#Mainstand : พ่อของ ‘ซน ฮึง-มิน’ เผยใช้ปรัชญาฝึกเด็กในอคาเดมี่ที่เกาหลีใต้ เหมือนตอนฝึกลูกชาย ห้ามลงทีม ห้ามยิงบอล ก่อนอายุครบ 15 ปี

หลังจากประสบความสำเร็จในอาชีพอย่างสูง ซน ฮึง-มิน เจ้าของรางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด ก็มีความคิดที่จะสร้างนักเตะเกาหลีใต้รุ่นใหม่ ให้ก้าวไปสร้างชื่อในลีกดังของยุโรปแบบเขาบ้าง นั่นคือเหตุผลที่เขาตัดสินใจสร้างศูนย์ฝึกมูลค่า 11 ล้านปอนด์ (470 ล้านบาท) ในเมืองชุนชอนบ้านเกิด เมื่อ 3-4 ปีก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังในแบบฉบับที่เขาเคยผ่านมา โดยมี ซน อุง-จอง พ่อของเขา รับหน้าที่เป็นคนดูแลการฝึกทั้งหมด

เป็นที่รู้กันว่า กองหน้าจาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ผ่านโปรแกรมฝึกสุดโหดจากผู้เป็นพ่อมาตั้งแต่เด็ก เริ่มตั้งแต่เบสิคพื้นฐานไปจนถึงทักษะการยิงประตู หากทำพลาดก็ต้องโดนลงโทษ ครั้งหนึ่ง ซน เล่าว่า เขาเคยถูกลงโทษให้เดาะบอลติดต่อกัน 4 ชั่วโมงแบบไม่มีพัก กว่าจะผ่านตอนนั้นมาได้ เรียกได้ว่าเลือดตาแทบกระเด็น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความลำบากในตอนนั้น ทำให้เขากลายเป็นสตาร์อย่างทุกวันนี้

ล่าสุด The Athletic สื่อดังของอังกฤษ ได้ส่งนักข่าวไปเจาะลึกอคาเดมี่ของ ซน ฮึง-มิน ถึงประเทศเกาหลีใต้ พร้อมจับเข่าพูดคุยกับ ซน อุง-จอง พ่อของนักเตะคนดัง ถึงการสร้างเด็กในอคาเดมี่ ก่อนจะได้รับคำตอบว่า ปรัชญาการฝึกของศูนย์ฝึกแห่งนี้ คือรูปแบบเดียวกับที่เขาเคยปลุกปั้นลูกชายในวัยเด็ก

สิ่งแรกที่เด็กทุกคนต้องเรียนรู้คือ การฝึกใช้เท้าข้างที่ไม่ถนัด เพราะ ซน อุง-จอง เชื่อว่า การจะเป็นนักฟุตบอลที่ดีให้ได้นั้น คุณจำเป็นต้องเล่นได้ทั้งสองเท้า โดยกล่าวว่า “ปกติแล้วคนที่เริ่มเล่นฟุตบอล พวกเขาจะเลือกใช้เท้าข้างที่ถนัดมากกว่า ด้วยอัตรา 3:1 เด็ก 3 คน จะใช้เท้าข้างถนัด มีเพียงคนเดียวที่ใช้ข้างไม่ถนัด แต่สำหรับที่นี่ ถ้าคุณถนัดเท้าขวา คุณต้องจับบอลด้วยเท้าซ้ายก่อนเสมอ คุณจะได้พัฒนาเท้าอีกข้าง และสุดท้ายคุณก็จะเล่นได้ทั้งสองเท้า”

“ในกรณีของ ซน ฮึง-มิน ผมรู้ว่าเขาถนัดเท้าขวา ผมจึงทำให้แน่ใจว่า เขาจะสวมรองเท้า, ถุงเท้า, กางเกง, นาฬิกา หรืออะไรก็ตามแต่ จากข้างซ้ายก่อนเสมอ เขาจะได้ไม่ลืมว่า เขาเป็นนักเตะที่ถนัดสองเท้า”

นอกจากนี้ ซน อุง-จอง ยังออกกฎเหล็ก ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ลงทีมแข่งและฝึกยิงบอลด้วย โดยเขาให้เหตุผลว่า “สำหรับทีมระดับโรงเรียน พ่อแม่ และสโมสรบางแห่ง ที่ให้เด็กลงทีมแข่งตั้งแต่อายุยังน้อย มันไม่ได้เกี่ยวกับการพัฒนาเด็กในฐานะนักเตะ แต่พวกเขาสนใจแค่การเอาชนะในเกมและการแข่งขันในระดับท้องถิ่น มากกว่าโฟกัสไปที่การพัฒนาเด็กตั้งแต่เบสิคพื้นฐาน”

“เราจะไม่ให้เด็กยิงบอลก่อนอายุครบ 15 ปี ทำไมน่ะหรอ? มันจะทำลายเส้นเอ็นและข้อต่อกระดูกที่เท้าของพวกเขาไง เพราะพวกเขายังไม่โตเต็มวัย ซน ฮึง-มิน เองก็ผ่านการฝึกแบบนี้มา และนั่นคือเหตุผลที่ผมไม่ส่งลูกชายลงแข่งทีมตั้งแต่อายุยังน้อย มันคือปรัชญาเดียวกับที่ผมนำมาใช้กับเด็กกลุ่มนี้”

สำหรับ ซน ฮึง-มิน อยู่ระหว่างทัวร์ปรีซีซั่นที่เกาหลีใต้ กับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ โดยเขาทำ 2 ประตู ในแมทช์ถล่ม ออลสตาร์-เคลีก 6-3 และแอสซิสต์ให้ แฮร์รี เคน ยิงประตู ในเกมเสมอเซบีญา 1-1 ก่อนจะมีโปรแกรมบินกลับอังกฤษพร้อมกับทีมในวันอาทิตย์นี้ และจะลงเล่นเกมอุ่นเครื่องอีก 2 นัด ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ลีก

