ผมไม่เคยไปงานเลี้ยงงานบวชเลยผมไม่ชอบ (เคยไปครั้งเดียวของญาติ)
แล้วตอนผมบวชก็ไม่มีเลี้ยงครับ ผมไปอยู่วัดก่อนอาทิตย์นึงไปฝึก เตรียมตัว
ครบ 7 วันโกนหัว เข้าไปทำพิธี นุ่งส้ม ออกมาเปนพระละ
เมียผมบอกจ่ายค่าบวชไปประมาณ 5พันบาท
(ผมไม่นับถือศาสนาเลยแม้แต่นิด ต่อต้านเลยล่ะ พ่อแม่ผมก็รู้เรื่องนี้ดี แต่ก็ยังบังคับผมไปบวชอยู่ดี)

ทีนี้ผมได้ยินคนที่ทำงานผมเขาแฮงค์มาเลย ผมก็นึกว่าไปร้านเหล้ามากัน
ที่ไหนได้ไปงานบวช แฮงค์กันมาทั้งแก๊งเลย มาเล่าวีรกรรม ไอ้นั่นเต้นบนเวที ไอนั่นปีนนั่งร้าน
ไอ้นั่นร้องไห้ ไอนั่นขึ้นโต๊ะเต้น

ผมก็เลยงงนิดหน่อยว่า point ของมันจริงๆแล้วคืออะไร ไปกินเหล้าเลี้ยงฉลองพระที่ได้บวชงี้หรอ แล้วหนักข้อเลยคือดื่มในวัดเลยอ้ะคือถ้างานแต่งผมพอเข้าใจได้นะแบบมีการดื่มฉลองวันสมรส toast ให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว
แต่อันนี้เรา Toast ให้คนที่กำลังจะเป็นพระด้วยเหล้าอะเหรอ หนักๆนี่เคยเห็นในเฟสมีโคโยตี้ด้วย

ยิ่งตอนผมบวชเสร็จนะ สิ่งที่แม่ผมพูดใส่ผมคือ รู้งี้จัดใหญ่ๆก็ดีหรอก เห็นบ้านอา....จัดกันใหญ่โตเลย
นี่เป็นคำพูดของคนที่นับถือศาสนาพุทธนะเนี่ย เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ 555

งงเหมือนกันครับ ตอนผมบวช ตจว ก่อนเราบวช ทำไมคนอื่นๆมาตั้งวงกินเหล้ากัน เพื่อ ??

อวดบารมี อวดรวยคนชาวต่างจังหวัด กทม ปริมณฑลมีน้อย เคยมีแถวลาดพร้าว แห่รถริมถนน ติดยาวยัน the mall คนแห่อวยพรสรรเสริญกันใหญ่

ที่นี่เมืองพุทธ

ตอนผมบวชก็ข้ามหม้อแกงหม้อ ไม่มีเลี้ยงใดๆทั้งสิ้น

อ่อ ผมบวชวัดป่ากิน1มื้อด้วย เคร่งมาก บวช1พรรษาด้วยครับ (3เดือนกว่า)

เห็นแต่พวกจัดงานยิ่งใหญ่โอ้อวด บวชกัน 7วัน 15 วัน

เดี๋ยวนี้ประเพณีแปลกๆเยอะ ต้องแห่ เปิดเพลงดังๆ นาคต้องใส่แว่นดำ ใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ๆ เพื่อนนาคแต่ละคนก็ต้องเมาต้องเรื้อน ไม่งั้นไม่สุด มันดูขัดกับความเป็นพระทุกอย่างเลย อันนี้แถวบ้านผมนะ

หาเรื่องกินเหล้าครับ งานบวช งานศพ งานแต่ง ขึ้นบ้านใหม่ หมาเกิดลูก ครบรอบเลิกเมีย หวยแดก ถูกหวย ได้หมด

