ไทยลีครายได้ดีกว่าครับ ดีกว่าเยอะมากๆด้วย

ยกตัวอย่างลีคสูงสุดฟินแลน

ตัวทีมชาติฟินแลนบางคนได้เงินเดือนไม่ถึงเดือนละหนึ่งแสนบาทด้วยซ้ำครับ

ถ้าจะให้พูดจริงๆ ไทยลีค 2 ดีกว่าลีคสูงสุดของเวลส์อีกนะ

ทีมในลีคสูงสูดเวลส์ เป็นมืออาชีพ ไม่กี่ทีมเอง นอกนั้นสมัครเล่น หรือเซมิโปรหมด


เด็กเวลส์ถ้าไม่ย้ายมาลีคอังกฤษ ก็เลิกไปทำอย่างอื่นเพียบ


ถ้ามาไทยแล้วฝีมือตกมั้ย ผมว่าตกนะ แต่รายได้นักฟุตบอลบ้านเราสูง
ส่วนใหญ่ก็อยากย้ายกลับมากันทั้งนั้น


จริงๆ อยากกลับมาก็ไม่ว่ากัน แต่อยากให้สู้ ไต่ระดับในยุโรปให้ถึงที่สุดก่อน ถ้าไม่ไหวค่อยกลับมาก็ได้
สักอายุ 28+ ก็ยังดี คงมีความรู้สึกเหมือน ฟิลิปปินส์ ตัวอาเซียนแต่โควต้ายุโรปนั่นแหละ

กลับมาบ้านเราไว มันจะไปต่อที่อื่นยาก แต่ถ้ากลับตอนอายุ 28+แล้ว อย่างน้อยยังได้นำ ปสก ในยุโรปมาหากินในไทยลีคได้สบาย แถมคนอื่นๆได้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วย

อยู่ยุโรปถ้าไม่ใช่ประเทศลีคๆใหญ่รายได้น้อยๆจริงๆนะ ถ้าจะเลือกลีคลองลงมาแต่รายได้ดีกว่ามันไม่ผิดเลย
อายุฟุตบอลมันสั้น ยังไงก็ต้องหาผลประโยชน์ให้ตัวเองก่อนอยู่แล้ว
นักฟุตบอลก็อาชีพอาชีพนึงที่ต้องหารายได้ กลับมาไทยไม่ผิดเลยผลดีล้วนๆรายได้ดีกว่าเยอะ

ผมใช้คำว่าเสียดาย Potential ดีกว่า เพราะเรารู้ดีกว่า ความเข้มข้นของการแข็งขันหรือการฝึกซ้อมของไทยเรา มันไม่ได้ดี ทำให้สิ่งที่เขาสร้างจาก ยุโรปหรือต่างประเทศมันหายไปแล้วกลายเป็นนักเตะดาดๆ ไป ใช้คำนี้ละกันเหมือนเบน เดวิส ที่ถ้าจะกลับมาไทย แล้วดั้นเจอการซ้อม จากสเต้ปความเร็วระดับ อังกฤษพอเจอที่ชิลๆ ก็จะกลายเป็นโดนกลืนแล้วทำให้ไม่สามารถไปได้ไกลแบบไปญี่ปุ่น ได้อีกครั้งกลัวตัวนี้มากกว่า แต่ถ้ามาเพื่อตั้งตัวเพื่อไปต่อ แล้วเต็มที่ผมก็สนับสนุน

คือถ้าคุณ assume อยู่แล้วว่าถ้าเค้าไม่มาไทยลีคก็จะเลิกเล่นไปเลย แบบนี้มันก็ล๊อคคำตอบอยู่แล้วนะว่าควรย้ายมาไทยลีคดีกว่าเลิก ซึ่งแบบเนี้ยไม่ต้องถามก็ได้คำตอบก็เห็นๆอยู่ แต่แฟนบอลไทยทั้งหมดเค้าพูดในมุมการพัฒนาฝีมือ พอคุณมาไทยลีคจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่มันก็ทำให้ฝีมือถดถอยลง ยังไม่นับที่แฟนบอลเค้าตั้งข้อสังเกตุว่าทีมเงินถุงบางทีมจ้องจะเอาลูกครึ่งเด็กๆหล่อๆกลับมาเพราะกระแสเพื่อการตลาดอีกโดนทุ่มเงินให้เกินฝีมือ คือกระแสต่อต้านการดึงนักเตะลูกครึ่งมันมาจากที่มีบางทีมจะดึง "เด็กๆ 17 - 22" ปีพวกนี้กลับมา ซึ้งอายุช่วงนี้มันยังสู้ต่อได้อีกเยอะก่อนกลับมาโกยที่ไทย

คือที่พูดๆกันเนี่ยส่วนใหญ่คือเรื่องพัฒนาการของนักเตะมากกว่า มันน่าเสียดายที่ต้องย้ายมาเล่นในไทยลีค

