BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: The Blues.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1041
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 17, 2022 23:03
ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ
เรื่องการซื้อขายมีคนตอบเยอะละ ผมมาพูดเรื่องน้ำหอมละกัน
EDC EDT EDP Perfume/Parfum มันคือระดับความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมก่อนไปทำละลายครับ คร่าวๆก็ประมาณนี้
Eau De Cologne (EDC)=2-5%
Eau De Toilette (EDT)=5-15%
Eau De Perfume (EDP)=15-20%
Perfume = 20-30%
ถ้าตามทฤษฎี มันก็ควรจะเรียงความติดทนน้อยสุดไปมากสุดตาม % ของหัวน้ำหอม แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูประกอบเช่น แนวกลิ่น เนื้อกลิ่น เบสของกลิ่น เพราะบางครั้ง EDT ก็อาจจะทนกว่า EDP หรือ EDP ติดทนกว่า Perfume ก็มี ฉะนั้น %หัวน้ำหอมไม่การันตีความติดทนเสมอไป
ส่วน BDC สำหรับผมดีที่สุดคือ EDP ครับ
โพสต์บนแอป Soccersuck บน Android
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 42795
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Jul 17, 2022 23:13
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
satung07 พิมพ์ว่า:
เรื่องการซื้อขายมีคนตอบเยอะละ ผมมาพูดเรื่องน้ำหอมละกัน
EDC EDT EDP Perfume/Parfum มันคือระดับความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมก่อนไปทำละลายครับ คร่าวๆก็ประมาณนี้
Eau De Cologne (EDC)=2-5%
Eau De Toilette (EDT)=5-15%
Eau De Perfume (EDP)=15-20%
Perfume = 20-30%
ถ้าตามทฤษฎี มันก็ควรจะเรียงความติดทนน้อยสุดไปมากสุดตาม % ของหัวน้ำหอม แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูประกอบเช่น แนวกลิ่น เนื้อกลิ่น เบสของกลิ่น เพราะบางครั้ง EDT ก็อาจจะทนกว่า EDP หรือ EDP ติดทนกว่า Perfume ก็มี ฉะนั้น %หัวน้ำหอมไม่การันตีความติดทนเสมอไป
ส่วน BDC สำหรับผมดีที่สุดคือ EDP ครับ  


แล้ว Sauvage ล่ะครับท่าน คือกลิ่นมันแทงจมูกก็จริงตอนที่ผมลอง แต่ผมว่ากลิ่นมันก็เท่ๆดี ใจอยากได้นิดๆเหมือนกันครับ ท่านพอทราบไปมแต่ละตัวแตกต่างกันยังไงบ้าง พอดีผมลองตัว edp ละคิดว่ากลิ่นมันออกแนวเครื่องเทศไปนิด
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Apr 2007
ตอบ: 12562
ที่อยู่: UNDER TABLE
โพสเมื่อ: Sun Jul 17, 2022 23:25
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
ผมขอถามเพื่อความรู้หน่อยครับ
Bleu de Chanel ของผมใช้ไปเมื่อวันที่ 8 นี้ แล้วปิดฝาขวดไม่สนิท มารู้อีกทีก็วันที่ 14 แล้ว ทีนี้มันเหลืออยู่ครึ่งขวดประมาณ 50 ml กลิ่นน้อยมาก ๆ หรือแทบไม่มีกลิ่นเลยเสียดายมาก ๆ มีวิธีแก้ไหมครับ
แก้ไขล่าสุดโดย satada เมื่อ Sun Jul 17, 2022 23:26, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
รูปไม่หล่อ แถมจน แต่ก้อเลือกนะ



ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: Man U Till I Die
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 16373
ที่อยู่: Carrington/Old Trafford
โพสเมื่อ: Mon Jul 18, 2022 00:11
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
Cafe1n พิมพ์ว่า:
satung07 พิมพ์ว่า:
เรื่องการซื้อขายมีคนตอบเยอะละ ผมมาพูดเรื่องน้ำหอมละกัน
EDC EDT EDP Perfume/Parfum มันคือระดับความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมก่อนไปทำละลายครับ คร่าวๆก็ประมาณนี้
Eau De Cologne (EDC)=2-5%
Eau De Toilette (EDT)=5-15%
Eau De Perfume (EDP)=15-20%
Perfume = 20-30%
ถ้าตามทฤษฎี มันก็ควรจะเรียงความติดทนน้อยสุดไปมากสุดตาม % ของหัวน้ำหอม แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูประกอบเช่น แนวกลิ่น เนื้อกลิ่น เบสของกลิ่น เพราะบางครั้ง EDT ก็อาจจะทนกว่า EDP หรือ EDP ติดทนกว่า Perfume ก็มี ฉะนั้น %หัวน้ำหอมไม่การันตีความติดทนเสมอไป
ส่วน BDC สำหรับผมดีที่สุดคือ EDP ครับ  