ผมก็วัดป่าครับ มื้อเดียวเหมือนกัน คิดว่าเคร่งไหมก็ไม่เคร่ง แต่โดนยึดโทสับทุกคน
เข้าไปผมรู้สึกเหมือนศูนย์พักพิงชายฉกรรจ์ มากกว่าอ่ะ
พระมี 20 คน เคร่งจัดๆ มีแค่ 3 คน 3 คนนี้นี่น่านับถือจริงแบบ โอ้ว
ที่เหลือก็ทำตามกฎวัดบ้าง ไม่ทำตามบ้าง ว่างก็นอน
ส่วนเจ้าของวัด Aka. เจ้าอาวาส อย่างกับนักธุรกิจ ผมเห็นคุยโทรศัพท์ทั้งวัน

อวด

10 ปีที่แล้ว เพื่อนผมบวช มีแก้บน

พวกแดนซ์เซอร์โชว์แก้บนสมใจ เห็นจุกทุกคนไม่มีอะไรปิดเลย

ตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยสนใจงานพวกนี้อีกเลย

แรกๆเจตนาเดิมมันคือการชวนคนมาร่วมกันทำบุญอ่ะครับ ประมาณว่าพระใหม่นี่เค้าถือว่าจะบริสุทธิ์มากเลยจะชวนเพื่อนฝูงญาติพี่น้องมารับบุญกับพระใหม่
แล้วก็หลังๆก็ตัดส่วนที่เป็นบุญไปเหลือแต่อีตรงงานเลี้ยง ถ้าสเกลทั่วๆไปก็คืองานรวมเพื่อนฝูงญาติพี่น้องที่ไม่ได้เจอหน้าเจอตากันบ่อยๆ มากินเลี้ยงสังสรรค์กันอัพเดทชีวิตกันไปแบบงานศพ งานแต่ง
ถ้าสเกลใหญ่หน่อยก็คือการอวดบารมีพ่อแม่พระ ยิ่งใหญ่โตคนมาร่วมงานเป็นร้อยมีโต๊ะจีน มีวงดนตรี มีสส. ผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดมาร่วมงาน ซึ่งก็เต็มใจมางานแหล่ะเพราะได้เจอคนเยอะได้หาเสียงไปในตัว

เทียบกับงานอื่นๆ ผมว่าความคุ้มน้อยสุด บางทีบวชเจ็ดวันเอง ค่าใช้จ่ายหลายแสนคนใส่ซองกันไม่หนักด้วย

ผมก็ไม่เข้าใจ ตอนผมบวชก็ไม่ได้ชวนใคร เลี้ยงข้าวพระปกติ แค่นั้น

พอกันครับ พระใหม่พรรษานั้นของผมมีประมาณ 12 มีเคร่งๆอยู่2 ที่เหลือก็ทำตามฎวัดบ้าง ไม่ทำตามบ้าง ว่างก็นอนเหมือนกัน(ผมก็ด้วย) เจ้าอาวาส ก็เหมือนกับนักธุรกิจเหมือนกันเลย แต่สมัยผมยังไม่เป็นสมาทโฟน ยังไม่มี facebook เลยไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปใช้ ข่าวสารก็อ่านหนังสือพิมพ์กับรอแม่มาใส่บาตเช้า ถึงได้รู้ว่าใครตายใครอยู่

ควรสนใจนะครับ เป็นผมจะไปแบบนี้ทุกงานเลย

คิดว่าน่าจะอารมณ์เดียวกับงานเลี้ยงทั่วไปเลย

ซึ่งเอาจริงๆ การบวช มันไม่มีงานเลี้ยงอยู่แล้ว

แต่คนเรานี่แหละเอามาทำกัน

สมัยผมบวช ไปอยู่วัด 3 วัน วันงาน คือ มีแค่ญาติๆ ทำกับข้าว 3-4 อย่าง ถวายพระ

แล้วก็กินกันเอง คนไม่เกิน 30 คน ไม่มีเหล้า ไม่มีแห่ ไม่มีดนตรี พิธีล้วนๆ จบ