สมาคมฟุตบอลไทย ร่วมหารือ เอเอฟเอฟ และ กรมพลศึกษา เตรียมข้อมูลชงรัฐบาลจับมือชาติอาเซียน เสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034

จากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 35 แบบเต็มคณะ ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ผู้นำรัฐบาลของชาติสมาชิกในอาเซียน เห็นพ้องเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกร่วมกัน โดยให้วางแผนสำหรับความพร้อมหากว่าต้องการเสนอตัวสำหรับฟุตบอลโลกในปี 2034

สำหรับประเทศไทย โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมให้การสนับสนุน และได้มอบหมายให้ ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา ในฐานะเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกีฬาของอาเซียน ASEAN SENIOR OFFICIALS MEETING ON SPORTS (SOMS) เป็นประธานคณะทำงาน ซึ่งในเวทีการประชุมระดับรัฐมนตรีกีฬาของชาติอาเซียนได้ให้ประเทศไทยรับหน้าที่ในการเป็นผู้นำการเสนอตัว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมบุญสม มาร์ติน กรมพลศึกษา ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา ได้เชิญ มร. เคียฟ ซาเมธ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน, มร. วินส์ตัน ลี เลขาธิการเอเอฟเอฟ และ นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เข้าประชุมเพื่อให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการเสนอตัวในฐานะผู้แทนองค์กรในด้านกีฬาฟุตบอล พร้อมกับผู้เชี่ยวชาญ ที่นำการเสนอตัวฟุตบอลโลก 2026 ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก เข้าประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้รับข้อมูลขั้นตอนที่ครบถ้วน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจัดตั้ง Techincal Working Group (TWG) ที่มีผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนมาทำงานร่วมกัน

นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า “ทางสมาคมฯ ผู้แทนจากสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการเสนอตัวเจ้าภาพฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด มานำเสนอข้อมูลขั้นตอนให้กับทางหน่วยงานที่รับผิดชอบในขั้นนี้คือ กรมพลศึกษา เพื่อให้ทราบถึงกระบวนการขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยขอยกตัวอย่างให้ทราบจากการประชุมครั้งนี้ว่า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ หรือ อีเวนต์ มหกรรมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการประชุม งานเอ็กซ์โป รวมถึงฟุตบอลระดับทวีป และฟุตบอลโลกนั้น ต้องมาจากนโยบายรัฐบาลของประเทศนั้น ๆ ที่ต้องการอีเวนต์มาจัดในประเทศ ให้วัตถุประสงค์หรือแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้เสียก่อน”

“เนื่องจากเอกสาร, หนังสือการันตี, Bidbook จะต้องได้รับการลงนามโดยผู้นำของประเทศ ร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเท่านั้น และผ่านมายังสมาคมฯ เพื่อนำเสนอต่อฟีฟ่าในฐานะประเทศสมาชิก อย่างไรก็ตามระเบียบการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกในรอบ 2030-2034 น่าจะออกมาในช่วงปลายปีนี้ ในระหว่างนี้ จะเป็นการเตรียมความพร้อมด้วยการนำข้อมูลมาตรฐานของปี 2026 มาเปรียบเทียบ ให้คณะทำงานศึกษารายละเอียดก่อน”

“ทางเอเอฟเอฟ ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลที่สำคัญ แก่กรมพลศึกษา ในการนำไปดำเนินการ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยินดีให้การสนับสนุนข้อมูลในขั้นตอนต่อๆ ไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” เลขาฯสมาคมลูกหนัง กล่างทิ้งท้าย

