《ดูบอลกับแนท》 ทำไมดีลเดอ ยอง ถึงช้า
๑_oGDo_๑ พิมพ์ว่า:
ZIEGELHOF พิมพ์ว่า:
๑_oGDo_๑ พิมพ์ว่า:
chonbodee พิมพ์ว่า:
ถ้ามันพึ่งช้าฤดูกาลนี้ไม่มีใครว่าหรอกครับ
แต่ทีมงานแมนยูมันเป็นแบบนี้ตลอดมา 3 ปีละ ช้าตลอด
จะมาบอกว่า ดึงช้าไม่อยากเป็นหมูในตลาดให้เชือด คำถามคือสุดท้ายจ่ายราคาที่เขาเรียกมั้ย
คำตอบคือก็ใช่ในหลายๆดีล
ผมเห็นลิเวอร์พูล แมนซิ ทีมที่งานซื้อขายเขาเทพๆ เขาไม่เห็นต้องดึงช้าไรขนาดนี้เพื่อให้ได้ราคาเลย
ขนาดทีมเขาเป็นทีมระดับแชมป์ยังเสริมทีม เตรียมทีมไวกว่าเราอีก
อันนี้ข่าวคือ เทนฮาก ยื่นรายชื่อให้ตั้งแต่นัดที่ 38 ของพีเมียร์แล้วนะ
จนจะเปิดแคมป์ซ้อมละ นักเตะที่กุขออยู่ไหนวะนิ เทนฮาก คงสงสัย เซ็น 0 ตัว
ผมว่ายอมรับกันไปตรงๆ ไม่ต้องหาเหตุผลไรมากก็ได้ว่า ตลาดนี้ออกตัวได้แย่แล้วสำหรับแมนยู
เดี๋ยวๆๆ นะครับ ทีมงานแมนยูชุดนี้เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึง 1 ปี เลยนะครับ
ไปเอา 3 ปีมาจากไหน ถ้าเหมารวมแบบนี้
ผมว่ามันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เหมือนด่าแค่เอาสะใจตัวเองรึป่าว
ตลาดเปิดได้ 2 อาทิตย์ เหลือเวลาอีก 2 เดือน
ลองมองด้านงบดุล การเงินของสโมสรบ้างก็ได้นะครับ งบปี 64 สโมสรขาดทุน 90+ ล้าน
ซึ่งทางเอ็ดมันใช้จ่ายโง่ๆ ซื้อนักเตะแพง จ่ายค่าเหนื่อยแพง
มายุคอาโนล CEO คนใหม่ต้องการจะเคลียบิลงบดุลเก่าๆตัวแดง ให้จบ
เริ่มงบดุลใหม่คือ กรกฏานี้ อาโนลน่าจะเริ่มจ่ายเพื่อสร้างบิลใหม่ให้สวย
เพราะมันจะไม่โดนภาษีหนักเกินไป ดูอย่างเชลซีก็ได้ ทีมเพิ่งจ่ายเรื่องซื้อสโมสรไป
ข่าวซื้อขายก็เพิ่งเริ่มมีช่วงเริ่มงบดุลใหม่ ต้นเดือน กรกฏา เหมือนเรา
เพราะไม่อยากให้โดนภาษีหนักเกินไป ประเด็นเรื่องการเงินดคตรสำคัญนะครับ
รอดูกันดีกว่าว่าถ้าเราเริ่มงบดุลปีใหม่ เกือน กรกฏานี้ จะมีข่าวดีๆกี่ดีล
แต่!!! ถ้าวันที่ 12 กรกฏกา ทีมยังเงียบ วันนั้นล่ะ ทีมงานบริหารโดนแฟนถล่มยับแน่ๆ
ผมมองว่าในมุมของแมนยูที่ดีลช้าผมว่าไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องภาษีนะ ถ้าอิงตามว่าอยากข้ามปีบัญชีไปก่อน แล้วเดือน ก.