วาทกรรมซื้อเสียงควรที่จะลดความสำคัญของมันลงได้แล้วครับ งานวิจัยรัฐศาสตร์หลายฉบับก็ออกมาบอกแล้วว่าการซื้อเสียงไม่ใช่ปัจจัยที่จะเลือกผู้สมัครขนาดนั้น แน่นอนการซื้อเสียงมันมี การแจกเงินมันมี แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่แล้ว คนกทม.ซื้อเสียงแล้วชนะมั้ย ต่างจังหวัดชื่อเสียงก็ไม่ใช่ทุกที่ที่จะชนะ(แต่คนก็ชอบดูถูกคนตจว.กันว่าจ่ายเงินก็เลือกแล้ว) เพราะไม่งั้นเวลาจะทำอะไร ทุกฝ่ายไม่ว่าฝ่ายปชต. ฝ่ายรัฐบาล ก็อ้างเสมอว่า "ถูกซื้อเสียง"

ส.ส.เขต ผมไม่มีปัญหา เพราะมันที่จะใช้คะแนนแค่ 40k 60k อะไรก็ตามที่คุณบอก เพราะหลักคิดมันคือการเข้าไปเป็นตัวแทนใน"เขตพื้นที่"นั้นๆ ในขณะที่บัญชีรายชื่อเขตมันคือทั้งประเทศ คะแนนจะมากกว่าก็ไม่แปลกอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ผมว่าควรปรับแก้ให้คะแนนมันแฟร์ขึ้นได้คือการปรับอัตราส่วน ส.ส.เขต:ส.ส.บัญชีรายชื่อ คะแนนบัญชีรายชื่อก็จะใช้อัตราส่วนที่ลดลงไป แต่แน่นอนว่าผมไม่เห็นด้วยกับหาร500แน่ๆ

แต่เห็นต่างกันได้ครับ ไม่ว่ากัน  

ผมไม่มีปัญหาครับ ว่าจะ หาร 500 หรือ100 ในกรณี ของ หาร500 มันต้อง ใช้บัตรใบเดียว ครับ แต่ตอนนี้ ตามรัฐธรรมนูณ ต้องใช้บัตร 2 ใบ หาร500 มันมีปัญหาครับ สมมุติ ว่า คะแนน ของ ก้าว ไกล 6 ล้านเสียงแต่ ก้าวไกลไม่ได้ สสเขตสักคนเดียว ก็เท่ากับ ก้าวไกลได้ สสปาตี้ริสเกิน 80 กว่าคนแล้วนะครับ เหลือ อีก20 ที่ มันเกิน ครับ เพราะ สสปาตี้ริส มี 100 คน ยังไม่รวม เพื้อไทย ที่ ได้ สส เขต เกิน สสพึงมีอีก แค่คิด ก็ วุ่นวายแล้วครับ  

ทำไมต้องใช้ใบเดียวครับในเมื่อผมชอบสส.เขตคนนึงแต่ผมไม่ได้ชอบพรรคเค้าทำไมต้องบังคับให้เลือก 1 ได้ 2 อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆ

ส่วนกรณีก้าวไกลได้ 6 ล้านละได้ปาตี้เกิน 80 ผมว่าก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรนี่ครับเพราะนั่นคือคอนเซ็ปของการเลือกแบบนี้อยู่แล้วเหลือ 20 ที่ไม่มีทางเกินครับถ้าไม่มีเคสต่อไป

เคสเพื่อไทยได้เขตเกินอันนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้ 3 ทางเพราะเรามีประสบการณ์มาแล้วอยู่ที่การเขียนกฎหมาย

ถ้าถามว่าทำไมต้องทำให้ยุ่งยากให้กลับไปอ่านที่ผมตอบไปก่อนหน้าก็ชือเพื่อรักษาสิทธิของบัตรทุกใบของประชาชนนั่นเอง