ที่มา : https://theathletic.com/3422838/2022/07/15/son-heung-min-academy/

ไม่แน่ใจว่าอันนี้มันจะสุดโต่งเกินไปไหมหว่า

และที่บอกว่า
“เราจะไม่ให้เด็กยิงบอลก่อนอายุครบ 15 ปี ทำไมน่ะหรอ? มันจะทำลายเส้นเอ็นและข้อต่อกระดูกที่เท้าของพวกเขาไง
มันจริงไหมหว่า เขามีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์มั้ย

เข้าใจผิดมาตลอดว่าพ่อชื่อ แด๊ด เฮืองมิน

เรื่องการยิงบอลไม่ชัดเจนครับว่าส่งผลเสียจริงหรือไม่
แต่ถ้าเป็นเรื่องการโหม่งบอลอันนี้เห็นด้วยครับ เพราะจะส่งผลกับการกระทบกระเทือนศีรษะและสมองในเด็ก

ที่จริงพ่อพูดพอมีเหตุผลอยู่นะ ตอนก่อน15 พลังการยิงมันยังน้อย ยิ่งต้องใส่แรงเข้าไป ซึ่งก็ดูไม่มีความจำเป็นต้องฝึกตรงนี้จริงๆ

เรื่องการยิงบอลไม่ชัดเจนครับว่าส่งผลเสียจริงหรือไม่
แต่ถ้าเป็นเรื่องการโหม่งบอลอันนี้เห็นด้วยครับ เพราะจะส่งผลกับการกระทบกระเทือนศีรษะและสมองในเด็ก

มีเหตุผล

ฝึกค่อนข้างโหด แต่ก็พอฟังขึ้น

ไม่ใช่ว่าทีมเด็กใช้ลูกบอลขนาดเล็กกว่าปกติเหรอ หรือผมพลาดอะไรไป

เหมือนกอล์ฟเลย
ผมว่าการออกรอบสำหรับคนหัดเล่นใหม่ๆ เหมือนเอาวงไปทิ้งแล้วกลับมาแก้ใหม่
จริงๆคือวงที่ดี เบสิกที่ดี อยู่ที่สนามไดล์ฟกับโปรที่ดี ฝึกจนสนิทกับวงแล้วค่อยไปออก

ฟุตบอลถ้าลงทีมเด็กๆเลย ออกแนวไปเอาความฟิต ทั้งที่จริงๆแล้วควรโฟกัสที่เบสิกเยอะๆ ก่อนลงทีมจริง

การยิงบอลผมว่าไม่ควรห้ามนะ มันฝืนธรรมชาติเด็กไป ในกรณีของบ้านเราปัญหาหลักๆของอาการบาดเจ็บคือใช้อุปกรณ์ไม่เหมาะกับวัย เด็กควรใช้บอลเบอสาม บางที่ยังใช้เบอห้าอยู่เลย ขนาดประตู ขนาดสนาม มีผลทั้งนั้น ประตูกว้างไป สนามยาวไป ทำให้เด็กต้องใช้แรงยิงเกินวัย รายละเอียดพวกนี้อะคาเดมี่ต่างๆต้องใส่ใจมากขึ้น

มีตังเปิดสอนในไทยก็ส่งไปแน่ๆ

เน้นฝึกพื้นฐาน เบสิคก่อนสินะ

ฟังดูสุดโต่งไปหน่อย แต่ละที่ก็มีวิธีการฝึกเพื่อให้นักบอลออกมาในแบบของตัวเอง อย่างเด็กที่ลามาเซียก็มาคุณภาพสูงมาก เยอะด้วย อันนั้นเห็นคลิปยังไม่ถึง10ขวบก็ลงสนามกันแล้ว ผมว่าปัจจัยสำคัญยังเป็นพรสวรรค์ที่ต้องมีก่อน แล้วมาพรสแวงเอาเพื่อทำให้พรสวรรค์สมบูรณ์แบบ

ก็ไม่ใช่ทุกคนจะฝึกแบบนั้นแล้วเก่งได้แบบซนไหม อย่างซนนี่เรียกได้ว่าระดับ 1 ในหลายๆล้านคนเลยนะนั่น

เข้าใจผิดมาตลอดว่าพ่อชื่อ แด๊ด เฮืองมิน

บางอันเห็นด้วย แต่บางอันสุดโต่งไปนะ 555555

เด็กที่จะอยากมาเป็นนักบอลได้ ยังไงก็เคยเล่นทีม แล้วยิงได้ แล้วชนะ จนสนุก แล้วค่อยอยากมาเป็นนักบอล

ไม่น่ามีแบบ เด็กที่ชอบแปบอล เดาะบอล คนเดียว แล้วมี Passion อะ

แล้วพอเคยเล่นทีม แล้วมาไม่ได้เล่นทีมเลย โคตรเสี้ยนเลย 55555

ลองกับเกาหลีใต้ดูก่อนละกัน ถ้าเวิร์ค อาจมีคนทำตาม

- การลงแข่งทีม มะนช่วยพัฒนาเด็กให้มีประสบการณ์ เจอคู่แข่งหลากหลาย และช่วยให้เด็กเข้าใจแท็คติกแต่เนิ่นๆ
- การยิงก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก เล่นกองหน้าไม่ฝึกยิง จะเอาอะไรไปสู้เขา เข้าใจว่าการจับบอลมันสำคัญ แต่ถ้าเด็กไม่รู้ว่าจับบอลแล้วจะยิงยังไง จังหวะแบบไหนต้องจับบอลแล้วจะช่วยให้ยิงได้ง่ายก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี