ใครชอบฟังมากกว่า ดูรีวิวจัดเต็มที่นี่




มนต์รักวัวชน
.
.
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาคใต้ แต่ในตัวหนังได้นำเอาทั้งความเป็นภาคใต้และอีสานมา collab กัน ทำให้เราได้เห็น หม่ำ จ๊กม๊ก มาปะทะกับ เอกชัย ศรีวิชัย อีกครั้ง
.
หนังว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวนักเลี้ยงวัวชน และเพื่อนสามกลุ่มที่ขัดแข้งขัดขากัน ส่งผลไปถึงรุ่นลูกที่ดันไปตกหลุมรักกันเอง เรื่องวุ่นๆจึงเกิดขึ้นตามมา
.
หนังได้ทีมสร้างชุดเดียวกับ "มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ" และ "อีหล่าเอ๋ย" ทำให้ไม่ต้องสงสัยว่าเรื่องนี้จะคงความเป็นหนังท้องถิ่นไว้ใต้อย่างเต็มเปี่ยม แต่กลับกลายเป็นว่าจุดที่เราสนใจ และชอบจากหนัง คือสิ่งที่เรามักไม่ได้เห็นในตัวเมือง อย่างการจัดกีฬานำวัวมาชนกันท่ามกลางความดุเดือดในสนามที่เต็มไปด้วยคนดู อันนี้น่าสนใจดี มีอารมณ์ความเป็นคาวบอยนิดๆ บวกกับlandscapeของบรรยากาศในหนัง ก็มีความเป็นธรรมชาติแดนใต้ที่ดูสวยดี
.
แต่ในเรื่องมุก ส่วนตัวคิดว่าเราคงไม่ใช่target เพราะในโรง
มีคนนั่งขำกระจายกันเกือบทั้งเรื่อง ส่วนเราก็แอบกริบ เหมือนมาสังเกตการณ์ซะมากกว่า ภาพรวมในความประทับใจของเราเลยจะเป็นเรื่องของการที่ได้เห็นถึงวิธีคิดวิธีเล่าหนังในแบบท้องถิ่น รวมถึงบรรยากาศไทยๆฝั่งใต้ในแบบที่เราไม่ค่อยได้เห็นในหนังไทยนัก
.
ภาพรวมถือว่าลงตัวกว่าอีหล๋าเอ๋ย
แต่ยังไม่กลมกล่อมเท่ามนต์รักดอกผักบุ้ง
ส่วนนึงที่เรื่องนั้นมันสร้างภาพจำ ก็ต้องให้เครดิตเพลงด้วย
เพราะหนังทั้งเรื่องมันชัดตั้งแต่เพลงเลิกคุยทั้งอำเภอแล้ว
ในขณะที่เรื่องนี้ กีฬาวัวชน ก็เด่นประมาณนึง ส่วนมุกหรือเส้นเรื่องที่มีความเชือดเฉือน เราก็รู้สึกเหมือนเป็นobserverมากกว่ารู้สึกอินเข้าไปในบริบทนั้นๆ

การเอาวัวมาชนกันมันเป็นกีฬาตรงไหนอ่ะครับ
ทำไมหนังต้องทำมาเพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่ทรมานสัตว์
นี่ปี 2565 ไม่ใช่ 2465 ที่มนุษย์เราจะไม่มีความรู้มากพอจะแยกแยะได้ว่าอะไรคือกีฬาอะไรคือการทรมานสัตว์

ด้วยความไม่เคารพ ขอให้หนังเรื่องนี้เจ๊งครับ

ปล.ผมเคยทำงานสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศผ่านกล่องดาวเทียมช่องนึงวันๆฉายแต่วัวชนเพราะเจ้าของเป็นคนใต้เขาชอบวัวชนมาก เอาเป็นว่าผมเห็นเบื้องหลังของกิจกรรมนี้มากพอที่จะบอกได้ว่าเป็นกิจกรรมสนองความสะใจของคน มากกว่าจะเรียกว่ากีฬา