แล้ว Sauvage ล่ะครับท่าน คือกลิ่นมันแทงจมูกก็จริงตอนที่ผมลอง แต่ผมว่ากลิ่นมันก็เท่ๆดี ใจอยากได้นิดๆเหมือนกันครับ ท่านพอทราบไปมแต่ละตัวแตกต่างกันยังไงบ้าง พอดีผมลองตัว edp ละคิดว่ากลิ่นมันออกแนวเครื่องเทศไปนิด  


มาช้าไปแต่อยากแสดงความเห็นครับ
ทั้ง Sauvage และ Bleu ผมเริ่มเล่นน้ำหอมก็จากสองตัวนี้แหละครับเมื่อหลายปีมาแล้ว
อันดับแรกเลยคือทั้งสองตัวเหมาะกับอากาศเย็นๆหรือห้องแอร์ ออฟฟิศนะครับ
ใส่ออกไปข้างนอกไม่เหมาะ เวียนหัว อากาศร้อนแปปเดียวกลิ่นหายครับ
แต่ถ้าอากาศเย็นกลิ่นจะหอมมากๆ ผมเคยชอบมากๆทั้งคู่
แต่จะชอบชาแนลมากกว่า กลิ่นมันมีแต่คนชอบ กับคนเฉยๆครับ
ส่วน Sauvage นี่สาวชอบเยอะจริง แต่คนไม่ชอบจนถึงขั้นยี้เลยก็ไม่น้อยครับ
กลิ่นมันเป็นแบบนั้นจริงๆต้องยอมรับในข้อนี้ แต่กระจายตัวดีกว่าชาแนลพอสมควรเลย
ถ้าอยากแบบฉีดให้ทุกคนในที่ทำงานรู้ว่า เออ กูฉีดน้ำหอมมานะ ต้องไป Sauvage เลย
แต่ถ้าแบบแค่เดินผ่านได้กลิ่นจางๆ มีสเน่ห์ ไปชาแนลครับ
ผมชอบชาแนลตัว EDP มากๆ ผมว่าที่สุดในรุ่น Bleu มันแล้ว
แต่ถ้าคุณซื้อมาใช้ไปสักระยะ คุณจะรู้สึกว่ามันเริ่มโหล แบบหลายคนได้กลิ่นก็รู้ว่าคุณฉีดน้ำหอมอะไรมา 5555
ผมเลยเลิกใช้น้ำสองตัวนี้แล้วครับ ไปเล่นพวกน้ำหอมนีชแทน ก็จะลดความโหลลงมาได้ระดับนึง
แต่ราคาก็จะกระโดดไปเยอะเช่นกันครับ

ปล. น้ำหอมนีชคือน้ำหอมยี่ห้อที่เป็นยี่ห้อน้ำหอมมาตั้งแต่ต้นครับ
พวกชาแนล ดิออร์ เค้าเรียกน้ำหอมดีไซเนอร์ คือมาทำน้ำหอมทีหลังที่ทำอย่างอื่นของแบรนด์นั้นๆมาก่อน
ราคามันจับต้องง่ายกว่า อาจเป็นที่มาของความโหลนี้
แต่ถ้าท่านไม่ติด หรือถ้าที่ทำงานท่านไม่ได้คนเยอะขนาดนั้นก็ฃองเริ่มจากดีไซเนอร์ดูก่อนได้ครับ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล, คริสเตียโน่, สโคลส์, เมสัน กรีนวู้ด
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีมชาติ
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Mar 2018
ตอบ: 42795
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 18, 2022 00:19
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
ยักษ์เดนส์ พิมพ์ว่า:
Cafe1n พิมพ์ว่า:
satung07 พิมพ์ว่า:
เรื่องการซื้อขายมีคนตอบเยอะละ ผมมาพูดเรื่องน้ำหอมละกัน
EDC EDT EDP Perfume/Parfum มันคือระดับความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมก่อนไปทำละลายครับ คร่าวๆก็ประมาณนี้
Eau De Cologne (EDC)=2-5%
Eau De Toilette (EDT)=5-15%
Eau De Perfume (EDP)=15-20%
Perfume = 20-30%
ถ้าตามทฤษฎี มันก็ควรจะเรียงความติดทนน้อยสุดไปมากสุดตาม % ของหัวน้ำหอม แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูประกอบเช่น แนวกลิ่น เนื้อกลิ่น เบสของกลิ่น เพราะบางครั้ง EDT ก็อาจจะทนกว่า EDP หรือ EDP ติดทนกว่า Perfume ก็มี ฉะนั้น %หัวน้ำหอมไม่การันตีความติดทนเสมอไป
ส่วน BDC สำหรับผมดีที่สุดคือ EDP ครับ  