ค ค่อยจ่ายเงินซื้อเพื่อให้งบดุลปีที่ผ่านมาดูไม่ตัวแดงจนเกินไปอันนี้เมคเซ้น เพราะถ้าตัวแดงหนักๆมันอาจมีผลเรื่องเครดิตตัวบริษัทกับหุ้น แต่กลับกันถ้าแมนยูจะเอาจะเรื่องผลประโยชน์ด้านภาษีแมนยูต้องซื้อภายในรอบปีบัญชีนี้แหละ เพราะถ้าซื้อคือมันนับเป็นรายจ่ายของแมนยูในปีบัญชีนี้ วิธีคำนวณภาษีคือ รายรับนำมาลบรายจ่าย(ค่าใช้จ่าย) ถ้าเหลือ(กำไร) จึงนำเงินที่เหลือไปคิดภาษีของปีนั้นๆ จะกี่เปอเซ็นก็ว่าไป แต่ถ้ารายจ่ายมากกว่ารายรับเท่ากับปีนั้นขาดทุน มันก็จะไม่มีกำไรให้ไปคิดภาษี หรือต่อให้เสียก็เสียน้อยลงเพราะมีรายจ่ายไปหักรายรับ อันนี้ในกรณีของยื่นเสียภาษีรายปีนะ ไอส่วนของกำไรสะสมนั้นมันอีกเรื่องนึง เพราะงั้นผมว่าไม่น่าใช้เรื่องของภาษีแน่ๆ เพราะถ้าซื้อปีบัญชีนี้อะแมนยูได้ประโยชน์เรื่องภาษีเต็มๆ ผมว่าไอที่ช้าอะแค่จะดึงเชิงกับบาซ่า บีบให้ใกล้วันปิดมากบัญชีมากที่สุดจะได้ได้เปรียบเรื่องการต่อราคา เพราะยังไงๆฝ่านบาซ่านั้นแหละที่ต้องการเงินหรือรายรับเข้าไปตกแต่งบัญชีตัวเองในปีนี้ให้ดูดี
อย่าลืมเรื่องบัญชีแดง เรื่องค่าเหนื่อยที่ยังต้องจ่ายอยู่อีกนะครับ
พวกนักเตะที่ย้ายออกไป มาติช มาต้า บราๆๆๆๆ ออกไปก็จริง
แต่เราต้องจ่ายจนถึงสิ้นเดือน มิถุนา นะครับ คิดให้ระเอียดนิดนึง
นี่ยังไม่รวมค่าตัวนักเตะที่เราต้องผ่อนจ่ายอีกนะครับ รายละเอียดรายจ่าย
โคตรเยอะ งบดุล เป็นหนี้ 90 ล้าน มันหนักนะครับ ถ้าผมเป็น CEO คนใหม่
ผมไม่เอาผลงานผมไปรวมกับงบดุลเน่าๆกับของไอ่เอ็ดหรอกครับ
ผมสร้างผลงานของทีมงานผมกับงบดุลใหม่ดีกว่า เคลียงบเน่าๆไปก่อน
สร้างตัวเลขงบดุลใหม่ ได้ทั้งบิลสวยๆ ได้ทั้งหุ้นที่น่าจะพุ่งขึ้นอย่างถูกเวลา
ผมไม่ได้มีเจตนาจะเถียงครับ อย่าพึ่งเข้าใจผมผิด555 ผมคิดละเอียดแล้วครับเลยแย้งไปเรื่องภาษีเพราะไม่อยากให้คนอื่นอ่านแล้วเข้าใจเรื่องภาษีผิดไป
ที่ว่าceoใหม่อยากให้งบในบัญชีไม่แดงไม่ติดลบอะผมเห็นด้วย มันไม่มี ceoที่ไหนอยากบริหารแล้วขาดทุนอันนี้จริงครับ
ผมแค่อยากให้ข้อมูลเรื่องที่บอกว่าไม่อยากให้โดนภาษีหนักครับว่ามันไม่ถูกต้องซะทีเดียว ถ้าปีนั้นปิดงบมาบริษัทมันขาดทุนแปลว่าภาษีของปีนั้น มันคือไม่ต้องเสียครับ เพราะปีนั้นคุณไม่ได้กำไร รัฐมาคิดภาษีของปีนั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกแผนกบัญชีของทุกบริษัททั่วโลกเค้าถึงรักการมีบิลรายจ่ายหรือการสามารถเมครายจ่ายได้ไงครับ ถ้ามันไม่ใช่รายจ่ายต้องห้ามแปลว่ามันเอามาหักรายรับได้(รายจ่ายต้องห้ามคือรายจ่ายที่เอาไปหักรายรับไม่ได้) เท่ากับบริษัทเสียภาษีน้อยลง ผมแค่จะแจงในส่วนภาษีนี้เฉยๆครับ