ยิ่งเทียบกับเด็กไทยหลายคนตอนนี้ที่พยายามดิ้นรนไปเล่นทีมลีครองๆในต่างประเทศแล้วพูดย้อนกลับมาว่า "ระบบการฝึกซ้อมของทีมดูเข้มข้นมากกว่าตอนซ้อมกับทีมในไทยมาก" หรือแม้แต่เจก็เคยพูดทำนองนี้

สิ่งเหล่านี้เนี่ยแหละที่แฟนบอลกำลังพูดถึงอยู่ โอเคแหละกลับมาเล่นในไทยลีคอาจจะยกระดับฝีเท้าจากตอนเป็นเยาวชนได้บ้างแต่มันก็แค่ระดับอาเซียน พอไปเจอทีมระดับเอเชียก็เล่นกันไม่เป็นเลย

ถ้าไม่อยากให้แฟนบอลคิดแบบนี้ .. ก็หันมาจัดการระบบการฝึกซ้อม โภชนาการ วินัยต่างๆให้มันสมกับที่แฟนบอลเห็นฟีคแบคจากเด็กๆที่พูดผ่านสื่อกันมาซิครับ ถ้าดีจริง .. เด็กๆที่ส่งไปฝึกกับสโมสรต่างประเทศทั้งหลาย พวกเขาไม่มีบ่นหรอกว่าฝึกหนักกว่า โหดกว่า บลาๆๆ

เอาจริงๆคนที่มาไทยลีกส่วนใหญ่ก็คือฝีเท้าไม่ถึงขั้นจะไปต่อที่ตปท.ได้นั่นแหละ
บางคนก็ไม่สมควรได้เงินเดือนเยอะแยะอะไรเลย เมื่อเทียบกับฝีเท้าที่แท้จริง
เพียงแต่ตอนกลับมาใหม่ๆก็เห่อ ได้ชื่อว่าเป็นลูกครึ่งฝึกมาจากตปท. ก็ให้เงินเดือนเยอะ สักพักก็ดับไปหลายคน
บางคนฝีเท้าก็ระดับทีมล่างๆไทยลีก สู้คนไทยแท้ๆไม่ได้ด้วยซ้ำ เงินเดือนก็ไม่ควรจะได้เยอะแยะอะไรหรอก

การพยายามดึงกลับมาเล่นไทยลีกเป็นผลเสียอยู่แล้ว เพราะไทยลีกควรจะเป็นที่ลำดับสุดท้ายของการไม่มีที่ไปแล้ว
ไม่ควรเป็นที่แรกๆในการพยายามดึงดาวรุ่งกลับมา ซึ่งจริงๆถ้าคนที่มีพรสวรรค์ถึงก็คงไม่อยากมาเล่นไทยลีกแหละ
ยกเว้นแต่ว่าไทยลีกจะยกระดับในการส่งออกนักเตะได้ ถึงจะน่ามาเล่นเป็นฐาน

ถ้าพวกมีแวว มีดี ก็อยากให้ค้าแข้งเมืองนอกต่อไปแหละ ไม่ไหวจริงๆ แต่ฝีมือยังมีดีในระดับเอเชีย ค่อยมาไทยก็ไม่เสียหาย

ส่วนยกระดับทีมได้หรือไม่นี่ขึ้นกับตัวนักเตะเลย เหมือนอย่างแข้งนอกที่สโมสรดึงมาแล้วกลายเป็นตัวตัดสินแชมป์ในทันทีแม้เล่นในไทย แข้งลูกครึ่งก็เหมือนกันแหละถ้าใจยังสู้อยู่

เสียแต่เราเห็นแต่พวกลูกครึ่งไม่ได้ไปต่อเยอะ มากกว่าพวกที่รักษาฟอร์มได้เท่านั้นเอง

ทุกคนต้องเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง แค่นั้นเลย
อย่าไปคิดแทนว่าเขาคิดผิดหรือคิดถูก ผลลัพธ์มันก็คือสิ่งที่ตามมา

พูดออกมาเอง ว่าระดับนั้นบางคนเลิกเล่นไปแล้ว แค่นี้ก็รู้แล้วครับ

ผมไม่ได้อคตินะ แต่การที่มาเมืองไทย คือแม่ง หมด passion ไปแล้ว

สิ่งที่มีมากกว่าคนอื่น คือ "ทางเลือก"ที่มากขึ้นนี่แหละ

ความ "ลูกครึ่ง" อะนะ มีโปรไฟล์หน่อย ก็ชุบตัวได้แล้ว

ไม่ได้เนิร์ฟว่ากระจอก แต่ถ้าสู้ต่อ มันอาจจะไปได้ไกลกว่านี้จริงๆ
อย่างน้อยก็ know how ที่บ้านนี้แทบไม่มีเลย(ต่อให้มีแม่งก็รอไม่ได้)

ก็อาจจะเป็นไปได้ครับ

แต่อย่างที่มิก้าบอก เวล ยู-17 ชุดนั้น ไปถึงทีมชาติชุดใหญแค่4คน
(อ้างอิงจากลิ้งนี้ https://dragonsoccer.co.uk/news-u17.htm)