แล้ว Sauvage ล่ะครับท่าน คือกลิ่นมันแทงจมูกก็จริงตอนที่ผมลอง แต่ผมว่ากลิ่นมันก็เท่ๆดี ใจอยากได้นิดๆเหมือนกันครับ ท่านพอทราบไปมแต่ละตัวแตกต่างกันยังไงบ้าง พอดีผมลองตัว edp ละคิดว่ากลิ่นมันออกแนวเครื่องเทศไปนิด  


มาช้าไปแต่อยากแสดงความเห็นครับ
ทั้ง Sauvage และ Bleu ผมเริ่มเล่นน้ำหอมก็จากสองตัวนี้แหละครับเมื่อหลายปีมาแล้ว
อันดับแรกเลยคือทั้งสองตัวเหมาะกับอากาศเย็นๆหรือห้องแอร์ ออฟฟิศนะครับ
ใส่ออกไปข้างนอกไม่เหมาะ เวียนหัว อากาศร้อนแปปเดียวกลิ่นหายครับ
แต่ถ้าอากาศเย็นกลิ่นจะหอมมากๆ ผมเคยชอบมากๆทั้งคู่
แต่จะชอบชาแนลมากกว่า กลิ่นมันมีแต่คนชอบ กับคนเฉยๆครับ
ส่วน Sauvage นี่สาวชอบเยอะจริง แต่คนไม่ชอบจนถึงขั้นยี้เลยก็ไม่น้อยครับ
กลิ่นมันเป็นแบบนั้นจริงๆต้องยอมรับในข้อนี้ แต่กระจายตัวดีกว่าชาแนลพอสมควรเลย
ถ้าอยากแบบฉีดให้ทุกคนในที่ทำงานรู้ว่า เออ กูฉีดน้ำหอมมานะ ต้องไป Sauvage เลย
แต่ถ้าแบบแค่เดินผ่านได้กลิ่นจางๆ มีสเน่ห์ ไปชาแนลครับ
ผมชอบชาแนลตัว EDP มากๆ ผมว่าที่สุดในรุ่น Bleu มันแล้ว
แต่ถ้าคุณซื้อมาใช้ไปสักระยะ คุณจะรู้สึกว่ามันเริ่มโหล แบบหลายคนได้กลิ่นก็รู้ว่าคุณฉีดน้ำหอมอะไรมา 5555
ผมเลยเลิกใช้น้ำสองตัวนี้แล้วครับ ไปเล่นพวกน้ำหอมนีชแทน ก็จะลดความโหลลงมาได้ระดับนึง
แต่ราคาก็จะกระโดดไปเยอะเช่นกันครับ

ปล. น้ำหอมนีชคือน้ำหอมยี่ห้อที่เป็นยี่ห้อน้ำหอมมาตั้งแต่ต้นครับ
พวกชาแนล ดิออร์ เค้าเรียกน้ำหอมดีไซเนอร์ คือมาทำน้ำหอมทีหลังที่ทำอย่างอื่นของแบรนด์นั้นๆมาก่อน
ราคามันจับต้องง่ายกว่า อาจเป็นที่มาของความโหลนี้
แต่ถ้าท่านไม่ติด หรือถ้าที่ทำงานท่านไม่ได้คนเยอะขนาดนั้นก็ฃองเริ่มจากดีไซเนอร์ดูก่อนได้ครับ  


