแพงกว่าลามีเนตเยอะมาก คือบวกไปอีกเลยราวๆ 1500+ต่อแผ่น
ความทนทานของไม้ , ไม้โก่ง ตกท้องช้าง etc : ตรงนี้ต้องอธิบายก่อนว่า โรงงานผลิต Furniture ส่วนใหญ่แล้ว ไม่ได้เป็นคนผลิตไม้เองนะครับ ไม้อัดพวกนี้จะสั่งมาจากโรงงานผลิตไม้ต่างหากอีกที ซึ่งแต่ละเจ้าที่ผลิตFurให้ เมื้อไม้ดีไม่ดี หลักๆมันขึ้นกับเกรดไม้ที่เขาสั่งมามากกว่า ซึ่งไม้อัดพวกนี้ มันมีหลายเกรดนะ เกรดห่วยๆก็ไปดูพวกโต๊ะคอมที่ขายในBigC ตัวถูกๆอะครับ แบบนั้นแหละ Particle เกรดดีๆระดับส่งออกนี่คือก็แพงนะครับแต่แข็งเนื้อแน่นตั๊บๆเลย ไอ้ที่บอกว่าไม้ Particle มีอากาศข้างใน อ่อนไม่ทน เสียงกลวงๆหน่อยเวลาเคาะเนี่ยคนละเรื่องเลยนะครับพวกเกรดดีๆขนาดราคาขายส่งแบบซื้อที2-3คันรถ10ล้อยังแพงกว่าพวกParticleที่ขายปลีกกันในwebไปไกลเลยนะ
ไม้โก่งไม่โก่ง มันขึ้นกับหลาย ปัจจัยมาก เช่น
- เกรดไม้
- การออกแบบ Fur เช่น โต๊ะคอม ถ้าเป็นโต๊ะยาว 160 cm วางของหนักๆ ถ้าไม่มีคานมาช่วย เอาจริงๆไม้แท้อย่างสักมันก็ตกท้องช้างได้ครับ
- ความหนาของไม้ที่เอามาทำ Top พวก Fur ถูกๆมันก็ลดต้นทุนเรื่องพวกนี้แหละTopแม่งบางฉิบหาย ไม่ต้องวางของอะไรหรอก แค่น้ำหนักไม้ของมันเองก็แอ่นแล้ว
- กรณีหน้าบานตู้มันตกหรือเอียงลงมา , หลักๆเลยก็อยู่ที่ นน หน้าบาน ยิ่งหนัก (หน้าบานสูง หรือกว้างมากๆ) มันก็ยิ่งทำให้หน้าบานตก กับอีกอย่างคือคุณภาพของบานพับ กับจำนวนที่ใช้ บานพับดีๆตัวละ 200-300 นะครับพวกเกรดส่งออกเนี่ย (นี่ราคาส่งด้วยนะ) อีกอย่างก็เป็นเรื่องของจำนวนบานพับที่ใช้ด้วย , อันนี้ยกตัวอย่างเลย อย่างบ้านผมเนี่ยตู้Buildinในห้องนอนหน้าบานคือสูง 2.22 ม. กว้าง54cm ติดกระจกเข้าไปด้วยแบบเต็มหน้าบาน ใช้มา 10ปีทุกวันนี้ยังตรงอยู่นะครับ ไม่โก่ง ไม่ตก บานพับสภาพยังดีเปิดมาไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดไม่ติดขัด สมู๊ทแบบตอนติดตั้งเลย แต่เพื่อรับน้ำหนัก อันนี้ติดบานพับไป4ตัวต่อ1บานนะ
แบบตู้ที่ห้องนอน
ความทนของผิวไม้ : เรื่องความทนของการปิดผิวว่าจะลอกไม่อยาก ทนหรือไม่ทน อันนี้ขึ้นกับฝีมือ และ เครื่องจักรล้วน และ เกรดของผิวที่ใช้ล้วนๆนะครับ
เมลามีน : อันนี้ถ้าว่ากันตามจริง การปิดผิวแบบ เมลามีน มันต้องใช้เครื่องจักรที่แพงมากๆและไม่ได้ทำด้วยมือ ตัวเมลามีนเองก็มีเกรดของมันอยู่ ถ้ายิ่งหนาก็ยิ่งแพง พวกงานเมลานีนพวกนี้ ต่อให้เป็นโรงงานใหญ่ๆส่วนมากก็ไม่ได้ทำเองหรอกครับ ส่วนมากคือสั่งไม้มาแล้วสั่งให้โรงานผลิตไม้พวกนี้มันปิดผิวมาเป็นลายที่ต้องการให้เลย ดังนั้นถ้าคุณไปให้โรงงานผลิตFurห้องแถวทำเฟอให้คุณเลือกได้เลยครับ จ่ายแพง extra ก็ไปขอให้เขาเลือกไม้เกรดดีๆผิวดีๆมาให้ได้