นอกจากแรมซี่กับเบลแล้ว ก็มี Chris Gunter กับ Christian Ribeiro
แต่สองคนนี้ระดับสโมสรก็ไปสุดแค่ เล่นในแชมป์เปี้ยนชิพ

ส่วนที่เหลือไม่ต้องพูดถึง ส่วนใหญ่ก็วนเวียนในลีคดิวิชั่น7-10ของอังกฤษ ไม่ก็ลีคของในเวล ซึ่งก็แขวนสตั๊ดตั้งแต่อายุไม่เยอะกันหมดเพราะรายได้จากการเตะฟุตบอลระดับล่างมันไม่พอเลี้ยงชีพจริงๆ

ซึ่งก็สอดคล้องกับที่แรชฟอร์ดกับลินการ์ดเคยออกมาพูดมา มีดาวรุ่งแค่ 0.012% เท่านั้นแหละที่ทะลุมาเล่นถึงระดับพรีเมียร์ได้
การจะขึ้นไปเล่นระดับนั้นในยุโรปได้มันอาจจะต้องมีอะไรมากกว่าแค่คำว่าใจสู้จริงๆครับ

บางทีการที่เขาเลือกมาไทย อาจจะเป็นเพราะเขายังมีแพชชั่นและเลือกที่จะสู้เพื่อจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพต่อไปก็ได้ครับ

ถ้าเก่งจริงยังไงก็มีทีมให้เล่น แต่พอเล่นระดับสูงไม่ได้ก็ต้องหาที่ต่ำลงมา เรื่องปกติ

จริงครับที่ เด็กๆ 17 - 22 ยังสู้ได้ต่อในยุโรป ผมเห็นด้วยว่าถ้าพวกเขาไม่มาไทย"ก็อาจจะ"ประสบความสำเร็จในยุโรปก็ได้

แต่ผมเอาสถิติมาบอกเพื่อทุกคนจะได้เข้าใจและเห็นภาพว่า คำว่า"โอกาส"หรือ"เปอเซ็น"ที่จะประสบความสำเร็จใจการเป็นนักฟุตบอลอาชีพในยุโรปเนี่ยมันอยู่ที่เท่าไรกันแน่

บางคนพอรู้แล้วก็ไม่เป็นไร แต่หลายๆคนอาจจะยังเข้าใจผิด คิดว่าถ้าพวกนักเตะลูกครึ่งอายุน้อยอยู่สู้ในยุโรปต่อ เปอเซ็นประสบความสำเร็จอาจจะอยู่ที่10-20%

ซึ่งจริงๆโอกาสสำเร็จมันน้อยกว่านั้นมากๆ

มีดาวรุ่งแค่ 0.012% เท่านั้นแหละที่สามารถทะลุมาเล่นถึงระดับพรีเมียร์ได้

หรือถ้าจะบอกว่าไม่ต้องไปถึงระดับนั้นก็ได้ แค่เล่นในยูโรปก็พอ ก็ต้องบอกว่ามีน้อยกว่า 0.5%ของเยาวชนที่สามารถเป็นนักบอลอาชีพได้

แค่นี้แหละครับที่ผมอยากนำเสนอ ส่วนแต่ละท่านจะคิดยังไง ผมเคารพความเห็นท่านและทุกๆคนครับ :)

ให้ความเห็นเรื่องพัฒนาการกันไปเยอะแล้ว
มาพูดเรื่องค่าจ้างนักบอลละกัน


ผมเคยรู้จักนักบอลคนนึงเล่น T2 ไทย
อายุ 25 (ตอนนี้น่าจะ 27-28 ราวๆนี้)

เงินเดือน 80000

แต่ฝีเท้านี่แบบเฉยๆมาก
เป็นได้แค่ตัวสำรองด้วย

ที่จะสื่อก็คือ นักบอลไทยเรา รับค่าจ้างแพงเกินฝีเท้าไปเยอะมาก
เยอะจนตกใจเลย แบบอะไรวะ 80000 เล่นได้แค่นี้เนี่ยนะ
คือเล่นได้พอๆกับพวกที่รับ 30000 เลยอะ

สุดท้าย อยู่ที่นักเตะแหละ จะไปฟังแฟนบอล ฟังโซเชี่ยลเยอะ บั้นปลายสุดท้ายอาชีพนักเตะก็ไม่ได้มาอยู่ช่วยหรอก

อยากได้เงิน ได้ชื้่อเสียง ได้ ปสก ก็แล้วแต่การตัดสินใจเจ้าตัว แฟนบอลได้แค่แสดงความเห็นเท่านั้น

สุดท้ายก็มองกลับไปที่ระบบการสร้างนักเตะอยู่ดี ระบบประเทศกำลังพัฒนา วงการกีฬาก็อยู่ในกำลังพัฒนา ฉันใดฉันนั้น