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆมากเลยนะครับท่าน ผมก็คิดว่าจะเริ่มต้นจากสองตัวนี้นี่แหละครับ แต่ยังตัดสิดใจไม่ได้เลย คืองานผมมีทั้งต้องอยู่ออฟฟิศแล้วก็มีออกไปดูหน้างานด้วย คงมีเหงื่อแน่ๆแหละครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jul 2010
ตอบ: 425
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 18, 2022 05:06
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
Cafe1n พิมพ์ว่า:
tophaha พิมพ์ว่า:
ซื้อความสบายใจ ซื้อshopเลยครับ มีแถมนู้นนี้นั้น ลองถามคุณแฟนด้วยสิครับว่าเอาอะไรมั้ย เผื่อได้ของแถมชุดใหญ่สักชุด  


ถามมาแล้วครับช็อปชาแนล ผมจะเอาน้ำหอม แฟนผมจะเอารองพื้น รวมๆกันสองคนหมื่นกว่าบาท มีแค่โปรบัตรเครดิต ลดให้ 5% ละไม่เห็นบอกอะไรอย่างอื่นละ บริการไม่ค่อยดีด้วย

บูท Dior บริการดีกว่าเยอะมากเลยครับ  

ของแบบนี้ต้องถามเลยครับ มีแถมอะไรบ้างstepเป็นแบบไหน บริการไม่ดีก็เปลี่ยนคนครับ เดินออกมาแล้วเดินเข้าใหม่เลย บอกจะซื้อของแต่ไม่เอาคนนี้บริการ เดินไปหาผู้ชายครับ ส่วนใหญ่จะบริการดีกว่า
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Jul 2010
ตอบ: 425
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Jul 18, 2022 05:11
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
Cafe1n พิมพ์ว่า:
ยักษ์เดนส์ พิมพ์ว่า:
Cafe1n พิมพ์ว่า:
satung07 พิมพ์ว่า:
เรื่องการซื้อขายมีคนตอบเยอะละ ผมมาพูดเรื่องน้ำหอมละกัน
EDC EDT EDP Perfume/Parfum มันคือระดับความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมก่อนไปทำละลายครับ คร่าวๆก็ประมาณนี้
Eau De Cologne (EDC)=2-5%
Eau De Toilette (EDT)=5-15%
Eau De Perfume (EDP)=15-20%
Perfume = 20-30%
ถ้าตามทฤษฎี มันก็ควรจะเรียงความติดทนน้อยสุดไปมากสุดตาม % ของหัวน้ำหอม แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูประกอบเช่น แนวกลิ่น เนื้อกลิ่น เบสของกลิ่น เพราะบางครั้ง EDT ก็อาจจะทนกว่า EDP หรือ EDP ติดทนกว่า Perfume ก็มี ฉะนั้น %หัวน้ำหอมไม่การันตีความติดทนเสมอไป
ส่วน BDC สำหรับผมดีที่สุดคือ EDP ครับ  


แล้ว Sauvage ล่ะครับท่าน คือกลิ่นมันแทงจมูกก็จริงตอนที่ผมลอง แต่ผมว่ากลิ่นมันก็เท่ๆดี ใจอยากได้นิดๆเหมือนกันครับ ท่านพอทราบไปมแต่ละตัวแตกต่างกันยังไงบ้าง พอดีผมลองตัว edp ละคิดว่ากลิ่นมันออกแนวเครื่องเทศไปนิด  


มาช้าไปแต่อยากแสดงความเห็นครับ
ทั้ง Sauvage และ Bleu ผมเริ่มเล่นน้ำหอมก็จากสองตัวนี้แหละครับเมื่อหลายปีมาแล้ว
อันดับแรกเลยคือทั้งสองตัวเหมาะกับอากาศเย็นๆหรือห้องแอร์ ออฟฟิศนะครับ
ใส่ออกไปข้างนอกไม่เหมาะ เวียนหัว อากาศร้อนแปปเดียวกลิ่นหายครับ
แต่ถ้าอากาศเย็นกลิ่นจะหอมมากๆ ผมเคยชอบมากๆทั้งคู่
แต่จะชอบชาแนลมากกว่า กลิ่นมันมีแต่คนชอบ กับคนเฉยๆครับ
ส่วน Sauvage นี่สาวชอบเยอะจริง แต่คนไม่ชอบจนถึงขั้นยี้เลยก็ไม่น้อยครับ
กลิ่นมันเป็นแบบนั้นจริงๆต้องยอมรับในข้อนี้ แต่กระจายตัวดีกว่าชาแนลพอสมควรเลย
ถ้าอยากแบบฉีดให้ทุกคนในที่ทำงานรู้ว่า เออ กูฉีดน้ำหอมมานะ ต้องไป Sauvage เลย
แต่ถ้าแบบแค่เดินผ่านได้กลิ่นจางๆ มีสเน่ห์ ไปชาแนลครับ
ผมชอบชาแนลตัว EDP มากๆ ผมว่าที่สุดในรุ่น Bleu มันแล้ว
แต่ถ้าคุณซื้อมาใช้ไปสักระยะ คุณจะรู้สึกว่ามันเริ่มโหล แบบหลายคนได้กลิ่นก็รู้ว่าคุณฉีดน้ำหอมอะไรมา 5555
ผมเลยเลิกใช้น้ำสองตัวนี้แล้วครับ ไปเล่นพวกน้ำหอมนีชแทน ก็จะลดความโหลลงมาได้ระดับนึง
แต่ราคาก็จะกระโดดไปเยอะเช่นกันครับ

