วิศวะมันเกลื่อนไป ขนาดไซต์ผมหาคนเพิ่ม หัวหน้าทีมกำหนดชัดเลย

ว่าขอ ฬ เกษตรบางเขน ลาดกระบัง เท่านั้น หรือ 8 เกียร์เก่าถึงพอรับได้

หมอคะแนนเต็ม 10 มีประมาณ 8-10
วิศวะเต็ม 10 มีตั้งแต่ 4-10

หมอเป็นวิศวะ ไม่ได้

แต่วิศวะเป็นหมอ ได้ เช่น หมอหนู

ผมว่า ความเชื่อเหล่านี้ มักจะ ผูกกับเงินเดือนสูง + ความมั่นคง


ผมมองอย่างคนนอกนะ สมัยก่อน เพื่อนผม คนที่เก่งๆ ในห้อง ไม่หมอ ก็วิศวะ จากที่ถามๆ เพื่อน และได้อ่านเว็บบอร์ด ส่วนตัวมองว่า วิศวะ ความเสี่ยงสูง และความมั่นคงน้อยลง โอกาสตกงานเพิ่มขึ้น... ส่วนหมอ ก็เสี่ยงเพิ่มขึ้น (เพื่อนบอก หลังๆมา หมอก็มีความเสี่ยงด้านโรคติดต่อ และ ปัญหาด้านกฎหมาย ..โดนฟ้อง)


***แต่ทุกอาชีพ มีคนเก่ง มีคนไม่เก่ง เราคงจะเหมารวมไม่ได้ ซึ่งบ้านผม เลือกให้ลูกเรียน ให้เรียนตามความถนัด

อันนี้เอาแค่ในไทยใช่ไหมครับ ฮ่าๆๆๆ

ผมเดาเอาเองนะ ช่วงที่บอกว่าพอๆกันนั้นคือช่วงที่พี่ชาย พี่สาวผม Ent มั่ง ให้ผมเดาๆนะ

- สภาวะเศรษฐกิจ .... ช่วงเวลานั้น สิ่งที่ทำเงินได้ เยอะๆ หมอ วิศวะ และ การเงิน (มนุษย์ทองคำ โบัสหลายสิบเดือน) ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างร้อนแรง ทำให้เกิดการขยายเมือง และ สุดท้าย Demand ของวิศวะก็สูงขึ้นเยอะ จริงๆก็ ทั้ง หมอ วิศวะ และ การเงินนั้นแหละ พอโดนต้มยำเข้าไป ตึกร้างเพียบ การเงินพัง เหลืออยู่แค่หมอ

- Life Expectancy ที่สูงขึ้น จะเพราะมีอุปกรณ์ดี เทคโนโลยี อาหารการกิน แต่หมอเป็นหนึ่งในปัจจัยนั้น

มันคือบริการคนละชนิดกัน แต่เราเถียงไม่ได้ว่า จำนวนที่ผลิตออกมามันต่างกัน พอผลิตแพทย์ได้น้อยกว่า .... คนก็มองว่ามันเป็นอะไรที่หายากกว่า (บางคนอาจจะมองว่าเก่งกว่า หรืออะไรก็แล้วแต่)

ซึ่งเอาตรงๆ มันเก่งทั้ง 2 อาชีพ เพราะให้บริการคนละด้านกัน แค่นั้นแหละ ฮ่าๆๆๆ

ค่านิยมของประเทศครับ

เพราะหมอคือคนที่เก่งจริงๆ ของรุ่นครับ ส่วนวิศวะ มันมีทั้งเก่งจริงไปจนถึงกากจริง เลยไม่แปลกที่หมอดูดีกว่าในทุกอณู จากใจคนจบวิดวะ

มุมมองผมนะ

ถ้าเมื่อก่อน ช่วง 2525-2540 คำพูดนี้ที่ว่าเด็กม.ปลายเก่งๆ ถนัดคนล่ะอย่าง ไปหมอกับไปวิศวะอาจจะจริง ยุคสร้างชาติ ยุคเศรษฐกิจโตแบบก้าวกระโดด มันขาดแคลนจริงๆแหละวิศวน่ะ ค่าตอบแทนมันดึงดูดใจ สมน้ำสมเนื้อ มหาวิทยาลัยก็ยังมีไม่กี่ที่ด้วย

แต่ตอนนี้ (จริงๆต้องพูดว่าตั้งแต่ 2550 หรือก่อนหน้านั่นร่วมๆ 5 ปี เป็นต้นมา) หมอมันพิสูจน์แล้วว่าเวิร์คทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวกว่าการเป็นวิศวกร ทั้งในแง่เงินทองและโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

เด็กม.ปลายเก่งๆ 10 คน เมื่อก่อนอาจจะเลือกเป็นหมอสัก 5-6 คน ถ้าตอนนี้ก็น่าจะ 9-10 คนแล้ว

คนจะเรียนวิศว(ที่เก่งๆ)แต่แรก ผมไม่คิดว่าเค้าจะไปเรียนหมอ แม้ว่าจะมีศักยภาพก็ตามที (อย่างเมื่อก่อนอาจจะตัดสินใจยาก หรือตัดสินใจช่วงท้ายๆก่อนจะสอบ)

การแนะแนว การเข้าถึงองค์ความรู้ว่าระดับอุดมศึกษาเรียนอะไรอย่างไร สำหรับเด็กยุคนี้ค่อนข้างชัดกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ

วิศวะ + ภาษาอังกฤษ ถ้าถูกทางจริงๆ ไปไกลไม่แพ้กันเลยครับ เผลอๆจะเยอะกว่าด้วยซ้ำ
ที่เจอเพื่อนผมคือ ติดตรงกำแพงภาษากันเยอะ แต่คนที่ได้ภาษา คือ TOEFL iBT ได้ 100+ จาก 120
หรือสัก 90 ก็โดดเด่นแล้ว

คือไป U top ten หรือพวก Ivy league กันเยอะ ชีวิตออย่างดีครับ ทำงานรายได้ start 400k กันก็เยอะ

แต่หมอถามว่าแบ่งเกรดมั้ย มันก็ตอนเรียนต่อน่ะครับเฉพาะทาง ถ้าจะไปสาขาที่คนแย่งกันเยอะก็ต้องใช้พลังภายในเยอะหน่อย เจอเส้นจากในวัง หรือชุดเขียว ก็ต้องหลีกให้ เพราะที่เรียนมีจำกัด ก็ต้องไปสาขาที่เหลือๆที่คนไม่เรียนกัน

น่าจะเกลื่อนแหละครับ เจอผู้ชายก็เดาๆไปเลยว่าเรียนวิศวะ โอกาสถูกสูง

ไม่ได้เน้นสอนเพื่อพัฒนาสมอง แต่เน้นเรื่องพละกำลัง ปลูกฝังเรื่องความภักดี ระบบบังคับบัญชา

ผมว่าหมอเป็นอาชีพที่เหนือกว่าทุกอาชีพอยู่นิด ๆ

สำหรับในไทยน่าจะ รายได้ ความมั่นคง ความน่านับถือ ค่านิยมในสังคม

คนนับถือคนช่วยชีวิตคน
หรือ คนสร้างเครื่องจักร / บ้าน มากกว่ากันอะครับ

เอกชนพวกศรีปทุม เกริก เอเชียอาคเนย์ แล้วก็ราชภัฏครับ ไม่ได้เหยียดนะ เอาตามเนื้องาน