ลามิเนต : พวกที่มีปัญหาผิวลอกง่ายๆ ปัญหาพวกนี้คือส่วนมากมาจากงานเฟอจากโรงงานห้องแถวที่ใช้วิธีปิดผิวด้วยมือคนอะครับ ปรกติแล้วถ้าเป็นงานโรงงานใหญ่ๆ หรือจะเอาทนๆเลยคือเขาจะสั่งไม้เปล่ามาแล้วส่งไปให้โรงงานที่ทำผิว Laminateไปปิดให้อีกที ถ้าเป็นแบบนี้คือเขาจะปิดผิวด้วยเครื่องจักร เรื่องความแน่นของกาว ความทนต่างๆก็คนละเรื่องกันเลยครับ แต่ก็อย่างที่บอก ส่งโรงงานไปปิดผิวก็บวกไปเลยราว1500 ต่อแผ่น ถ้าผมจำราคาไม่ผิดอะนะ
งานปิดขอบไม้ : ก็ขึ้นกับเกรดของขอบที่ใช้กับเครื่องจักรที่ใช้ปิดขอบ แต่ส่วนมากไม่ค่อยเห็นปัญหาเรื่องขอบลอกหรือเปิดเผยอนะ ส่วนมากเป็นเรื่องปิดขอบแล้วเนี๊ยบ หรือไม่เนี๊ยบมากกว่า ถ้าเป็นโรงงานห้องแถวก็จะเป็นเครื่องเล็กๆตัวหลักหมื่น ใช้แรงคนดึงไม้แล้วเอาไปอัดแนบกับขอบอาจจะปิดได้ไม่แน่นเท่ากับพวกโรงงานใหญ่ที่ใช้เครื่องจักรแรงดันลมปิดให้ , คือเอาจริงๆคือมันต้องมีความต่างเรื่องคุณภาพบางอย่างแหละ ไม่งั้นพวกเครื่องจักรปิดขอบตัวละ2ล้านupมันขายไม่ได้หรอก
สรุป : ถ้าจะหาคนทำ Buildin แล้วอยากได้ทนๆแน่นๆแข็งแรงหน่อย เอาจริงๆถ้าไม่ได้ติดปัญหาเรื่องdesignบางอย่าง( เข่นทำซุ้มโค้งเว้าเข้าไปเหมือนซุ้มประดู)ก็ใช้ไม้ Particle ไปเหอะครับเกรดดีๆมันดีกว่าที่คุณคิดกันไว้เยอะมาก แล้วมันเป็นงาน Knockdown ถอดย้ายง่ายด้วย ,หรือถ้าอยากให้ไม้หน้าบานที่มีลายแบบตามรูปก็ไม้ MDF ไป แต่อยากนึงที่จะบอกเลยคืองาน Buildin แบบCustomแม่งไม่มีราคาถูกเพราะมันคือการออกแบบตามspecลูกค้าเลย ทุกครั้งที่ผลิต มันคือการตั้งไลน์การผลิตใหม่ โรงงานขนาดเล็กหรือโรงงานห้องแถวก็จะได้เปรียบเรื่องนี้เพราะเขามีความ Flexibleกว่าเยอะมาก , อยากได้ของดีๆก็ลองคุยกับเขาดูว่าเพิ่มเกรดไม้ เกรดผิวอะไรได้บ้าง แล้วราคาจะเป็นเท่าไหร่ ,พวกนี้เพิ่มได้ไม่ยากอยู่แล้วเพราะส่วนมากโรงงานFurไม่ได้ทำเอง ก็แค่ไปสั่งไม้แบบที่ต้องการมาเพิ่มแค่นั้น พวกอุปกรณ์อื่นๆเช่น รางเลื่อน บานพับ พวกนี้สั่งมาเพิ่มได้อยู่แล้ว อยากได้เกรดดีๆก็ไปคุยขอเพิ่มspecได้ไม่ยากหรอก แต่ถ้าคุณอยากได้ของแบบเกรดเทพๆงานเนี๊ยบๆและงบถึง ลองไปคุยกับพวกโรงงานใหญ่ๆหน่อยดูครับ(พวกที่ไม่ใช่โรงงานห้องแถวอะ เป็น Properโรงงานเลย) บางที่ก็รับทำงานCustom buildin นะ ข้อดีคือพวกโรงงานใหญ่ๆพวกนี้เครื่องจักรเขาเกรดมันดีกว่า ใช้แรงงานคนน้อยกว่าโอกาศที่จะผิดพลาดด้วยการทำงานของคนก็น้อยกว่า แต่ราคาพวกนี้ต่อชิ้นคือแพงมากนะ อย่างบางบ้านที่ผมเคยเห็น เป็นห้องนอนใหญ่กับห้องแต่งตัวเนี่ย โดนไป2ล้านก็มีนะครับ
ถ้างบไม่เยอะมากแต่อยากได้ของดี , ไปวัดขนาดห้องทำ Plan มาแล้วเดินเข้าพวก Index, SB, Modern form ให้ทาง interior ของเขาออกแบบให้ครับ ถึงคุณจะไม่ได้ Furที่แบบ Buildin แบบเข้าเสาเป๊ะๆ แต่มันก็ใกล้เคียงแหละแล้วก็ออกมาดูดีด้วย เรื่องราคา ,quality ต่างๆแล้ว เจอ Economy of scale ของพวกนี้เข้าไปยังไงก็เป็นอะไรที่คุ้มเงินสุดละครับ
[/img]