ปล. น้ำหอมนีชคือน้ำหอมยี่ห้อที่เป็นยี่ห้อน้ำหอมมาตั้งแต่ต้นครับ
พวกชาแนล ดิออร์ เค้าเรียกน้ำหอมดีไซเนอร์ คือมาทำน้ำหอมทีหลังที่ทำอย่างอื่นของแบรนด์นั้นๆมาก่อน
ราคามันจับต้องง่ายกว่า อาจเป็นที่มาของความโหลนี้
แต่ถ้าท่านไม่ติด หรือถ้าที่ทำงานท่านไม่ได้คนเยอะขนาดนั้นก็ฃองเริ่มจากดีไซเนอร์ดูก่อนได้ครับ  


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆมากเลยนะครับท่าน ผมก็คิดว่าจะเริ่มต้นจากสองตัวนี้นี่แหละครับ แต่ยังตัดสิดใจไม่ได้เลย คืองานผมมีทั้งต้องอยู่ออฟฟิศแล้วก็มีออกไปดูหน้างานด้วย คงมีเหงื่อแน่ๆแหละครับ  



ถ้าไม่ซีเรียสแบรนด์ นะครับแล้วเปิดกว้างเรื่องกลิ่นแนะนำ ไปดูscentery igชื่อscenteryofficial isla de micronos ไม่แน่ใจว่าเขียนถูกรึเปล่า กลิ่นคือ ดีเห็นเค้าว่าคือบลาวเดียฟีค ของbyredo ผมได้แซมเปิ้ลมาคือหอมเลย กับที่ใช้อยู่คือarch angle คือกลิ่นนี้ silver mountain ของcreed เลย ถูกใจมากราคาแบบ990เช็คโปรก่อนซื้อ ผมได้มา2ขวด 1600 เอง แบรนด์นี้แอดไลน์เสีย50บาทของกลิ่นมาเทสก่อนได้
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: The Blues.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1041
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 22, 2022 01:15
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
Cafe1n พิมพ์ว่า:
satung07 พิมพ์ว่า:
เรื่องการซื้อขายมีคนตอบเยอะละ ผมมาพูดเรื่องน้ำหอมละกัน
EDC EDT EDP Perfume/Parfum มันคือระดับความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมก่อนไปทำละลายครับ คร่าวๆก็ประมาณนี้
Eau De Cologne (EDC)=2-5%
Eau De Toilette (EDT)=5-15%
Eau De Perfume (EDP)=15-20%
Perfume = 20-30%
ถ้าตามทฤษฎี มันก็ควรจะเรียงความติดทนน้อยสุดไปมากสุดตาม % ของหัวน้ำหอม แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูประกอบเช่น แนวกลิ่น เนื้อกลิ่น เบสของกลิ่น เพราะบางครั้ง EDT ก็อาจจะทนกว่า EDP หรือ EDP ติดทนกว่า Perfume ก็มี ฉะนั้น %หัวน้ำหอมไม่การันตีความติดทนเสมอไป
ส่วน BDC สำหรับผมดีที่สุดคือ EDP ครับ  


แล้ว Sauvage ล่ะครับท่าน คือกลิ่นมันแทงจมูกก็จริงตอนที่ผมลอง แต่ผมว่ากลิ่นมันก็เท่ๆดี ใจอยากได้นิดๆเหมือนกันครับ ท่านพอทราบไปมแต่ละตัวแตกต่างกันยังไงบ้าง พอดีผมลองตัว edp ละคิดว่ากลิ่นมันออกแนวเครื่องเทศไปนิด  