เหอะไม่ไหวอย่าฝืน เอเซียยังยาก แล้วอาเซียนจะเหลือไร

อย่าหาทำเลย โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมของภูมิภาคเราไม่ได้เอื้อเลย
สนามก็ต้องลงทุนใหม่ อีกอย่างผมไม่เชื่อว่ารัฐจะลงทุนแล้วประเทศได้ประโยชน์แบบตอนโปแลนด์จัดยูโร
ดูทรงแล้วจะออกมาเหมือนตอนบราซิลจัดมากกว่า ขาดทุนยับเม็ดเงินรั่วไหลๆไปตามโครงการเยอะแยะไปหมด
ยิ่งมีประสบการณ์จากฟุตซอลโลกแล้วด้วย

ถ้ามีผู้นำอย่างชัชช่า บอลโลกจัดได้แน่นอน

แต่ถ้าแบบปัจจุบัน
บอล อบต. ก็จัดออกมาได้ห่วยอะ

โถ่ ญี่ปุ่นจัด ทุกวันนี้ยังใช้หนี้ไม่หมดเลย เศรษฐกิจล่มจม ไทยทุกวันนี้เศรษฐกิจดีตาย อย่าหาทำ อยากได้ผลงานให้คนจดจำ อยากใช้งบ แต่ไม่ได้ดูเลยว่าเศรษฐกิจตอนนี้มันเป็นยังไง

ฮ่าๆ เลอะเทอะมาก

อย่าเลย​ ไม่มีอะไรพร้อมซักอย่าง​ฝืนไปอายเปล่าๆ​

ราชมัง มีรถไฟฟ้ายัง

อย่าเลย

ยอมรับเถอะเรายังไม่พร้อม

ถึงตอนนั้น โครงสร้างพื้นฐานผมว่าบ้านเราน่าจะดีขึ้นเยอะแล้วนะ อีกอย่างจัดแบบอาเซียน ผมว่าเราคงไม่ต้องแบกภาระเท่ากับของบราซิล แต่นั้นแหละ ผมอาจมองแค่ผิวเผิน

เอาไว้ ทีมชาติไทยเริ่มไปบอลโลกก่อน ค่อยคิดยังทัน...

ถ้าได้จัด พอเลยเละเทะแน่เศรษฐกิจประเทศ

สนามที่จัดได้ยังไม่มีเลย จะเสนอตัวได้ยังไง

ญี่ปุ่นเจอโควิดในปีที่จะจัดโอลิมปิก เลยเลื่อนไปปีนึง แต่ถอยไม่ได้ เลยกลืนเลือดจัดให้จบงานไป หนี้ค่อยมาใช้ทีหลัง

ในนี้หลายคนค้านกันเพราะนึกไม่ออกว่าจะไปจัดงานใหญ่ขนาดนี้ทำไม สนามยังไม่ได้มาตรฐานเลย

แต่อย่าลืมว่า กว่าจะได้จัดก็ปี 2034 ถ้าไม่เตรียมตัวล่วงหน้ากับชาติสมาชิกอื่น (คาดว่ามาเลเซียและอินโดนีเซียเอาด้วย) ไม่ปรึกษาคณะทำงานที่จัดบอลโลก 2026 (สหรัฐฯ, แคนาดา และเม็กซิโก) เกิดถึงเวลาจริงๆ เตรียมแพ้แต่ในมุ้งแบบเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกแน่นอน

โปรเจคนี้เห็นคุยเมื่อปีที่แล้ว และเบื้องต้นอาเซียนรับเรื่องแล้ว มาถึงขนาดนี้ยังไงก็ต้องเดินหน้า ส่วนจะพัฒนาโครงสร้างอะไรนี่แหละที่หลายคนกังวล อันนี้ต้องชี้แจงให้ชัดเจน มีแผนให้ชัด จะจัดยังไงไม่ให้เข้าเนื้อหนักๆ หรือทำกำไรได้ ไม่เข้าเนื้้อแบบที่แอฟริกาใต้และบราซิลทำ ไม่งั้นคนก็ค้านอยู่แบบนี้แน่

ยิ่งจำนวนนัดมากถึง 80 นัด การเป็นเจ้าภาพร่วมกับหลายๆ ชาติคือวิธีแบ่งเบาภาระได้ดีที่สุดครับ