เอาที่ไหนมาพูดว่า "อเมริกาสู้จีนลำบาก"

สนธิมั่วไปเรื่อย ในโลกนี้ยังไม่เคยมีมหาอำนาจไหนในโลกที่มีศักยภาพและเงื่อนไขทางภูมิศาสตร์เทียบเท่าอเมริกาได้เลย

ต่อให้สหรัฐฯ เผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่จะไม่มีทางรู้สึกไม่มั่นคงในทางยุทธศาสตร์เลยเพราะเป็นรัฐที่มีเขตแดนมหึมาที่มีมหาสมุทรล้อมรอบ

กลับกันจีนต่างหากที่จะพบกับสภาวะไม่มั่นคงตลอดเวลาเพราะมีพรมแดนร่วมกันกับ 14 ประเทศ มีปัญหารอบด้านเลย นี่คือปัญหาเดียวกันกับเยอรมนีที่เคยเจอสมัยก่อนโน้น ไม่ได้บอกว่าจีนจะแซงไม่ได้ แต่แค่บอกว่าภูมิรัฐศาสตร์ของจีนไม่เอื้อให้เขาสถาปนาความเป็นใหญ่ได้นานเท่ากับสหรัฐฯ

นี่คือเหตุผลที่จีนต้องสร้างยุทธศาสตร์ BRI และยุทธศาสตร์สร้อยมุกทางทะเลที่เคยทำมาก่อนหน้า เพราะกังวลเรื่องวงล้อมด้วยและอื่น ๆ อีก

ยังไม่นับรวมว่าจีนไม่เคยทำสงครามข้ามทวีปเหมือนสหรัฐฯ คือเวลาคนพูดเรื่องสงครามจีน-สหรัฐ นี่ผมนึกภาพไม่ออกมึงจะรบกันตรงไหน เอาแค่การลำเลียงคนก็ลำบากแล้ว จีนเพิ่งมีเรือบรรทุกเครื่องบินกับเขาจะลำที่สามเอง ลำแรกไปซื้อต่อเขามาด้วย เอาแค่จีนจะไปยึดดีซีนี่ก็ปวดหัวแล้ว ไม่รู้จะไปยังไง เรื่องนิวเคลียร์ไม่ต้องห่วงมันเป็นอาวุธที่มีแต่ใช้ไม่ได้

คือถ้าจะรบกันจริงคงทำนองว่าสนับสนุนไต้หวัน สมรภูมิอยู่ในเอเชียตะวันออก อย่างดี วงล้อมสหรัฐฯ ก็ถดถอยเพราะเรื่องความห่างไกลและถ้าแพ้ สหรัฐฯ ก็ถอนทหารออกจากภูมิภาค แต่ไม่ได้แปลว่าสหรัฐฯ สิ้นอิทธิพลลงในโลกเลย จริง ๆ ดูแค่ญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกก็พอ ขนาดขยายวงล้อมด้วยการยึดประเทศต่าง ๆ เพื่อสร้างแนวลำเลียง ยังโดนสหรัฐฯ ทยอยไปทิ้งระเบิดเรื่อย ๆ ก่อนจะโดนปรมานูเลย คือเกมนี้มันไม่ใช่แค่จีนกับสหรัฐฯ

แต่มันคือ จีน + สหรัฐ (ผสมชาติอื่น ๆ ที่กลัวจีนในเอเชีย)

แบบนี้เลยครับ ผมพอจะจำไทม์ไลน์คร่าวๆได้แบบนี้เลย

ก่อนนี้สัก 20-25 ปี จีนแย่กว่าไทยอีก แต่พอปฏิรูประบบเศรษฐกิจ เปลี่ยนเป็นกึ่งทุนนิยมจีนก็ติดปีกทันที จีนพลิกฟื้นประเทศกลายเป็นมหา

อำนาจทางเศรษฐกิจโลกแซงหน้าแม้กระทั่งญี่ปุ่น ทีนี้พอมีเงินมีทองจีนก็เริ่มพัฒนากองทัพตัวเองขนานใหญ่ แล้วเริ่มทะเลาะกับประเทศ

เพื่อนบ้านไปทั่ว ในความรู้สึกผมที่จำได้เป็นแบบนี้จริงๆ

สงครามใหญ่เพื่อล้างหนี้ของเมกา ยังไงก็ต้องเกิด แต่จะเริ่มที่ไหนก่อน อิสราเอล หรือ จีน