Bleu de chanel กับ Dior sauvage เป็นน้ำหอมที่อยู่ในตระกูล Blue fragrance เหมือนกันครับ เป็นกลิ่นยอดนิยมของผู้ชายที่ถ้านึกอะไรไม่ออกก็ต้องสองตัวนี้ฮะ ที่นี้ผมว่าสำหรับผมคนละสไตล์แล้วแต่เราจะชอบ ชอบหล่อ เรียบหรู สุขุม นุ่ม ให้ฟีลเย็นๆ ก็ต้องไป Bleu แต่ถ้าเป็นหนุ่มขี้เล่น แบดๆ เท่ห์ๆ ตะโดน อยากให้คนสนใจ ผมว่า Sauvage ทำได้ดีกว่าครับ หอมทั้งคู่แล้วแต่ชอบเลย

Dior sauvage ตอนนี้มี flanker อยู่ 4 ตัวครับ EDT EDP Parfum elixir ส่วนตัวดมมาหมดทุกตัวยกเว้น elixir แต่ก็ดูรีวิวมาบ้างแล้ว ถ้าหอมสุดผมยกให้ EDP นะครับ เพราะมันเข้มข้น เครื่องเทศชัด dry down คือยังชัด กลิ่นแน่น แต่ sillage ไม่กว้างมาก ส่วนถ้าจะแนะนำสำหรับคนที่จะลอง หรือที่ผมมองว่าเหมาะกับอากาศร้อนๆบ้านเราคือตัว EDT ครับ กลิ่นแรกของ line ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ทนนะครับ 6-8 ชม. sillage ดีกว่า EDP แต่เนื้อกลิ่นจะบางกว่า ไม่แน่นเท่า dry down แล้วมีความหวานของ grapefruit กับ ambroxan ที่เป็นเอกลักษณ์ของ sauvage ลองดูครับถ้าไม่แน่ใจแนะนำซื้อ vial แบ่งมาลองดมดูก่อนครับ
ส่วนตัวผมก้าวข้าม bleu และ sauvage ไปนานแล้วฮะ เพราะคนใช้เยอะ มันก็เหมือนเสื้อผ้าอ่ะครับ ใส่ไปนานๆผมว่ามันดูจำเจ
แก้ไขล่าสุดโดย satung07 เมื่อ Fri Jul 22, 2022 01:22, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status: The Blues.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 1041
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Jul 22, 2022 01:22
[RE: ถาม Bleu de Chanel และการซื้อผ่านทางเฟสครับ]
Cafe1n พิมพ์ว่า:
ยักษ์เดนส์ พิมพ์ว่า:
Cafe1n พิมพ์ว่า:
satung07 พิมพ์ว่า:
เรื่องการซื้อขายมีคนตอบเยอะละ ผมมาพูดเรื่องน้ำหอมละกัน
EDC EDT EDP Perfume/Parfum มันคือระดับความเข้มข้นของหัวเชื้อน้ำหอมก่อนไปทำละลายครับ คร่าวๆก็ประมาณนี้
Eau De Cologne (EDC)=2-5%
Eau De Toilette (EDT)=5-15%
Eau De Perfume (EDP)=15-20%
Perfume = 20-30%
ถ้าตามทฤษฎี มันก็ควรจะเรียงความติดทนน้อยสุดไปมากสุดตาม % ของหัวน้ำหอม แต่จริงๆแล้วมันมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องดูประกอบเช่น แนวกลิ่น เนื้อกลิ่น เบสของกลิ่น เพราะบางครั้ง EDT ก็อาจจะทนกว่า EDP หรือ EDP ติดทนกว่า Perfume ก็มี ฉะนั้น %หัวน้ำหอมไม่การันตีความติดทนเสมอไป
ส่วน BDC สำหรับผมดีที่สุดคือ EDP ครับ  


แล้ว Sauvage ล่ะครับท่าน คือกลิ่นมันแทงจมูกก็จริงตอนที่ผมลอง แต่ผมว่ากลิ่นมันก็เท่ๆดี ใจอยากได้นิดๆเหมือนกันครับ ท่านพอทราบไปมแต่ละตัวแตกต่างกันยังไงบ้าง พอดีผมลองตัว edp ละคิดว่ากลิ่นมันออกแนวเครื่องเทศไปนิด  