ส่วนเรื่องผ่อนจ่ายนักเตะที่ซื้อมาที่ค้างๆอยู่อันนี้ตามหลักบัญชีทั่วไปกับที่เคยอ่านของแมนยู เค้าหักเต็มแต่แรกแล้วครับ สมมุติคุณซื้อนักเตะราคา50ล้าน แต่เงื่อนไขจ่ายสด30 ผ่อนอีกปีละ10ล้าน 2ปี คือเค้าหักในงบปีนั้นไปเลยเต็ม50ครับ อีก20ที่เหลือเค้ากันงบเก็บไว้สำหรับจ่ายเฉพาะดีลนี้ไปเลย ไม่นำกลับลงไปกองรวมกับงบอื่นๆแล้ว แปลว่าตัวเลขสรุปที่เราเห็นๆกันมันคือยอดของปีนั้นๆเลยครับ ไม่มีมาบวกค่าผ่อนจากปีที่แล้วๆมา เค้าหักยอดเต็มไปแล้วครับ
ส่วนที่บอกเป็นหนี้ 90ล้าน อันนี้คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ งบที่เราเห็นๆกันแค่แสดงผลประการของปีนี้นะครับว่า*ขาดทุน*ของแค่ปีนี้ 90กว่าล้าน
(หนี้จริงๆของแมนยูตอนนี้คือประมาณ 400กว่าล้านครับ ซึ่งมันเป็นหนี้ตั้งแต่ตอนที่เกลเซอร์กู้เงินมาซื้อแมนยู แล้วให้สโมสรแมนยูเป็นลูกหนี้แทนแล้วครับ ผมจะไม่อธิบายเพิ่มนะว่าทำไมตั้งนานแล้วหนี้ยังไม่ลด เอาง่ายๆแค่ว่าในมุมการทำธุรกิจการบริหารธุรกิจเกลเซอร์กับเอ็ดคือมันเก่งและฉลาดมากๆครับ จับเสือมือเปล่าแถมปันผลกำไรเข้ากระเป๋าเจ้าของตลอด แค่ในมุมแฟนบอลไม่มีใครชอบหรอก ผมก็หนึ่งในนั้น)
ใช่ครับการขาดทุนปีนี้ 90 ล้านมันแย่มันคือการบริหารที่ผิดพลาด แต่จากที่เห็นในงบที่แถลงของ10ปีที่ผ่านมา ปีที่กำไรมันเยอะกว่าปีที่ขาดทุนอยู่ประมาณนึง ปันผลเข้าเกลเซอร์ปีละ20ล้านมา3-4ปีแล้วครับพึ่งจะมีปีนี้ที่ปันผลแค่10 เพราะงั้นผมว่าตอนนี้มันยังไม่ได้เน่าขนาดนั้นครับในภาพรวม
แค่ของปีนี้ที่มันแย่
ส่วนเรื่องceoใหม่จะอยากสร้างผลงานตัวเองให้ดูดี โดยไม่อยากเอาผลงานตัวเองไปรวมกับceoคนเก่าเพราะเดี๋ยวตัวเลขตัวเองจะไม่สวย อยากไปเริ่มใหม่เอาปีบัญชีหน้า อันนี้ผมว่าผู้บริหารระดับนั้นเขาไม่มาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นั้นหรอกครับ เขาต้องเอาสโมสรมาก่อนตัวเองอยู่แล้วครับ ถ้ามันจะต้องซื้อนักเตะในเดือนนี้มันก็ต้องจ่ายครับถ้ามันจำเป็น (ที่ผมมองว่าภายในเดือนนี้เพราะบาซ่าต้องการเงินไปตกแต่งตัวเลขของรอบบัญชีนี้) แค่เหตุผลจริงๆตอนนี้มันไม่มีใครรู้หรอกครับว่าทำไมถึงดึงช้า มันอาจจะเป็นแค่เกมการต่อราคากับบาซ่าเฉยๆก็ได้