[RE: สอบถาม กองกำลัง จีน vs อเมริกา]
แฟล็ปแจ็ค ยอดนักผจญภัย พิมพ์ว่า:
TXI พิมพ์ว่า:
mazzo the returner พิมพ์ว่า:
คุณเห็นเทคโนโลยีของกล้อง James Webb Space Telescope รึเปล่าครับ ที่ถ่ายภาพ กลุ่มกาแล็คซี่ หลายล้านปีแสงมาได้ อันนั้นว่ากันตามที่เข้าใจมันคือเทคโนโลยีระดับ 15-20 ปีข้างหน้า พูดง่ายๆก็คือสมมุติถ้าจีนจะทำกล้องใช้งานในอวกาศแบบนั้น โดยที่ไม่มี prototype ต้นแบบมาก่อน ไม่ก๊อปเทคโนโลยีจากใคร ศึกษาค้นคว้าจาก knowledge ของจีนเอง นับจากวันนี้จีนต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 20 ปีถึงจะทำกล้องแบบนี้ได้ และจะทำได้รึเปล่าก้ไม่รู้ถ้าไม่มี prototype ต้นแบบให้อ้างอิงศึกษา
แล้วเทคโนโลยีทางกลาโหมของสหรัฐก็เป็นแบบเดียวกับ มันคือเทคโนโลยีการรบระดับ 20หรือ 30 ปีข้างหน้า เงินที่รัฐบาลใช้พัฒนาก็พอๆหรือมากว่าที่ใช้กับเทคโนโลยีอวกาศ ถ้าสมมุติรบกัน(ซึ่งผมว่าไม่มีทางเกิดขึ้น) มันก็เหมือนกับจีนรบกับทหารจากอนาคต สู้กับเทคโนโลยีทางทหารของสหรัฐจากอนาคต 20 ปีข้างหน้า คำถามคือจะเอาอะไรมาสู้ เทคโนโลยีล้ำหน้าขนาดไหนเป็นแบบไหนก็ยังไม่มีใครรู้ จินตนาการไม่ออก ถ้าคิดว่านิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมารุนแรงขนาดไหน ผ่านมาหลายสิบปี เทคโนโลยีที่มันพัฒนาไปยุคนี้ที่ทุกอย่างเป็นเทคหมด ผมก็ยังจินตนาการไม่ออกว่ามันจะออกมาแบบไหนถ้าใช้งานจริง
เพราะงั้นว่าถ้าถามว่าถ้าสมมุติรบกันจริงใครจะชนะ ผมว่าคำตอบมันชัดนะ และผมคิดว่าการรบมันโบราณไปแล้วด้วย ทุกวันนี้ ประเทศต่างๆมันสู้กันด้วยการกินการครอบครอง productive ของประชากรประเทศอื่น ผ่านเทคโนโลยี กันหมดแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่จะไปรบหรือกำจัดทหารของอีกฝ่าย แล้วที่ตลกคือ ไอ้รถถังที่จีนขนมาโชว์นะไม่ได้ใช้หรอกนะครับ ถ้าสมมุติจะต้องรบกันจริงๆเอาแบบกลาโหมลงมติกัน ผมว่าจีนหายไปจากแผนที่โลกได้เลย ไม่ทันได้คิดทำอะไรหรอก
การสู้รบเกิดได้ยาก แต่ก็ไม่แน่หรอกครับ ดูอย่างยูเครน-รัสเซียสิ เมกาบอกมาเป็นเดือนแล้วว่ารัสเซียบุกแน่ๆ ไม่มีใครเชื่อ ตอนนี้เป็นไง
แต่เมกากับจีนคงยังไม่รบกันตอนนี้หรอก เรื่องการเยือนของประธานสภามันไม่ใหญ่พอให้เป็นฉนวนเหตุสงครามหรอก แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ เพราะทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่ว่ายังไงซักวันจีนก็อยากจะเอาไต้หวันมาให้ได้
จนกว่าจีนจะมั่นใจว่ากองทัพใหญ่พอ จนสหรัฐไม่กล้ารบด้วย จีนมันก็ไม่บุกหรอก
ยกเว้นไต้หวันเกิดเปรี้ยวประกาศเอกราชมา ก็ตัวใครตัวมันละ
ถ้าแบบหลังก็วงแตกแหละ
แต่บอกเลยว่ายากมากครับ เพราะเรยคุยกับเพื่อนที่เป็นคนไต้หวัน เขาบอกว่าขนาดในไต้หวันเอวเสียงยังแตกเลย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
1. อยากรวมกับจีน ยอมเป็นจีนเดียว
2. อยากเป็นจีนเดียวเหมือนกัน แต่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบไต้หวัน
3. แยกตัวเป็นเอกราช
ด้งนั้นยากมากที่ประเทศเขาจะลุกขึ้นมาประกาศเอกราช อย่างน้อยก็ไม่น่าจะเร็วๆ นี้ ต้องรอดูแนวโน้มคนรุ่นใหม่ที่จะมีแบบที่ 3 มากขึ้นเรื่อยๆ