มาช้าไปแต่อยากแสดงความเห็นครับ
ทั้ง Sauvage และ Bleu ผมเริ่มเล่นน้ำหอมก็จากสองตัวนี้แหละครับเมื่อหลายปีมาแล้ว
อันดับแรกเลยคือทั้งสองตัวเหมาะกับอากาศเย็นๆหรือห้องแอร์ ออฟฟิศนะครับ
ใส่ออกไปข้างนอกไม่เหมาะ เวียนหัว อากาศร้อนแปปเดียวกลิ่นหายครับ
แต่ถ้าอากาศเย็นกลิ่นจะหอมมากๆ ผมเคยชอบมากๆทั้งคู่
แต่จะชอบชาแนลมากกว่า กลิ่นมันมีแต่คนชอบ กับคนเฉยๆครับ
ส่วน Sauvage นี่สาวชอบเยอะจริง แต่คนไม่ชอบจนถึงขั้นยี้เลยก็ไม่น้อยครับ
กลิ่นมันเป็นแบบนั้นจริงๆต้องยอมรับในข้อนี้ แต่กระจายตัวดีกว่าชาแนลพอสมควรเลย
ถ้าอยากแบบฉีดให้ทุกคนในที่ทำงานรู้ว่า เออ กูฉีดน้ำหอมมานะ ต้องไป Sauvage เลย
แต่ถ้าแบบแค่เดินผ่านได้กลิ่นจางๆ มีสเน่ห์ ไปชาแนลครับ
ผมชอบชาแนลตัว EDP มากๆ ผมว่าที่สุดในรุ่น Bleu มันแล้ว
แต่ถ้าคุณซื้อมาใช้ไปสักระยะ คุณจะรู้สึกว่ามันเริ่มโหล แบบหลายคนได้กลิ่นก็รู้ว่าคุณฉีดน้ำหอมอะไรมา 5555
ผมเลยเลิกใช้น้ำสองตัวนี้แล้วครับ ไปเล่นพวกน้ำหอมนีชแทน ก็จะลดความโหลลงมาได้ระดับนึง
แต่ราคาก็จะกระโดดไปเยอะเช่นกันครับ

ปล. น้ำหอมนีชคือน้ำหอมยี่ห้อที่เป็นยี่ห้อน้ำหอมมาตั้งแต่ต้นครับ
พวกชาแนล ดิออร์ เค้าเรียกน้ำหอมดีไซเนอร์ คือมาทำน้ำหอมทีหลังที่ทำอย่างอื่นของแบรนด์นั้นๆมาก่อน
ราคามันจับต้องง่ายกว่า อาจเป็นที่มาของความโหลนี้
แต่ถ้าท่านไม่ติด หรือถ้าที่ทำงานท่านไม่ได้คนเยอะขนาดนั้นก็ฃองเริ่มจากดีไซเนอร์ดูก่อนได้ครับ  


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆมากเลยนะครับท่าน ผมก็คิดว่าจะเริ่มต้นจากสองตัวนี้นี่แหละครับ แต่ยังตัดสิดใจไม่ได้เลย คืองานผมมีทั้งต้องอยู่ออฟฟิศแล้วก็มีออกไปดูหน้างานด้วย คงมีเหงื่อแน่ๆแหละครับ  


จริงๆน้ำหอมมีขวดเดียวไม่จบครับ มันเหมือนกับเครื่องแต่งกายอีกชิ้นอ่ะครับ มันมีสถานการณ์ความเหมาะสมของมันอยู่ น้ำหอมครอบจักรวาลไม่มีอยู่จริงฮะ ที่สำคัญอยู่ที่เราชอบหรือมั่นใจกับกลิ่นไหน มันก็มีเทคนิคในการใช้ในการคุมสเปรย์ครับ กลิ่นไม่ทนไม่แน่นก็เพิ่มสเปรย์ กลิ่นแน่น ฉุน เข้มก็เบาจำนวนสเปรย์ลง ถ้าอยากให้กระจายมากๆไม่เน้นความทนให้ฉีดผิว ถ้าเน้นติดทนนานกว่า ไม่ต้องให้กระจายมากก็ฉีดเสื้อผ้า น้ำหอมกลิ่นดีแต่หายไวก็เน้นพก vial ไปเติมระหว่างวัน ประมาณนี้ครับ ขอให้มีความสุขในการใช้น้ำหอมนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย satung07 เมื่อ Fri Jul 22, 2022 01:23, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel